ตร.ขอความร่วมมือประชาชนรักษาประเพณีที่ดีของสงกรานต์ สร้างความประทับใจนักท่องเที่ยวไม่สร้างความเดือนร้อน หรือเล่นรุนแรง อาจเข้าข่ายผิดกฎหมาย จะถูกจับดำเนินคดี
วันนี้ (27 มี.ค.) พล.ต.อ.วิโรจน์ พหลเวชช์ รอง ผบ.ตร.ปฏิบัติราชการแทน ผบ.ตร.ประกาศขอความร่วมมือจากประชาชนช่วยป้องกันอันตรายในเทศกาลวันสงกรานต์ เนื่องจากระหว่างวันที่ 13-15 เมษายน ของทุกปี เป็นช่วงเทศกาลวันสงกรานต์ ถือว่าเป็นวันขึ้นปีใหม่ของไทย เป็นประเพณีปฏิบัติที่สืบทอดกันมาจนถึงปัจจุบัน ประชาชนจำนวนมากจะเดินกลับภูมิลำเนา และพักผ่อน หรือท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ทั้งในกรุงเทพมหานคร และต่างจังหวัด มีการจัดงานฉลองเทศกาลวันสงกรานต์ เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศเข้ามาเที่ยวชมงานจำนวนมาก ดังนั้น เพื่อรักษาไว้ซึ่งขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามของสังคมไทย สร้างความประทับใจแก่นักท่องเที่ยวและให้ประชาชนผู้สัญจรไปมาได้รับความสะดวกในการจราจร รวมทั้งเป็นการเสริมสร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน
พล.ต.อ.วิโรจน์ กล่าวต่อว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงใคร่ขอความร่วมมือจากประชาชนช่วยป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นในช่วงเทศกาลวันสงกรานต์ ด้วยการเล่นสงกรานต์ ตามประเพณี ไม่สร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนไม่เล่นสาดน้ำในลักษณะที่ก่อให้เกิดอันตรายแก่ผู้อื่น หรือการกระทำใดที่เข้าข่ายผิดกฎหมาย เช่น การเล่นแป้งในลักษณะเป็นการกระทำอนาจาร การใช้น้ำแข็ง น้ำสกปรก หรือใช้สายยางฉีดน้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสาดน้ำเข้าไปในยานพาหนะ อันอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ ไม่ควรเสพเครื่องดองของเมาจนไม่สามารถครองสติได้ สำหรับผู้ขับขี่ยานพาหนะทุกชนิด ขอให้ งดเว้น การเสพสุรา หรือเครื่องดื่มที่ทำให้มึนเมาเนื่องจากการกระทำดังกล่าว นอกจากจะเป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุเกี่ยวกับการจราจรแล้ว ยังเป็นความผิดตามกฎหมาย หากผู้ใดฝ่าฝืนจะถูกจับกุมดำเนินคดี
“อยากขอความร่วมมือแนะนำบุตรหลานไม่ควรใส่เครื่องประดับหรือของมีค่าไปเล่นสงกรานต์ทั้งไม่ควรให้เด็กๆ ไปเที่ยวตามลำพัง และขอให้ผู้ปกครองจัดทำบัตรให้ปรากฏชื่อ ชื่อสกุลของเด็ก ชื่อบิดามารดาหรือผู้ปกครอง สถานที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ ใส่ในกระเป๋ากางเกงหรือกระเป๋าเสื้อของเด็กด้วย ทั้งนี้ เพื่อให้ติดตามผู้ปกครองอย่างรวดเร็ว หรือนำเด็กที่พลัดหลงส่งได้ และในการทำธุระหรือท่องเที่ยว ขอให้ผู้ที่ขับขี่ยานพาหนะทุกชนิดได้โปรด ใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ อย่าขับรถด้วยความประมาณหรือน่าหวาดเสียว อย่าใช้ความเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด และให้คำนึงถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกขณะ” พล.ต.อ.วิโรจน์ กล่าว
วันนี้ (27 มี.ค.) พล.ต.อ.วิโรจน์ พหลเวชช์ รอง ผบ.ตร.ปฏิบัติราชการแทน ผบ.ตร.ประกาศขอความร่วมมือจากประชาชนช่วยป้องกันอันตรายในเทศกาลวันสงกรานต์ เนื่องจากระหว่างวันที่ 13-15 เมษายน ของทุกปี เป็นช่วงเทศกาลวันสงกรานต์ ถือว่าเป็นวันขึ้นปีใหม่ของไทย เป็นประเพณีปฏิบัติที่สืบทอดกันมาจนถึงปัจจุบัน ประชาชนจำนวนมากจะเดินกลับภูมิลำเนา และพักผ่อน หรือท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ทั้งในกรุงเทพมหานคร และต่างจังหวัด มีการจัดงานฉลองเทศกาลวันสงกรานต์ เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศเข้ามาเที่ยวชมงานจำนวนมาก ดังนั้น เพื่อรักษาไว้ซึ่งขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามของสังคมไทย สร้างความประทับใจแก่นักท่องเที่ยวและให้ประชาชนผู้สัญจรไปมาได้รับความสะดวกในการจราจร รวมทั้งเป็นการเสริมสร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน
พล.ต.อ.วิโรจน์ กล่าวต่อว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงใคร่ขอความร่วมมือจากประชาชนช่วยป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นในช่วงเทศกาลวันสงกรานต์ ด้วยการเล่นสงกรานต์ ตามประเพณี ไม่สร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนไม่เล่นสาดน้ำในลักษณะที่ก่อให้เกิดอันตรายแก่ผู้อื่น หรือการกระทำใดที่เข้าข่ายผิดกฎหมาย เช่น การเล่นแป้งในลักษณะเป็นการกระทำอนาจาร การใช้น้ำแข็ง น้ำสกปรก หรือใช้สายยางฉีดน้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสาดน้ำเข้าไปในยานพาหนะ อันอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ ไม่ควรเสพเครื่องดองของเมาจนไม่สามารถครองสติได้ สำหรับผู้ขับขี่ยานพาหนะทุกชนิด ขอให้ งดเว้น การเสพสุรา หรือเครื่องดื่มที่ทำให้มึนเมาเนื่องจากการกระทำดังกล่าว นอกจากจะเป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุเกี่ยวกับการจราจรแล้ว ยังเป็นความผิดตามกฎหมาย หากผู้ใดฝ่าฝืนจะถูกจับกุมดำเนินคดี
“อยากขอความร่วมมือแนะนำบุตรหลานไม่ควรใส่เครื่องประดับหรือของมีค่าไปเล่นสงกรานต์ทั้งไม่ควรให้เด็กๆ ไปเที่ยวตามลำพัง และขอให้ผู้ปกครองจัดทำบัตรให้ปรากฏชื่อ ชื่อสกุลของเด็ก ชื่อบิดามารดาหรือผู้ปกครอง สถานที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ ใส่ในกระเป๋ากางเกงหรือกระเป๋าเสื้อของเด็กด้วย ทั้งนี้ เพื่อให้ติดตามผู้ปกครองอย่างรวดเร็ว หรือนำเด็กที่พลัดหลงส่งได้ และในการทำธุระหรือท่องเที่ยว ขอให้ผู้ที่ขับขี่ยานพาหนะทุกชนิดได้โปรด ใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ อย่าขับรถด้วยความประมาณหรือน่าหวาดเสียว อย่าใช้ความเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด และให้คำนึงถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกขณะ” พล.ต.อ.วิโรจน์ กล่าว
