ผบช.น.ส่งหนังสือเชิญประธานคณะกรรมาธิการสิทธิฯ ร่วมสังเกตการณ์ชุมนุมกลุ่มเสื้อแดงตั้งแต่วันนี้ 6 โมงเย็นเป็นต้นไป หวั่นมือที่ 3 สร้างความวุ่นวาย ด้านนครบาล ใช้กำลัง 22 กองร้อย 3,300 นาย ดูแลความสงบเรียบร้อย พร้อมทหารจะร่วมเสริมกำลังอีก 6,000 นาย สั่งตั้งด่านตรวจอาวุธรอบทำเนียบฯ
วันนี้ (25 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวาน 24 มี.ค.ที่ผ่านมา พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้ส่งหนังสือราชการที่ ดช 0016.125/2727 ลงวันที่ 24 มี.ค. จากกองบัญชาการตำรวจนครบาล ถึงประธานคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา เพื่อขอเชิญเข้าร่วมสังเกตการณ์การรักษาความสงบเรียบร้อยกรณีการชุมนุม
โดยอ้างว่าจากสถานการณ์ทางการข่าว กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้ายเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) มีแนวโน้มรวมตัวจัดกิจกรรมบริเวณโดยรอบทำเนียบรัฐบาล และพื้นที่ต่อเนื่อง ในวันพรุ่งนี้ (26 มี.ค.) ซึ่งคาดว่าจะมีการระดมมวลชนเข้าร่วมชุมนุมเป็นจำนวนมาก และอาจมีบุคคลผู้ไม่ประสงค์ดีแทรกซึมเข้ามาก่อความวุ่นวายเกิดขึ้นได้
พร้อมทั้งหนังสือราชการดังกล่าวได้ชี้แจงว่า ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาลได้สั่งการกำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกคนต้องปฏิบัติอย่างละมุนละม่อม ใช้การเจรจาประชาสัมพันธ์ สร้างความเข้าใจ หลีกเลี่ยงการใช้กำลัง ใช้ความอดทนอดกลั้นอย่างถึงที่สุด ห้ามตอบโต้ หรือใช้ความรุนแรงเป็นอันขาด โดยกำหนดมาตรการจากเบาไปหาหนัก
ดังนั้น จึงขอเชิญประธานคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และคุ้มครองผู้บริโภค และคณะเข้าร่วมติดตามสถานการณ์เหตุการณ์โดยใกล้ชิด ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ปฏิบัติได้ตั้งแต่วันที่ 25 มี.ค. เวลา 18.00 น. ถึงจนกว่าสถานการณ์การชุมนุมจะคลี่คลาย เพื่อที่จะได้รับทราบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการตรวจสอบรวบรวมข้อมูลในภายหลังต่อไป
ขณะเดียวกัน ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.สุพร พันธุ์เสือรอง ผบช.น.ฐานะ โฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมรับมือม็อบเสื้อแดงว่าพล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น.จะเป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ด้วยตัวเอง โดยใช้แผนกรกฎ 48 และแผนพิทักษ์เมือง 50 เพื่อดูแลการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วม นปช. จากการประชุมมีการเตรียมกำลังตำรวจไว้พร้อมแล้ว คือใช้กำลังจำนวน 22 กองร้อย หรือ 3,300 นาย ต่อ 1 ผลัด โดยใช้กำลังของนครบาลเป็นหลัก พร้อมประสานขอกำลังจาก ตำรวจภูธรภาค 1 ,2, 7 ตชด.บช.ก.เหมือนครั้งที่ผ่านมา และได้รับการสนับสนุนกำลังจากทหาร อีก 6 กองพัน ประมาณ 6,000 นายเข้ามาช่วย พร้อมทั้งตั้งจุดตรวจอาวุธ รอบทำเนียบรัฐบาล เพื่อดูแลรักษาความปลอดภัย ไม่ให้มีมือที่ 3 เข้ามาสร้างสถานการณ์ ทั้งนี้ การเคลื่อนขบวนของกลุ่ม นปช. จากสนามหลวงมาทำเนียบรัฐบาลนั้น จะไม่มีการตั้งจุดสกัดแต่อย่างใด แต่ขอให้กลุ่มผู้ชุมนุมๆ อย่างสงบภายใต้กรอบของกฎหมาย
โฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาลยังกล่าวถึงการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่จะโฟนอินมายังสนามหลวงด้วยว่า พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น.ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการตรวจสอบและหากต้องฟ้องร้องดำเนินคดีก็จะรวบรวมพยานหลักฐานส่งฟ้องทุกคดี
