“พัชรวาท” เพิ่งสั่งกองพิสูจน์หลักฐาน รุดหาหลักฐานเพิ่มจุดเกิดเหตุคนร้ายยิงถล่ม “สนธิ” อีกรอบ หาแนววิถีกระสุน-รอยล้อรถ อย่างละเอียดอีกครั้ง พร้อมส่งทีมสืบลงพื้นที่โดยรอบหาพยานเพิ่ม
วันนี้ (22 เม.ย.) เมื่อเวลา 13.00 น.พ.ต.ท.เจริญ ปานคล้าย รอง ผกก.3 กองพิสูจน์หลักฐาน สำนักงานนิติวิทยาศาสตร์ตำรวจ นำกำลังเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานประมาณ 20 นาย เข้าตรวจบริเวณจุดเกิดเหตุที่ นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ ASTVผู้จัดการ และแกนนำพันธมิตรฯ ที่ถูกคนร้ายยิงถล่มอย่างละเอียดอีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบแนววิถีกระสุน และรอยล้อรถตู้ยี่ห้อโตโยต้า อัลพาร์ด ของ นายสนธิ และรอยล้อรถกับดอกยางรถที่คนร้ายใช้เป็นพาหนะ นอกจากนี้ กำลังเจ้าหน้าที่อีกส่วนหนึ่ง ได้เข้าตรวจสอบบริเวณชั้น 3 ของอาคารธนาคารแห่งประเทศไทยที่ถูกกระสุนยิงใส่กระจกจำนวน 1 นัด ซึ่งคาดว่า จะเป็นลูกหลงที่คนร้ายยิงใส่ตู้ควบคุมสัญญาณกล้องวงจรปิดบริเวณสี่แยกบางขุนพรหม โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อนเดินทางกลับ
พ.ต.ท.เจริญ กล่าวว่า ได้รับคำสั่งจาก พล.ต.อ.พัชรวาท ให้มาเก็บรายละเอียดเกี่ยวกับร่องรอยล้อรถของ นายสนธิ และรถของคนร้ายที่ใช้ก่อเหตุ โดยเฉพาะรอยดอกยางของรถที่คนร้ายใช้ก่อเหตุยิงนายสนธิ นอกจากนี้ ตรวจสอบบ้านเรือนของประชาชนในบริเวณที่เกิดเหตุด้วย เนื่องอาจจะถูกกระสุนลูกหลงจนได้รับความเสียหาย แต่ยังไม่กล้าเข้าแจ้งความ เพราะกลัวอันตราย แต่จากการตรวจสอบเบื้องต้น ยังไม่พบว่า มีบ้านเรือนหลังใดที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ครั้งนี้ พบแต่เพียงมีกระจกของอาคารธนาคารแห่งประเทศไทย ถูกยิงได้รับความเสียหายเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงเวลาเดียวกัน เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ชนะสงคราม ได้กระจายกำลังลงพื้นที่บริเวณโดยรอบจุดเกิดเหตุ เพื่อติดตามหาพยานที่อาจจะเห็นเหตุการณ์ไปสอบปากคำเพิ่มเติมอีกครั้ง
ต่อมาเมื่อเวลา 14.00 น.นายชนาพัทธ์ ณ นคร ประธานเครือข่ายเตมูจิน แกนนำกลุ่มเครือข่ายประชาชนผู้รักประชาธิปไตย เดินทางเข้าพบ พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น.เพื่อนำหลักฐานทางคดีกรณีคนร้ายลอบสังหาร นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ ASTVผู้จัดการ มามอบให้พนักงานสอบสวน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีการกล่าวอ้างว่า นายชนาพัทธ์ มีหลักฐานเกี่ยวกับการลอบสังหารนายสนธิ โดยพบว่า กลุ่มมือปืนที่ลงมือมีด้วยกันทั้งหมด 4 ราย และรถกระบะวีโก้ สีดำ ที่คนร้ายใช้ก่อเหตุนั้น มีการนำไปชำแหละชิ้นส่วนที่ย่านบางบัวทอง แต่ก็ยังไม่มีนายตำรวจระดับสูงนายใด หรือแม้แต่ตัว นายชนาพัทธ์ เอง ออกมายืนยันว่า มีการส่งมอบหลักฐานตามข่าวจริงหรือไม่
