ลูกเมียแท็กซี่ผู้ต้องหาฆ่ายกครัว 5 ศพ ร้องขอความเป็นธรรมอ้างสามีบริสุทธ์ แต่ตำรวจซ้อมให้สารภาพ เผยชีวิตย่ำแย่ถูกสังคมประณามเป็นลูกเมียฆาตกร ส่วนหลักฐานนิติวิทยาศาสตร์ยันรอยเท้าในที่เกิดเหตุตรงกับรองเท้าผู้ต้องหา พบประวัติ เคยก่อเหตุยิง ตร.เสียชีวิตมาแล้ว
วันนี้ (23 เม.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) เมื่อเวลา 14.00 น.นางแก้วตา สมบูรณ์ดี อายุ 48 ปี ภรรยา นายวันชัย อ้นปัน คนขับรถแท็กซี่ที่เป็นผู้ต้องหาฆ่ายกครัว 5 ศพ พร้อมลูกชาย เดินทางเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อร้องขอความเป็นธรรมในการดำเนินคดี โดยอ้างว่านายวันชัยถูกตำรวจกองบังคับการปราบปรามซ้อมให้รับสารภาพว่าเป็นฆาตกร
นางแก้วตา กล่าวว่า เมื่อวันที่ 19 เม.ย. ที่ผ่านมาได้ไปเยี่ยมนายวันชัย ที่ สน.ลาดพร้าว นายวันชัยได้เล่าให้ฟังว่าถูกตำรวจซ้อมบังคับให้เซ็นต์รับสารภาพ พร้อมกับแสดงบาดแผลให้ดูหลายแห่ง โดยเมื่อวันที่ 17 เม.ย.ที่ผ่านมา ก่อนที่นายวันชัยจะถูกตำรวจกองปราบฯ จับก็ขับรถแท็กซี่รับผู้โดยสารตามปกติจากนั้นก็มีรถมาประกบ แล้วกลุ่มชายฉกรรจ์ลงมาจากรถก็นำถุงมาคลุมศีรษะ แล้วก็นำตัวขึ้นรถไปทันที จากนั้นก็ถูกนำตัวไปที่เกสต์เฮ้าส์แห่งหนึ่งซึ่งเป็นห้องเย็นๆ แห้งๆ และถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ดังกล่าวซ้อม โดยเอาเท้าเหยียบหัว ไม่ให้กินข้าวกินน้ำ ให้นอนกับพื้นแล้วเหยียบ เอาปืนจ่อหัวเพื่อให้รับสารภาพว่าเป็นฆาตกร แต่สามีก็ไม่ยอมเซ็นต์ชื่อยอมรับสารภาพ
นางแก้วตา กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาสามีเป็นคนดี ขยันทำมาหากิน แต่หลังจากที่นายวันชัยถูกตำรวจจับตัวไปแล้วเป็นข่าว ก็ถูกสังคมประณามว่าเป็นเมียฆาตกรตนรับจ้างเย็บผ้าก็ไม่มีใครมาจ้างอีก ส่วนลูกก็ถูกตราหน้าว่าเป็นลูกฆาตกรไม่มีใครคุยด้วย ตอนนี้รู้สึกว่าไม่ปลอดภัยเหมือนมีคนตามตลอดเวลา จึงเดินทางมายื่นหนังสือเพื่อร้องขอความเป็นธรรมในการดำเนินคดีกับสามี และขอเปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวน
“คดีนี้ตนกับลูกไปที่ สน.ลาดพร้าว ได้ยินญาติของผู้เสียชีวิตคุยกันว่าอยากให้ตำรวจทำคดีนี้ให้เสร็จโดยเร็ว ญาติจะได้แบ่งมรดกกันเสียที” นางแก้วตาพูดทิ้งท้าย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากการตรวจสอบหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ในที่เกิดเหตุของคดีนี้ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานได้ตรวจพบรอยเท้าของฆาตกรภายในบ้านเกิดเหตุหลายรอย ซึ่งเมื่อนำมาทำการเปรียบเทียบกับรองเท้าของผู้ต้องหาทั้งสองคนพบว่าตรงกัน อีกทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสอบปากคำพยานซึ่งเป็นหลานของผู้ต้องหาที่เป็นคนไปรับผู้ต้องหาทั้งสองบริเวณจุดทิ้งรถผู้ตายก็ให้ปากคำว่าเห็นบุคคลทั้งสองพร้อมรถของผู้ตาย ส่วนประเด็นที่ผู้ต้องหาทั้งสองอ้างว่าไม่รู้จักกันนั้น จากการตรวจสอบพบว่าผู้ต้องหาทั้งสองสนิทกันมาก โดยมีการเซ๊นค้ำประกันซึ่งกันและกันในการเช่ารถแท็กซี่ไปขับ และจากการตรวจสอบประวัติของ นายวันชัย พบว่าเคยก่อคดียิงตำรวจเสียชีวิตมาแล้ว แต่สู้คดีหลุดรวมทั้งมีประวัติก่อคดีปล้นทรัพย์มาหลายครั้ง
