“อัยการ” ชี้ถอนพาสปอร์ตเปิดช่องล่า “ทักษิณ” ง่ายขึ้น

อัยการต่างประเทศชี้ “บัวแก้ว” ถอนพาสปอร์ตเปิดช่องตามล่า “ทักษิณ” ง่ายขึ้น ส่วนหมายจับคดีนำบงการม็อบเสื้อแดงเผาเมืองยังดำเนินการไม่ได้เพราะยังไม่สั่งฟ้อง เตรียมทำหนังสือจี้ สตช.ตั้งคณะทำงานประสานอัยการโดยตรง หลังพบตำรวจสืบหาถิ่นที่อยู่แม้วไม่คืบหน้า

วันนี้ (15 เม.ย.) นายศิริศักดิ์ ติยะพรรณ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีต่างประเทศ กล่าวถึงความคืบหน้าการติดตามตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ต้องโทษจำคุก 2 ปี คดีทุจริตซื้อขายที่ดินย่านรัชดาภิเษก มารับโทษตามคำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาคณะทำงานได้ประชุมกันแล้วเห็นว่าควรมีหนังสือทวงถามความคืบหน้าไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ที่เป็นหน่วยงานรับผิดชอบในการดำเนินการตามหมายจับของศาลฎีกาฯ โดยขอให้ สตช.สืบหาและแจ้งถิ่นที่อยู่ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ในต่างประเทศที่ชัดเจนให้กับคณะทำงานอัยการเพื่อดำเนินการต่อ และขอให้ สตช.แต่งตั้งบุคคลขึ้นมาเป็นผู้แทนที่ชัดเจนเพื่อประสานงานกับคณะทำงานโดยตรง เพราะที่ผ่านมาเป็นการส่งหนังสือไปยังสำนักงานไม่รู้ว่าไปตกอยู่กองไหนซึ่งทำให้เกิดความล่าช้า

นายศิริศักดิ์ ยังกล่าวถึงกรณีมีการออกหมายจับ พ.ต.ท.ทักษิณ ฐานสั่งการให้กลุ่มเสื้อแดงก่อความไม่สงบในกรุงเทพ ช่วงวันที่ 8-14 เม.ย. ที่ผ่านมาว่า คดีนี้ยังอยู่ระหว่างพนักงานสอบสวนกำลังสอบสวนรวมรวมพยานหลักฐาน ยังไม่ได้ส่งต่อมาให้อัยการเพื่อพิจารณาสั่งฟ้อง จึงยังไม่สามารถดำเนินการอะไรได้เพราะการจะดำเนินการขอผู้ร้ายข้ามแดน อัยการจะต้องพิจารณาสั่งฟ้องผู้ต้องหาก่อน

ส่วนที่กระทรวงการต่างประเทศเพิกถอนพาสปอร์ต พ.ต.ท.ทักษิณนั้น นายศิริศักดิ์กล่าวว่า เป็นวิธีการของกระทรวงการต่างประเทศในการจำกัดการเดินทางเข้าประเทศต่างๆ ของ พ.ต.ท.ทักษิณ เนื่องจากพาสปอร์ตเป็นเอกสารประจำตัวสำคัญที่จะต้องที่จะต้องพกติดตัวไว้เมื่อยู่ต่างประเทศ เมื่อมีการเพิกถอนพาสปอร์ต พ.ต.ท.ทักษิณ ถือว่าถูกจำกัดการเดินทาง และน่าจะทำให้หาที่อยู่ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ง่ายขึ้น

ซักต่อว่าหาก พ.ต.ท.ทักษิณ อาศัยอยู่ที่เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ จะติดตามตัวได้หรือไม่ นายศิริศักดิ์กล่าวว่า ประเทศไทยไม่มีข้อตกลงสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ แต่หากสืบหาถิ่นที่อยู่ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ชัดเจนในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้ ก็น่าจะประสานขอความร่วมมือกันโดยใช้วิธีการต่างตอบแทนกันระหว่างรัฐต่อรัฐได้ ซึ่งก็ต้องรอดูว่าประเทศผู้ถูกร้องขอจะรับดำเนินการให้หรือไม่