วันนี้ (22 เม.ย.) เมื่อเวลา 13.00 น.พ.ต.ท.เจริญ ปานคล้าย รอง ผกก.3 กองพิสูจน์หลักฐาน สำนักงานนิติวิทยาศาสตร์ตำรวจ นำกำลังเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานประมาณ 20 นาย เข้าตรวจบริเวณจุดเกิดเหตุที่ นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ ASTVผู้จัดการ และแกนนำพันธมิตรฯ ที่ถูกคนร้ายยิงถล่มอย่างละเอียดอีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบแนววิถีกระสุน และรอยล้อรถตู้ยี่ห้อโตโยต้า อัลพาร์ด ของ นายสนธิ และรอยล้อรถกับดอกยางรถที่คนร้ายใช้เป็นพาหนะ นอกจากนี้ กำลังเจ้าหน้าที่อีกส่วนหนึ่ง ได้เข้าตรวจสอบบริเวณชั้น 3 ของอาคารธนาคารแห่งประเทศไทยที่ถูกกระสุนยิงใส่กระจกจำนวน 1 นัด ซึ่งคาดว่า จะเป็นลูกหลงที่คนร้ายยิงใส่ตู้ควบคุมสัญญาณกล้องวงจรปิดบริเวณสี่แยกบางขุนพรหม โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อนเดินทางกลับ
พ.ต.ท.เจริญ กล่าวว่า ได้รับคำสั่งจาก พล.ต.อ.พัชรวาท ให้มาเก็บรายละเอียดเกี่ยวกับร่องรอยล้อรถของ นายสนธิ และรถของคนร้ายที่ใช้ก่อเหตุ โดยเฉพาะรอยดอกยางของรถที่คนร้ายใช้ก่อเหตุยิงนายสนธิ นอกจากนี้ ตรวจสอบบ้านเรือนของประชาชนในบริเวณที่เกิดเหตุด้วย เนื่องอาจจะถูกกระสุนลูกหลงจนได้รับความเสียหาย แต่ยังไม่กล้าเข้าแจ้งความ เพราะกลัวอันตราย แต่จากการตรวจสอบเบื้องต้น ยังไม่พบว่า มีบ้านเรือนหลังใดที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ครั้งนี้ พบแต่เพียงมีกระจกของอาคารธนาคารแห่งประเทศไทย ถูกยิงได้รับความเสียหายเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงเวลาเดียวกัน เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ชนะสงคราม ได้กระจายกำลังลงพื้นที่บริเวณโดยรอบจุดเกิดเหตุ เพื่อติดตามหาพยานที่อาจจะเห็นเหตุการณ์ไปสอบปากคำเพิ่มเติมอีกครั้ง
ต่อมาเมื่อเวลา 14.00 น.นายชนาพัทธ์ ณ นคร ประธานเครือข่ายเตมูจิน แกนนำกลุ่มเครือข่ายประชาชนผู้รักประชาธิปไตย เดินทางเข้าพบ พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น.เพื่อนำหลักฐานทางคดีกรณีคนร้ายลอบสังหาร นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ ASTVผู้จัดการ มามอบให้พนักงานสอบสวน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีการกล่าวอ้างว่า นายชนาพัทธ์ มีหลักฐานเกี่ยวกับการลอบสังหารนายสนธิ โดยพบว่า กลุ่มมือปืนที่ลงมือมีด้วยกันทั้งหมด 4 ราย และรถกระบะวีโก้ สีดำ ที่คนร้ายใช้ก่อเหตุนั้น มีการนำไปชำแหละชิ้นส่วนที่ย่านบางบัวทอง แต่ก็ยังไม่มีนายตำรวจระดับสูงนายใด หรือแม้แต่ตัว นายชนาพัทธ์ เอง ออกมายืนยันว่า มีการส่งมอบหลักฐานตามข่าวจริงหรือไม่