วันนี้ (25 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวาน 24 มี.ค.ที่ผ่านมา พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้ส่งหนังสือราชการที่ ดช 0016.125/2727 ลงวันที่ 24 มี.ค. จากกองบัญชาการตำรวจนครบาล ถึงประธานคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา เพื่อขอเชิญเข้าร่วมสังเกตการณ์การรักษาความสงบเรียบร้อยกรณีการชุมนุม
โดยอ้างว่าจากสถานการณ์ทางการข่าว กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้ายเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) มีแนวโน้มรวมตัวจัดกิจกรรมบริเวณโดยรอบทำเนียบรัฐบาล และพื้นที่ต่อเนื่อง ในวันพรุ่งนี้ (26 มี.ค.) ซึ่งคาดว่าจะมีการระดมมวลชนเข้าร่วมชุมนุมเป็นจำนวนมาก และอาจมีบุคคลผู้ไม่ประสงค์ดีแทรกซึมเข้ามาก่อความวุ่นวายเกิดขึ้นได้
พร้อมทั้งหนังสือราชการดังกล่าวได้ชี้แจงว่า ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาลได้สั่งการกำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกคนต้องปฏิบัติอย่างละมุนละม่อม ใช้การเจรจาประชาสัมพันธ์ สร้างความเข้าใจ หลีกเลี่ยงการใช้กำลัง ใช้ความอดทนอดกลั้นอย่างถึงที่สุด ห้ามตอบโต้ หรือใช้ความรุนแรงเป็นอันขาด โดยกำหนดมาตรการจากเบาไปหาหนัก
ดังนั้น จึงขอเชิญประธานคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และคุ้มครองผู้บริโภค และคณะเข้าร่วมติดตามสถานการณ์เหตุการณ์โดยใกล้ชิด ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ปฏิบัติได้ตั้งแต่วันที่ 25 มี.ค. เวลา 18.00 น. ถึงจนกว่าสถานการณ์การชุมนุมจะคลี่คลาย เพื่อที่จะได้รับทราบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการตรวจสอบรวบรวมข้อมูลในภายหลังต่อไป
ขณะเดียวกัน ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.สุพร พันธุ์เสือรอง ผบช.น.ฐานะ โฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมรับมือม็อบเสื้อแดงว่าพล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น.จะเป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ด้วยตัวเอง โดยใช้แผนกรกฎ 48 และแผนพิทักษ์เมือง 50 เพื่อดูแลการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วม นปช. จากการประชุมมีการเตรียมกำลังตำรวจไว้พร้อมแล้ว คือใช้กำลังจำนวน 22 กองร้อย หรือ 3,300 นาย ต่อ 1 ผลัด โดยใช้กำลังของนครบาลเป็นหลัก พร้อมประสานขอกำลังจาก ตำรวจภูธรภาค 1 ,2, 7 ตชด.บช.ก.เหมือนครั้งที่ผ่านมา และได้รับการสนับสนุนกำลังจากทหาร อีก 6 กองพัน ประมาณ 6,000 นายเข้ามาช่วย พร้อมทั้งตั้งจุดตรวจอาวุธ รอบทำเนียบรัฐบาล เพื่อดูแลรักษาความปลอดภัย ไม่ให้มีมือที่ 3 เข้ามาสร้างสถานการณ์ ทั้งนี้ การเคลื่อนขบวนของกลุ่ม นปช. จากสนามหลวงมาทำเนียบรัฐบาลนั้น จะไม่มีการตั้งจุดสกัดแต่อย่างใด แต่ขอให้กลุ่มผู้ชุมนุมๆ อย่างสงบภายใต้กรอบของกฎหมาย
โฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาลยังกล่าวถึงการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่จะโฟนอินมายังสนามหลวงด้วยว่า พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น.ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการตรวจสอบและหากต้องฟ้องร้องดำเนินคดีก็จะรวบรวมพยานหลักฐานส่งฟ้องทุกคดี
