กองบัญชาการตำรวจนครบาลสั่งกำชับให้ตำรวจอดทนอดกลั้นในการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยบริเวณหน้าบ้านป๋าเปรม พร้อมสั่งอารักขาบ้านบุคคลระดับสูงตามสถานที่ต่างๆ ขณะที่กลุ่มเสื้อแดงไม่พอใจนักข่าว 7 สี รายงานจำนวนผู้ชุมนุมแค่หลักหมื่น อ้างมากันเรือนแสน
วันนี้ (8 เม.ย.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล เมื่อเวลา 11.15 น. พล.ต.ต.สุพร พันธุ์เสือ รอง ผบช.น. ในฐานะโฆษก บช.น.กล่าวภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมประเมินสถานการณ์ กลุ่มคนเสื้อแดงเคลื่อนขบวนการชุมนุมไปยังหน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ ของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เพื่อกดดันให้ลาออกจากตำแหน่งว่า ขณะนี้จากการประเมินยอดผู้ชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดง ล่าสุดอยู่ที่ประมาณ 35,000 คน โดยมีการตั้งด่านตรวจอาวุธที่บริเวณแยก พล.1 แต่เนื่องจากกลุ่มผู้ชุมนุมมีจำนวนมาก การตรวจค้นจึงอาจจะหละหลวมไปบ้างจึงอยากฝากไปยังกลุ่มผู้ชุมนุมช่วยเป็นหูเป็นตาในการตรวจสอบด้วย เนื่องจากเกรงว่าอาจจะมีมือที่ 3 เข้ามาสร้างสถานการณ์ความวุ่นวายได้ ซึ่งขณะนี้ยังไม่พบว่ามีการพกพาอาวุธเข้ามา
กำชับตำรวจให้อดทน
พล.ต.ต.สุพรกล่าวว่า ที่ประชุมกำชับให้ตำรวจผู้ปฏิบัติมีความอดทน และวอนผู้ชุมนุมอย่าบุกรุกเข้าไปในบ้านประธานองคมนตรีอย่างเด็ดขาด และให้ชุมนุมด้วยความสงบ และตำรวจจะดูแลความเรียบร้อยให้ดีที่สุด
ส่วนกระแสข่าวที่ว่าอาจจะมีการลอบเผาธนาคารหรือสถานที่ราชการนั้น ขณะนี้ได้สั่งการไปยังทุกพื้นที่เฝ้าระวังเหตุ และจัดชุดออกหาข่าว รวมถึงการตั้งด่านให้เชื่อมโยงเครือข่ายเป็นใยแมงมุม อย่างน้อยพื้นที่จะ 2 จุด ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งยังไม่พบเหตุผิดปกติ
ตร.เชื่อชุมนุม 3 วัน
ส่วนระยะเวลานการชุมนุมนั้น พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น. ได้สั่งการไปยัง พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 เจรจากับแกนนำ แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจน แต่ก็จะมีการประเมินสถานการณ์แบบชั่วโมงต่อชั่วโมง แต่เบื้องต้นทราบว่าจะมีการชุมนุมนาน 3 วัน ซึ่งตำรวจงจะปล่อยให้ชุมนุมได้หากเป็นการชุมนุมโดยสงบ แต่ประชาชนในละแวกดังกล่าว รวมถึงประชาชนที่ใช้เส้นทางการจราจรอาจได้รับผลกระทบบ้าง แต่จะดำเนินการให้กระทบกับประชาชนที่ต้องใช้เส้นทางให้น้อยที่สุด แต่จนถึงขณะมีการปิดการจราจรชั่วคราว คือถนนศรีอยุธยา ถนนราชดำเนิน ถนนพิษณุโลก ถนนนครราชสีมา ซึ่งหากสามารถหลีกเลี่ยงเส้นทางดังกล่าวได้ ควรจะหลีกเลี่ยงจะดีที่สุด
“ส่วนที่มีตำรวจบางนายถือผ้าแดงและโบกมือให้กำลังใจกลุ่มคนเสื้อแดงนั้น ขณะนี้ได้สั่งตรวจสอบแล้วโดยจะกำชับให้ตำรวจปฏิบัติตัวด้วยความเป็นกลางอย่างที่ สุด และยืนยันตำรวจเป็นสีกากี ไม่ใช่สีใดสีหนึ่ง” พล.ต.ต.สุพร กล่าว
สั่งอารักขาบ้านบุคคลระดับสูง
ส่วนกรณีที่ ตำรวจภูธรภาค 1 จับกุมมือปืนพยายามฆ่านายชาญชัย ลิขิตจิตถะ องคมนตรี จึงมีกรวางกำลังตำรวจดูแลบ้านบุคคลระดับสูง ได้มอบหมายให้พื้นที่ที่มีบ้านพักของบุคคลระดับสูง ออกหาข่าว รวมถึงจัดกำลังดูแลอย่างเข้มงวด เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยขึ้นอีก รวมถึงธนาคารต่างๆ และตู้เอทีเอ็มด้วย ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังไม่มีกระแสข่าวเข้ามาแต่อย่างใด
น.1 มั่นใจคุมสถานการณ์อยู่
ขณะที่ พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา กล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังสามารถควบคุมสถานการณ์ได้อยู่ สถานการณ์ทั่วไปยังปกติ และจากการประสานกับแกนนำยืนยันว่าจะไม่มีการบุกรุกสถานที่ราชการ หรือบ้านสี่เสาฯ แต่หากมีการบุกรุกจริง เจ้าหน้าที่จะดำเนินการตามขั้นตอนทั้งทางยุทธวิธีและทางกฎหมาย
บช.น.ออกประกาศใช้ความนุ่มนวล
ขณะเดียวกัน กองบัญชาการตำรวจนครบาลได้ออกประกาศกองบัญชาการตำรวจนครบาลมีใจความว่า ตามที่กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. นัดชุมนุมทางการเมืองโดยประกาศจะเคลื่อนกำลังไปยังบ้านพักประธานองคมนตรี ในวันพุธที่ 8 เมษายน 2552
กองบัญชาการตำรวจนครบาล มีข้อห่วงใยกรณีการเคลื่อนกำลังไปยังบริเวณบ้านพักประธานองคมนตรี อาจจะเกิดความวุ่นวายได้ โดยทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล จะไม่อนุญาตให้ผู้ชุมนุมบุกรุกเข้าไปในบ้านพักประธานองคมนตรี หรือสถานที่ราชการใกล้เคียงเป็นอันขาด จึงแจ้งเตือนมายังแกนนำและผู้จัดการชุมนุมขออย่าใช้ความรุนแรงและกระทำการฝ่าฝืนกฎหมายเป็นอันขาด โดยเจ้าหน้าที่จะไม่ใช้ความรุนแรงกับประชาชน
ตำรวจจะดูแลเรื่องความสงบเรียบร้อย และการบังคับใช้กฎหมาย จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง เพราะปัญหาทางการเมือง ต้องแก้ด้วยวิถีทางการเมือง โดยกระบวนการในรัฐสภาไม่ใช่การใช้ความรุนแรง
จึงแจ้งมาเพื่อโปรดทราบ
กองบัญชาการตำรวจนครบาล
8 เมษายน 2552
ฮือไล่นักข่าว 7 สี ไม่ใช่ทีวีเพื่อเสื้อแดง
ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 12.15 น. ระหว่างที่นายสมโภช โตรักษา ผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 7 ได้รายงานสดการชุมนุมของกลุ่มมคนเสื้อแดงที่รถโมบาย ซึ่งจอดอยู่บริเวณท่าปล่อยรถประจำทางสาย 72 ถนนพิษณุโลก ปากซอยพิษณุโลก 8 โดยกลุ่มคนเสื้อแดงแสดงความไม่พอใจที่นายสมโภชรายงานจำนวนผู้ชุมนุมแค่หลักหมื่น อ้างว่ามากันเป็นหลักแสน จากนั้นพากันตะโกนด่าใส่นายสมโภชด้วยถ้อยคำหยาบคาย พร้อมกับใช้ขวดน้ำปาเข้าใส่ สาดน้ำใส่ และขับไล่ให้ออกไปจากบริเวณดังกล่าว รวมทั้งพากันฮือเข้าไปล้อมกรอบกว่าร้อยคน จนทางเจ้าหน้าที่ของสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 ต้องพากันรีบเก็บของและเคลื่อนรถโมบายออกไปจากบริเวณดังกล่าว แต่กลุ่มคนเสื้อแดงก็ยังพากันขว้างขวดน้ำเข้าใส่รถตามเป็นระยะ