วันนี้ (23 เม.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) เมื่อเวลา 14.00 น.นางแก้วตา สมบูรณ์ดี อายุ 48 ปี ภรรยา นายวันชัย อ้นปัน คนขับรถแท็กซี่ที่เป็นผู้ต้องหาฆ่ายกครัว 5 ศพ พร้อมลูกชาย เดินทางเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อร้องขอความเป็นธรรมในการดำเนินคดี โดยอ้างว่านายวันชัยถูกตำรวจกองบังคับการปราบปรามซ้อมให้รับสารภาพว่าเป็นฆาตกร
นางแก้วตา กล่าวว่า เมื่อวันที่ 19 เม.ย. ที่ผ่านมาได้ไปเยี่ยมนายวันชัย ที่ สน.ลาดพร้าว นายวันชัยได้เล่าให้ฟังว่าถูกตำรวจซ้อมบังคับให้เซ็นต์รับสารภาพ พร้อมกับแสดงบาดแผลให้ดูหลายแห่ง โดยเมื่อวันที่ 17 เม.ย.ที่ผ่านมา ก่อนที่นายวันชัยจะถูกตำรวจกองปราบฯ จับก็ขับรถแท็กซี่รับผู้โดยสารตามปกติจากนั้นก็มีรถมาประกบ แล้วกลุ่มชายฉกรรจ์ลงมาจากรถก็นำถุงมาคลุมศีรษะ แล้วก็นำตัวขึ้นรถไปทันที จากนั้นก็ถูกนำตัวไปที่เกสต์เฮ้าส์แห่งหนึ่งซึ่งเป็นห้องเย็นๆ แห้งๆ และถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ดังกล่าวซ้อม โดยเอาเท้าเหยียบหัว ไม่ให้กินข้าวกินน้ำ ให้นอนกับพื้นแล้วเหยียบ เอาปืนจ่อหัวเพื่อให้รับสารภาพว่าเป็นฆาตกร แต่สามีก็ไม่ยอมเซ็นต์ชื่อยอมรับสารภาพ
นางแก้วตา กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาสามีเป็นคนดี ขยันทำมาหากิน แต่หลังจากที่นายวันชัยถูกตำรวจจับตัวไปแล้วเป็นข่าว ก็ถูกสังคมประณามว่าเป็นเมียฆาตกรตนรับจ้างเย็บผ้าก็ไม่มีใครมาจ้างอีก ส่วนลูกก็ถูกตราหน้าว่าเป็นลูกฆาตกรไม่มีใครคุยด้วย ตอนนี้รู้สึกว่าไม่ปลอดภัยเหมือนมีคนตามตลอดเวลา จึงเดินทางมายื่นหนังสือเพื่อร้องขอความเป็นธรรมในการดำเนินคดีกับสามี และขอเปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวน
“คดีนี้ตนกับลูกไปที่ สน.ลาดพร้าว ได้ยินญาติของผู้เสียชีวิตคุยกันว่าอยากให้ตำรวจทำคดีนี้ให้เสร็จโดยเร็ว ญาติจะได้แบ่งมรดกกันเสียที” นางแก้วตาพูดทิ้งท้าย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากการตรวจสอบหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ในที่เกิดเหตุของคดีนี้ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานได้ตรวจพบรอยเท้าของฆาตกรภายในบ้านเกิดเหตุหลายรอย ซึ่งเมื่อนำมาทำการเปรียบเทียบกับรองเท้าของผู้ต้องหาทั้งสองคนพบว่าตรงกัน อีกทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสอบปากคำพยานซึ่งเป็นหลานของผู้ต้องหาที่เป็นคนไปรับผู้ต้องหาทั้งสองบริเวณจุดทิ้งรถผู้ตายก็ให้ปากคำว่าเห็นบุคคลทั้งสองพร้อมรถของผู้ตาย ส่วนประเด็นที่ผู้ต้องหาทั้งสองอ้างว่าไม่รู้จักกันนั้น จากการตรวจสอบพบว่าผู้ต้องหาทั้งสองสนิทกันมาก โดยมีการเซ๊นค้ำประกันซึ่งกันและกันในการเช่ารถแท็กซี่ไปขับ และจากการตรวจสอบประวัติของ นายวันชัย พบว่าเคยก่อคดียิงตำรวจเสียชีวิตมาแล้ว แต่สู้คดีหลุดรวมทั้งมีประวัติก่อคดีปล้นทรัพย์มาหลายครั้ง
