ดีเอสไอ-ป.ป.ส.ขยายผลยึดทรัพย์ญาติ 3 ผู้ต้องหาค้ายาเสพติดเครือข่ายขุนส่า มั่นใจพยานหลักฐานแน่นมีประจักษ์พยานมัดดิ้นไม่หลุด ต่างจากคดี “เล่าต๋า”
วันนี้ (21 มี.ค.) พ.ต.อ.ดุษฎี อารยะวุฒิ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวถึงความคืบหน้าการจับกุมนักค้ายาเสพติดเครือข่ายขุนส่าว่า เจ้าหน้าที่ดีเอสไอได้เร่งสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย และพยานอีกหลายปาก ส่วนผู้เกี่ยวข้องกับเครือข่ายขุนส่ายังมีอีกบางส่วนที่อยู่ระหว่างการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ และคาดว่าจะนำไปสู่การจับกุมเพิ่มเติม เพราะเครือข่ายดังกล่าวเป็นเครือข่ายใหญ่ สำหรับการยึดอายัดทรัพย์เพิ่มเติมอยู่ระหว่างดำเนินการ
แหล่งข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) กล่าวว่า การจับกุมเครือข่ายดังกล่าว เป็นเครือข่ายค้าเฮโรอีนที่ใหญ่ทีสุดในขณะนี้ เพราะหากเปรียบเทียบวงเงินที่ยึดอายัดทรัพย์ได้กว่า 100 ล้านบาท แสดงว่าเครือข่ายดังกล่าวกลับมารุ่งเรืองอีกครั้งหลังจากเงียบหายไปช่วงหนึ่ง และจากฐานข้อมูลของปปส.ยังพบว่าเครือข่ายดังกล่าวยังมีญาติพี่น้องอีกหลายรายที่เข้าข่ายถูกยึดอายัดทรัพย์สิน ต้องยอมรับว่าเครือข่ายลักษณะนี้จะมีผู้เกี่ยวข้องจำนวนมาก ทรัพย์สินคงไม่มีแค่นี้แน่นอน อย่างไรก็ตาม เชื่อมั่นว่าคดีดังกล่าวมีความชัดเจนว่าเป็นขบวนการค้ายาเสพติดจริง เพราะมีของกลางที่ได้จากการล่อซื้อ และมีความแตกต่างจากคดีของนายเล่าต๋า แสนลี่ อดีตผู้ต้องขังคดียาเสพติด ที่ศาลยกฟ้อง เพราะคดีนี้มีประจักษ์พยานจำนวนมาก อีกทั้งหลักฐานสำคัญหลายอย่างที่บ่งชี้ชัดเจนว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติด
แหล่งข่าวจาก ป.ป.ส.กล่าวอีกว่า สำหรับทรัพย์สินจำนวนมากที่ถูกเจ้าหน้าที่ยึดอายัด จากนี้เป็นหน้าที่ของญาติพี่น้อง หรือตัวผู้ต้องหา ที่ต้องหาพยานหลักฐานเพื่อชี้แจงถึงที่มาของทรัพย์สินต่อศาลว่า หากไม่สามารถชี้แจงได้ศาลจะมีคำสั่งให้ริบทรัพย์ดังกล่าวตกเป็นของแผ่นดิน