จับโชเฟอร์แท็กซี่ทาสยาเสพติด ลักลอบค้ายาบ้า ใช้เครื่องมือทำมาหากินส่งยา หลังสืบทราบเป็นเอเยนต์รายใหญ่ในพื้นที่ ก่อนวางแผนจับกุมได้พร้อมของกลางยาบ้า อาวุธปืน สารภาพ ยาและปืนที่พบเป็นของเพื่อนที่เป็นข้าราชการ กทม. เงินที่ได้เอามาซื้อยาเสพ พบเคยติดคุกคดียามา 8 ปี เพิ่งพ้นโทษออกมา
วันนี้ (23 มี.ค.) เมื่อเวลา 15.30 น.ที่กองปราบปราม พ.ต.อ.ชัยทัต บุญขำ ผกก.ปพ.บก.ป.พร้อมด้วย พ.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล สว.กก.ปพ.บก.ป. และ ร.ต.ท.เจษฎา โสมนัส รอง สว.กก.ปพ.บก.ป.นำกำลังจับกุมนายสมชาติ ปานพุ่ม อายุ 47 ปี ขณะขับรถกระบะยี่ห้อนิสสัน บิ๊กเอ็ม สีน้ำเงิน ทะเบียน บค-5132 พิจิตร มาจอดที่บริเวณถนนรามคำแหงใกล้แยกบ้านม้า แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม.จากการตรวจค้นภายในรถพบยาบ้าจำนวน 100 เม็ด จากนั้นจึงขอหมายค้นศาลอาญาที่ 314/2552 ลงวันที่ 23 มีนาคม 2552 เข้าตรวจค้นบ้านพักเลขที่ 601/93 ชุมชนบึงพระราม 9 ถนนเลียบทางด่วนรามอินทรา แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กทม.ของนายสมชาติ พบยาบ้าอีก 23 เม็ด อุปกรณ์การเสพ อาวุธปืนขนาด 11 มม. 1 กระบอก ขนาด .38 มม.1 กระบอก พร้อมกระสุนปืนอีก 37 นัด
โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่ามีการลักลอบค้ายาบ้าให้วัยรุ่นนักเรียน นักศึกษา และผู้ใช้แรงงานในชุมชนดังกล่าว จึงส่งเจ้าหน้าที่เข้าสืบสวน ทราบว่านายสมชาติเป็นเอเยนต์รายใหญ่ในพื้นที่ เจ้าหน้าที่ได้ติดตามดูพฤติกรรมกระทั่งทราบว่าจะมีการนำยาบ้าไปส่งให้ลูกค้า จึงวางแผนจับกุมขณะผู้ต้องหาจอดรถในที่เกิดเหตุดังกล่าว
สอบสวนนายสมชาติให้การว่า ยาบ้าและอาวุธปืนของกลางเป็นของนายกอล์ฟ ไม่ทราบชื่อ-สกุล อายุประมาณ 30 กว่าปี ข้าราชการสังกัดกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นเพื่อนที่มาพักอาศัยอยู่ในห้องติดกัน โดยนายกอล์ฟ เคยว่าจ้างตนให้นำยาบ้าไปส่งลูกค้า ย่านรังสิต อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ได้ค่าตอบแทนครั้งละ 1,000-1,500 บาท ซึ่งทำมาแล้วนับ 10 ครั้ง
“เมื่อปี 2541 ผมเคยถูกจับกุมข้อหาครองครองยาบ้า ที่จ.ขอนแก่น และถูกศาล ตัดสินจำคุกเป็นเวลา 8 ปี 2 เดือน เมื่อพ้นโทษออกมาก็มาพักอาศัยกับพี่สาวในชุมชนบึงพระราม 9 และขับรถแท็กซี่หาเลี้ยงชีพ ส่วนสาเหตุที่รับจ้างส่งเพราะต้องการเงินมาเสพยาบ้า” นายสมชาติ กล่าว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.หัวหมาก ดำเนินคดีต่อไป