ผบช.น.ยัน ออกประกาศสั่ง “ม็อบเสื้อแดง” ยุติการชุมนุม ทำตามขั้นตอนคำสั่งศาลปกครองที่มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวถึงพฤติกรรมการชุมนุมที่ขัดขวางในการห้าม ครม.-เจ้าหน้าที่เข้าทำเนียบฯ ด้านโฆษก บช.น.รับการชุมนุมยังไม่น่าห่วง ส่วนที่ ตร.หลายนายเข้าร่วมชุมนุมและเข้าคิวรอรับเสื้อแดง หากอยู่นอกเวลาราชการถือว่าทำได้ ย้ำ ตร.ต้องเป็นกลางไม่เลือกข้าง พร้อมตรวจสอบมี ตร.นายใดสวมเครื่องแบบเข้าร่วมชุมนุมส่งเรื่องให้ต้นสังกัดลงโทษทางวินัย
วันนี้ (31 มี.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น.ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น.กล่าวถึงการออกประกาศกองบัญชาการตำรวจนครบาลให้กลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงยุติการชุมนุม เมื่อวานที่ผ่านมา (30 มี.ค.) เป็นการดำเนินการตามขั้นตอนของคำสั่งศาลปกครองที่มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ซึ่งพฤติกรรมการชุมนุมที่มีลักษณะขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของคณะรัฐมนตรี ในการเข้าไปปฏิบัติราชการภายในทำเนียบรัฐบาล ส่วนการโฟนอินผ่านระบบวิดีโอลิงก์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จากการตรวจสอบยังไม่พบว่าเข้าข่ายหมิ่นเบื้องสูง เป็นเพียงการหมิ่นประมาทตัวบุคคลเท่านั้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้ง
ขณะที่ พล.ต.ต.สุพร พันธุ์เสือ รอง ผบช.น.ในฐานะโฆษก บช.น.กล่าวว่า จากการประเมินสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงที่ปิดล้อมทำเนียบรัฐบาลขณะนี้ไม่น่าเป็นห่วง ยังเป็นไปด้วยความสงบ อีกทั้งรัฐบาลได้ประกาศยกเลิกการประชุม ครม. แต่ถึงอย่างไรตำรวจก็ยังตรึงกำลังในพื้นที่โดยรอบทำเนียบรัฐบาล พร้อมสืบสวนหาข่าวความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง
“ส่วนการเตรียมความพร้อมรับมือการชุมนุมของกลุ่ม “คนรักป๋าเปรม” ที่จะชุมนุมหน้ารัฐสภาช่วงบ่ายวันพรุ่งนี้ (1 เม.ย. ) นั้น พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น. สั่งการให้ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 จัดกำลังตำรวจเข้าไปดูแลความสงบเรียบร้อยรักษาความปลอดภัยอย่างเต็มที่คงไม่มีปัญหาหรือการปะทะกันระหว่างกลุ่มคัดค้านแต่อย่างใด เพราะการชุมนุมของทั้งสองกลุ่มนั้นอยู่คนละที่กัน” พล.ต.ต.สุพร กล่าว
โฆษก บช.น.ยังกล่าวถึงกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายนายเข้าร่วมการชุมนุมกับกลุ่มเสื้อแดงและเข้าคิวรอรับแจกเสื้อแดงจากผู้ชุมนุมว่า เป็นสิทธิที่สามารถทำได้หากอยู่นอกเวลาราชการ และหากจะร่วมชุมนุมก็ต้องมาในเวลานอกราชการและนอกเครื่องแบบ แต่หากมาในชุดเครื่องแบบก็ไม่เหมาะสมและเป็นการกระทำที่ไม่สมควรอย่างยิ่งเนื่องจากตำรวจที่เข้าปฏิบัติหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยก็ควรจะวางตัวเป็นกลางไม่เข้าข้างฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดมากจนเกินไป อย่างไรก็ตามกองบัญชาการตำรวจนครบาลจะตรวจสอบว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจคนใดใส่เครื่องแบบตำรวจเข้าไปร่วมชุมนุมดังกล่าวบ้างจากนั้นจะส่งเรื่องไปยังผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยต่อไป
