ปปง.เตือนประชาชนระวังแก๊งแอบอ้างชื่อเจ้าหน้าที่ ปปง.โทรศัพท์แจ้งว่าเป็นผู้ถูกดำเนินคดีฟอกเงินให้ทำตามขั้นตอนสุดท้ายเป็นการโอนเงินเข้าบัญชีคนร้าย รักษาการเลขาฯ ปปง.ยันไม่เคยมีนโยบายโทรศัพท์-ส่งอีเมลล์แจ้งอายัดทรัพย์ใคร
วันนี้ (24 มี.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) นายเดชา งามละม้าย นายชาญชัย สวัสดิ์กิจ และ นายเกรียงศักดิ์ ฉมาดล เข้าร้องเรียนต่อ พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ รองเลขาธิการ ปปง.รักษาการเลขาฯ ปปง.ว่า ถูกกลุ่มมิจฉาชีพโทรศัพท์หลอกลวงว่าเป็นเจ้าหน้าที่ ปปง.ขอให้โอนเงินเข้าบัญชี เนื่องจากถูกดำเนินคดีในความผิดฐานฟอกเงิน แต่พวกตนมิได้หลงเชื่อโอนเงินให้ แต่ขอนัดเข้าพบที่ ปปง.ด้วยตนเอง จึงไม่ตกเป็นเหยือ โดยกลุ่มคนร้ายจะใช้วิธีโทรศัพท์มาพูดคุยโดยตรง หรือโทรศัทพ์เป็นระบบตอบรับอัตโนมัติ ติดต่อมายังผู้เสียหาย
พ.ต.อ.สีหนาท กล่าวว่า กลุ่มคนร้ายดังกล่าวจะแอบอ้างชื่อเป็นเจ้าหน้าที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ศาลอาญารัชดา หรือธนาคารแห่งประเทศไทย แจ้งว่า ผู้เสียหายถูกดำเนินคดีตามหมายศาลระบุหมายเลขคดี จากนั้นจะโอนสายโทรศัพท์ไปยังคนร้ายอีกคนที่แอบอ้างชื่อว่าเป็นเจ้าของคดี พ.ต.อ.หญิง หรือ พ.ต.ท.หญิง ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของ ปปง.โดยชื่อดังกล่าวเป็นเจ้าหน้าที่ที่มีตัวตนจริง ซึ่งคนร้ายที่แอบอ้างชื่อเป็นเจ้าหน้าที่ของ ปปง.นี้จะแจ้งว่าผู้เสียหายกระทำผิดในข้อหาเกี่ยวกับยาเสพติด ฉ้อโกงประชาชนหรือข้อหาฟอกเงิน และยังอ้างว่าจากการตรวจสอบบัญชีธนาคาร พบว่า มีเงินเข้า-ออกในบัญชีของผู้เสียหายจำนวนหลายล้านบาท ให้ทำตามขั้นตอนที่คนร้ายระบุ โดยระหว่างนั้นหากผู้เสียหายพยายามสอบถามรายละเอียด คนร้ายจะถามผู้เสียหายว่าเคยไปทำบัตรเครดิต หรือไม่และได้รับอนุมัติหรือไม่ เคยทำกระเป๋าสตางค์หรือบัตรแสดงตน หรือบัตรเครดิตหายหรือไม่ หรือเคยไปสมัครงานที่ใหนมาบ้างหรือไม่
พ.ต.อ.สีหนาท กล่าวอีกว่า จากนั้นคนร้ายจะแจ้งให้ผู้เสียหายแสดงความบริสุทธิ์ หรือตรวจสอบว่าตนเองเข้าไปเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดหรือไม่ โดยให้แจ้งหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน และหมายเลขบัญชีของผู้เสียหาย ต่อมาจะบอกให้ผู้เสียหายไปที่ตู้เอทีเอ็มของธนาคารที่ใกล้ที่สุด และให้ผู้เสียหายดำเนินการตามขั้นตอนที่ผู้หลอกลวงแจ้ง ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นการให้ผู้เสียหายโอนเงินเข้าบัญชีที่กลุ่มคนร้ายเปิดไว้โดยให้เปลี่ยนโปรแกรมการโอนเงินที่ตู้เอทีเอ็มจากภาษาไทยเป็นภาษาอังกฤษ
พ.ต.อ.สีหนาท กล่าวยืนยันว่า การปฏิบัติงานของ ปปง.จะไม่ใช้วิธีการให้ผู้ต้องสงสัยกดเอทีเอ็ม หรือส่งอีเมล แต่จะใช้วิธีเชิญตัวมาให้ปากคำที่ ปปง.และไม่มีนโยบายติดต่อผู้เสียหายทางโทรศัพท์ หรือส่งอีเมล ไปอายัดเงินบุคคลใด นอกจากนี้ ยังพบว่า ได้มีกลุ่มคนร้ายส่งอีเมลไปยังผู้เสียหายชาวต่างชาติหลายประเทศ อ้างว่า ผู้เสียหายชาวต่างชาติเหล่านั้นมีจำนวนภาษีที่ต้องจ่าย ซึ่ง ปปง.ได้ประสานไปยัง ปปง.ทั่วโลก และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้วให้แจ้งเตือนประชาชนของตนเอง ที่ผ่านมา พบผู้เสียหายที่โอนเงินใก้กับกลุ่มคนร้ายเพียงรายเดียวและสูญเงินไปหลายแสนบาท ส่วนบัญชีปลายทางที่คนร้ายให้โอนเงินเข้าไปนั้นตรวจสอบแล้วพบว่าเจ้าของบัญชีมีอายุ 21 ปี เชื่อว่า เป็นผู้รับจ้างให้เปิดบัญชี
พ.ต.อ.สีหนาท กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ ปปง.ได้เสนอกฎหมายให้ธนาคารตรวจสอบข้อมูลลูกค้าที่มาขอเปิดบัญชีให้ละเอียดมากขึ้นจากเดิมที่ใช้เพียงบัตรประจำตัวประชาชน และสอบถามวัตถุประสงค์ในการขอเปิดบัญชี หากธนาคารตรวจสอบพบว่าการเปิดบัญชีไม่น่าเป็นไปเพื่อการทำธุรกรรม หรือเป็นบัญชีต้องสงสัย ทางธนาคารสามารถที่จะไม่เปิดบัญชีให้ได้ หรือเปิดบัญชีให้แต่เข้าไปตรวจสอบความเคลื่อนไหวของบัญชีอย่างใกล้ชิดได้ ซึ่งอาจทำให้การเปิดบัญชีธนาคารเพิ่มขั้นตอนขึ้นบ้าง ซึ่งขณะนี้กฎหมายดังกล่าวอยู่ระหว่างการพิจารณาของวุฒิสภา
