“เพื่อไทย” ดิ้นสุดตัว ระดม “ทาสแม้ว” เตรียมโหวตหนุน “ประชา” นั่งเก้าอี้นายกฯ โวลั่นชนะแน่ อ้าง “ส.ส.ตัวแปร” ฮือสนับสนุน เหตุทนแรงกดดันจาก ปชช.ไม่ไหว ด้าน “สุรพงษ์” ตีปี๊บ หวั่น “ฝ่ายตรงข้าม” สกัด ส.ส.เพื่อไทย” ไม่ให้เข้าร่วมโหวตนายกฯ ก่อนโยนบาป “เสธ.หนั่น” เชี่ยวชาญสร้างตำนาน “งูเห่า”
วานนี้ (12 ธ.ค.) นายอิทธิเดช แก้วหลวง ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย กล่าวภายหลังการประชุม ส.ส.ภาคเหนือ ถึงกรณีการเตรียมความพร้อมโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในวันที่ 15 ธ.ค.นี้ว่า ที่ประชุมได้มีการหารือกัน โดยให้วิปประสานไปยัง ส.ส.ทุกคนในการโหวตเลือกนายกฯ เพื่อให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยในส่วนของพรรคเพื่อไทย นั้นจะโหวตสนับสนุน พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน ส่วนผู้ที่จะเสนอชื่อ พล.ต.อ.ประชา ในที่ประชุมสภาฯ นั้น ตามมารยาทคงต้องเป็นพรรคเพื่อแผ่นดิน อย่างไรก็ตาม ขอยืนยันว่าในหลักการแล้ว พวกเราหนุน พล.ต.อ.ประชา
“แต่หลังจากนี้ต้องหารือเพื่อให้เกิดความชัดเจนที่สุดแล้ว จะแถลงข่าวอีกครั้ง ซึ่งเมื่อถึงตอนนี้ เรามั่นใจมากขึ้นว่า การโหวตเลือกนายกฯ เราจะเป็นฝ่ายชนะ เพราะได้รับการประสานจากกลุ่ม ส.ส.ที่จะเข้ามาสนับสนุนเราเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ โดย ส.ส.ที่มาหนุนเรานั้น เนื่องจากทนแรงกดดันของประชาชนไม่ไหว โดยเฉพาะกลุ่ม ส.ส.ที่เป็นตัวแปรในการโหวต ซึ่งจะทำให้เราชนะครั้งนี้ มีไม่น้อยกว่า 20 คน จึงขอให้ติดตามดูในวันโหวตเลือกนายกฯ” นายอิทธิเดช กล่าว
ด้าน นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ที่ประชุมประเมินกันว่า การโหวตเลือกนายกฯ ในวันที่ 15 ธ.ค.นี้นั้น เสียงจะคู่คี่กัน โดยจะชนะกันเสียงไม่ขาด แต่ตนเป็นห่วงว่า ส.ส.ที่มาร่วมสนับสนุนพรรคเพื่อไทย จะถูกฝ่ายตรงข้ามสกัดไม่ให้เข้าร่วมประชุม เนื่องจากพรรคประชาธิปัตย์ โดยเฉพาะ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ส.ส.พิจิตร อดีตเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ นั้น มีความชำนาญในการทำให้เกิดตำนานงูเห่า จนพรรคประชาธิปัตย์จัดตั้งรัฐบาลชวน 2 มาแล้ว
“ดังนั้น เพื่อความไม่ประมาทจึงตั้งวิปประสานงานในพรรค โดยจังหวัดใหญ่มีตัวแทน ส.ส.เป็นวิป 2 คน และจังหวัดเล็กมีตัวแทน ส.ส.เป็นวิป 1 คน เพื่อประสานงานกับ ส.ส.ในจังหวัด และประสานกับนายวิทยา บุรณศิริ ส.ส.พระนครศรีอยุธยา พรรคเพื่อไทย นอกจากนี้ที่ประชุมยังให้ ส.ส.เตือนกันในที่ประชุมสภา ก่อนที่จะเข้าสู่ระเบียบวาระด้วยว่า ให้ ส.ส.ระบบสัดส่วน ที่เพิ่งได้เลื่อนลำดับขึ้นมานั้น ปฏิญาณตนก่อนถึงจะเป็น ส.ส.สมบูรณ์ และปฏิบัติหน้าที่ได้ เพราะกลัวว่านายชัย ชิดชอบ ประธานสภาฯ นั้นแก่แล้ว จนอาจจะหลงลืมได้” นายสุรพงษ์ ระบุ