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 30 ธ.ค. 2551 เจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาล จำนวนหนึ่งใส่เสื้อแดงและถือตีนตบ ในวันที่กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ชุมนุมปิดล้อมอาคารรัฐสภา (30 ธ.ค. 2551) เพื่อไม่ให้รัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เข้าไปแถลงนโยบายต่อรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญมาตรา 176 โดยในวันดังกล่าว พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.น. สมัยนั้น ได้บอกว่าจะเรียกผู้ใต้บังคับบัญชามามอบนโยบาย และเน้นย้ำไม่ให้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับกลุ่มการเมืองต่างๆ ซึ่งจะมีการตรวจสอบถึงเรื่องที่เกิดขึ้น หากพบว่ามีความผิดจริงจะดำเนินการอย่างแน่นอน แต่จนถึงขณะนี้เรื่องการสอบสวนผู้ใต้บังคับบัญชาที่มีส่วนร่วมสนับสนุนกิจกรรมเสื้อแดงก็ยังไม่มีความคืบหน้า แต่เรื่องกลับเงียบและนิ่งเฉย
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบภาพถ่ายในวันดังกล่าว พบภาพ พ.ต.ท.สมนึก เจริญศรีสุข สว.3 บก.อก.(งานยานพาหนะและขนส่ง ) ซึ่งผู้สื่อข่าวได้สอบถาม พ.ต.ท.สมนึก ได้ความว่าวันดังกล่าวตนไปที่รัฐสภาจริง เพื่อไปส่งน้ำดื่มจำนวน 3 พันขวดให้เจ้าหน้าที่ที่อยู่ข้างใน ซึ่งขณะที่เดินผ่านหน้ารัฐสภาเข้ามา ทางกลุ่ม นปช.ได้มอบหัวใจให้ จึงรับมาโดยไม่ได้คิดอะไร จากนั้นเมื่อเข้าไปข้างในแล้ว พบว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม, ตปพ.และ ตชด.ซึ่งรักษาความปลอดภัยข้างในรัฐสภาอยู่ จากนั้นกลุ่มม็อบ นปช.ได้ส่งมอบเสื้อ ผ้าโพกหัว มาให้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็รับมาสวมใส่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจส่วนใหญ่ที่แต่งตัวคล้าย นปช.นั้น มีภูมิลำเนาอยู่ในภาคอีสาน และภาคเหนือ ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า ประชาชนในภาคดังกล่าวสนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
วันนี้ (31 มี.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น.ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น.กล่าวถึงการออกประกาศกองบัญชาการตำรวจนครบาลให้กลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงยุติการชุมนุม เมื่อวานที่ผ่านมา (30 มี.ค.) เป็นการดำเนินการตามขั้นตอนของคำสั่งศาลปกครองที่มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ซึ่งพฤติกรรมการชุมนุมที่มีลักษณะขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของคณะรัฐมนตรี ในการเข้าไปปฏิบัติราชการภายในทำเนียบรัฐบาล ส่วนการโฟนอินผ่านระบบวิดีโอลิงก์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จากการตรวจสอบยังไม่พบว่าเข้าข่ายหมิ่นเบื้องสูง เป็นเพียงการหมิ่นประมาทตัวบุคคลเท่านั้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้ง
ขณะที่ พล.ต.ต.สุพร พันธุ์เสือ รอง ผบช.น.ในฐานะโฆษก บช.น.กล่าวว่า จากการประเมินสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงที่ปิดล้อมทำเนียบรัฐบาลขณะนี้ไม่น่าเป็นห่วง ยังเป็นไปด้วยความสงบ อีกทั้งรัฐบาลได้ประกาศยกเลิกการประชุม ครม. แต่ถึงอย่างไรตำรวจก็ยังตรึงกำลังในพื้นที่โดยรอบทำเนียบรัฐบาล พร้อมสืบสวนหาข่าวความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง
