ตำรวจนครบาล พร้อมเจ้าหน้าที่ พฐ.จำลองเหตุการณ์หาวิถีกระสุนคนร้ายยิงถล่ม “สนธิ ลิ้มทองกุล” ด้าน ผบ.ตร.ยัน สตช.ตั้งใจสางคดีให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว รายงานข่าวระบุทีมสืบสวนได้ตัวพยานปากสำคัญที่เห็นรูปพรรณคนร้าย
วันนี้ (20 เม.ย.) เมื่อเวลา 21.00 น. พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น. 1,พ.ต.อ.วิชาญ บริรักษ์กุล รอง ผบก.น.1, พ.ต.อ.ธวัชชัย เมฆประเสริฐสุข รอง ผบก.พฐ. พร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) ปิดถนนสามเสน บริเวณหน้าวัดเอี่ยมวรนุช เพื่อทำการจำลองเหตุการณ์คนร้ายใช้อาวุธสงครามยิงถล่มนายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้ง นสพ.ผู้จัดการ เอเอสทีวี และแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เมื่อเช้ามืดวันที่ 17 เม.ย.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ พฐ.ได้ใช้รถตำรวจจอดไว้ในจุดเดียวกับรถยนต์ของนายสนธิในวันเกิดเหตุ และตรวจสอบรอยกระสุนบนพื้นถนน ซึ่งพบว่ามีรอยกระสุนที่ไม่เข้าเป้าหมาย 15 รอย จึงได้ใช้วิธีมาร์กจุดกะเทาะของกระสุนที่พบบนพื้นถนนก่อนใช้เชือกโยงเพื่อหาวิถีกระสุนของคนร้ายว่ามาจากทิศทางใด
พล.ต.ต.วิชัย กล่าวว่า การจำลองเหตุการณ์ในวันนี้มีเป้าหมายหลักเพื่อหาวิถีกระสุนของคนร้ายว่ามาจากจุดใดกันแน่ รวมทั้งจุดที่รถผู้เสียหายและรถคนร้ายจอดอยู่เพื่อนำมาประมวลเข้ากับวัตถุพยานที่พบในที่เกิดเหตุ รวมทั้งคำให้การของพยานที่เห็นเหตุการณ์ว่าสอดคล้องกันหรือไม่เพื่อกำหนดกรอบการสอบสวนให้แคบลง ทั้งนี้ เชื่อว่าผลการจำลองเหตุการณ์น่าจะเป็นประโยชน์ต่อการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยจะมีการแถลงผลการตรวจสอบให้ทราบในโอกาสต่อไป
สำหรับคดีลอบยิงนายสนธิ ลิ้มทองกุล พล.ต.อ.พัรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.ได้กล่าวในการแถลงข่าวต่อประชาชนผ่านทางสถานีวิทยุและโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง 11 ว่า เป็นคดีที่เพิ่งเกิดขึ้น และอยู่ในขั้นสอบสวนสืบสวน แต่ยืนยันว่า สตช.ตั้งใจจะทำให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว
ขณะที่ พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น.ระบุว่า คดีนี้ สตช.ถือเป็นคดีที่สำคัญ ซึ่งได้กำชับ บช.น.ให้ดำเนินการอย่างตรงไปตรงมาเที่ยงธรรม จึงได้ระดมพนักงานสืบสวนสอบสวนทั้ง 9 กอง กับอีก 1 ศูนย์สืบสวนมาร่วมดำเนินการ และจากการดำเนินการหาร่องรอยพยาน ทั้งพยานบุคคล ณ ขณะนี้มีความคืบหน้ามาก จนถึงปัจจุบัน เราเชื่อว่าได้พบรถต้องสงสัย หมายถึงได้เห็นภาพรถต้องสงสัยว่าจะเป็นรถคนร้ายในเส้นทางที่คนร้ายหลบหนีไป จึงได้เชิญแฟนพันธุ์แท้มาช่วยดู ก็ระบุว่าเป็นรถวีโก้ สีดำ กับมาสด้า หรือฟอร์ด ซึ่งจะเป็นเบาะแสที่สำคัญ อย่างไรก็ดี พล.ต.ท.วรพงษ์ ปฏิเสธว่าไม่มีเจ้าหน้าที่หน่วยงานไหนรู้เห็นเป็นใจเกี่ยวกับกล้อง CCTV โดยเชื่อถึง 90 เปอร์เซ็นต์ว่า กล้องชำรุดที่ตัวบันทึก ประเด็นนี้จึงต้องตัดไปเพื่อลดประเด็นข้อสงสัยผู้ที่เกี่ยวข้อง แต่ไม่ถึงกับตัดทิ้งไปร้อยเปอร์เซ็นต์
ทั้งนี้ รายงานข่าวแจ้งว่า ชุดสืบสวนอยู่ระหว่างสืบสวนหากลุ่มคนร้ายที่ลงมือยิงนายสนธิ โดยพุ่งเป้าไปที่กลุ่มคนมีสีที่มีลูกน้องในกลุ่มเคยไปก่อเหตุในพื้นที่ต่างๆ ล่าสุดชุดสืบสวนได้พยานปากสำคัญที่เห็นเหตุการณ์ขณะที่คนร้ายลงมือก่อเหตุได้นำไปสอบสวนรายละเอียดตำหนิรูปพรรณที่ชัดเจนของคนร้ายแล้ว