“ส่วนการเตรียมความพร้อมรับมือการชุมนุมของกลุ่ม “คนรักป๋าเปรม” ที่จะชุมนุมหน้ารัฐสภาช่วงบ่ายวันพรุ่งนี้ (1 เม.ย. ) นั้น พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น. สั่งการให้ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 จัดกำลังตำรวจเข้าไปดูแลความสงบเรียบร้อยรักษาความปลอดภัยอย่างเต็มที่คงไม่มีปัญหาหรือการปะทะกันระหว่างกลุ่มคัดค้านแต่อย่างใด เพราะการชุมนุมของทั้งสองกลุ่มนั้นอยู่คนละที่กัน” พล.ต.ต.สุพร กล่าว
โฆษก บช.น.ยังกล่าวถึงกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายนายเข้าร่วมการชุมนุมกับกลุ่มเสื้อแดงและเข้าคิวรอรับแจกเสื้อแดงจากผู้ชุมนุมว่า เป็นสิทธิที่สามารถทำได้หากอยู่นอกเวลาราชการ และหากจะร่วมชุมนุมก็ต้องมาในเวลานอกราชการและนอกเครื่องแบบ แต่หากมาในชุดเครื่องแบบก็ไม่เหมาะสมและเป็นการกระทำที่ไม่สมควรอย่างยิ่งเนื่องจากตำรวจที่เข้าปฏิบัติหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยก็ควรจะวางตัวเป็นกลางไม่เข้าข้างฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดมากจนเกินไป อย่างไรก็ตามกองบัญชาการตำรวจนครบาลจะตรวจสอบว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจคนใดใส่เครื่องแบบตำรวจเข้าไปร่วมชุมนุมดังกล่าวบ้างจากนั้นจะส่งเรื่องไปยังผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยต่อไป
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 30 ธ.ค. 2551 เจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาล จำนวนหนึ่งใส่เสื้อแดงและถือตีนตบ ในวันที่กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ชุมนุมปิดล้อมอาคารรัฐสภา (30 ธ.ค. 2551) เพื่อไม่ให้รัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เข้าไปแถลงนโยบายต่อรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญมาตรา 176 โดยในวันดังกล่าว พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.น. สมัยนั้น ได้บอกว่าจะเรียกผู้ใต้บังคับบัญชามามอบนโยบาย และเน้นย้ำไม่ให้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับกลุ่มการเมืองต่างๆ ซึ่งจะมีการตรวจสอบถึงเรื่องที่เกิดขึ้น หากพบว่ามีความผิดจริงจะดำเนินการอย่างแน่นอน แต่จนถึงขณะนี้เรื่องการสอบสวนผู้ใต้บังคับบัญชาที่มีส่วนร่วมสนับสนุนกิจกรรมเสื้อแดงก็ยังไม่มีความคืบหน้า แต่เรื่องกลับเงียบและนิ่งเฉย
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบภาพถ่ายในวันดังกล่าว พบภาพ พ.ต.ท.สมนึก เจริญศรีสุข สว.3 บก.อก.(งานยานพาหนะและขนส่ง ) ซึ่งผู้สื่อข่าวได้สอบถาม พ.ต.ท.สมนึก ได้ความว่าวันดังกล่าวตนไปที่รัฐสภาจริง เพื่อไปส่งน้ำดื่มจำนวน 3 พันขวดให้เจ้าหน้าที่ที่อยู่ข้างใน ซึ่งขณะที่เดินผ่านหน้ารัฐสภาเข้ามา ทางกลุ่ม นปช.ได้มอบหัวใจให้ จึงรับมาโดยไม่ได้คิดอะไร จากนั้นเมื่อเข้าไปข้างในแล้ว พบว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม, ตปพ.และ ตชด.ซึ่งรักษาความปลอดภัยข้างในรัฐสภาอยู่ จากนั้นกลุ่มม็อบ นปช.ได้ส่งมอบเสื้อ ผ้าโพกหัว มาให้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็รับมาสวมใส่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจส่วนใหญ่ที่แต่งตัวคล้าย นปช.นั้น มีภูมิลำเนาอยู่ในภาคอีสาน และภาคเหนือ ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า ประชาชนในภาคดังกล่าวสนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี