ตำรวจวังทองหลางตามรวบอดีตโมเดลลิ่งตกอับ ติดยาไอซ์งอมแงม ร่วมมือกับเพื่อนตั้งแก๊งออกตระเวนหารถที่จอดริมถนน ใช้ไฟฉายส่องหาทรัพย์สินในรถ หากเจอก็ใช้สว่านทุบกระจกจนแตก กวาดทรัพย์ไปขายหาเงินซื้อยา สารภาพจ้องรถยุโรปราคาแพงก่อน และเลือกลงมือย่านวังทองเพราะคนรวยอาศัยอยู่เยอะ ตำรวจค้นห้องพบของกลางนับร้อยรายการ
เมื่อเวลา 14.30 น.วันนี้ (14 มี.ค.) ที่ สน.วังทองหลาง พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น. พล.ต.ต.วิมล เปาอินทร์ ผบก.น.4 พ.ต.อ.มัณทาร อภัยวงศ์ พ.ต.อ.พชร บุญญสิทธิ์ พ.ต.อ.อาณัติ เกล็ดมณี รอง ผบก.น.4 พ.ต.ท.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย รอง ผกก.ป.สน.วังทองหลาง พ.ต.ท.นิวัติ พึ่งอุทัยศรี สว.สส.สน.วังทองหลาง พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนและสายตรวจ สน.วังทองหลาง ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายพงศักดิ์ หรือ เอ ปิณฑะบุตร อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 73/40 ม.8 ต.บางกระสอ อ.เมือง จ.นนทบุรี พร้อมของกลางสว่านปลายแหลม 3 ดอก รถเก๋งยี่ห้อฮอนด้าแอคคอร์ด สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน พภ-9269 กทม. คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค 2 เครื่อง และทรัพย์สินของมีค่าต่างๆ เช่น สร้อยคอทองคำ แหวนเพชร ต่างหู ฮาร์ดดิสก์ กระเป๋าสตรียี่ห้อแบรนด์เนม กระเป๋าสะพาย กระเป๋าโน๊ตบุ๊ก รวมจำนวน 117 รายการ
พล.ต.ท.วรพงษ์ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ กก.สืบสวน บก.น.5 ที่จับกุมแก๊งคนร้ายแก๊งทุบกระจกรถลักทรัพย์ ไปแล้ว 2 คน โดยหนึ่งในนั้นได้ประกันตัวออกมาแล้วนั่งเครื่องบินไปหาสมาชิกในแก๊งที่จังหวัดขอนแก่น ซึ่งมีนายพงศักดิ์อยู่ในแก๊งด้วย จากนั้นกลุ่มผู้ต้องหาก็ได้ก่อเหตุตระเวนทุบกระจกรถลักทรัพย์ในท้องที่ จ.ขอนแก่น จนถูกตำรวจบช.ภ.4 จับกุมไปอีก แต่ผู้ต้องหากลับหลบหนีไปได้ พร้อมทั้งนั่งเครื่องบินขนทรัพย์สินกลับมาขายที่ กทม.
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.วังทองหลาง นำโดย พ.ต.ท.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย รองผกก.ป.สน.วังทองหลาง และพ.ต.ท.นิวัติ พึ่งอุทัยศรี สว.สส.ได้สืบทราบว่า ผู้ต้องหาพักอาศัยอยู่ในอาคารบดินทร์สวีทโฮม ซอยลาดพร้าว 94 แขวงและเขตวังทองหลาง จึงนำกำลังไปดักซุ่ม จนกระทั่งเวลา 05.00 น.วันนี้ (14 มี.ค.) ก็พบผู้ต้องหาขับรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้าแอคคอร์ด สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน พภ-9269 กทม. กลับเข้ามา จึงแสดงตัวขอเตรวจค้นในรถก็พบโน๊ตบุ๊ค 2 เครื่อง และสว่านปลายแหลมอีก 3 ดอก เบื้องต้นเจ้าตัวรับสารภาพว่า เพิ่งก่อเหตุทุบกระจกรถแล้วขโมยโน้ตบุ๊กมาจากย่านพระราม 9 เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไปตรวจค้นห้องพักเลขที่ 312 อาคารบี และห้องเลขที่ 412 อาคารเอฟ บดินทร์สวีทโฮม ของผู้ต้องหาก็พบของกลางนับร้อยรายการ จึงยึดไว้เป็นหลักฐานก่อนจึงควบคุมมาสอบปากคำ
จากการสอบสวนนายพงศักดิ์ให้การรับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้ตนทำงานอยู่โมเดลลิ่งย่านสะพานพระนั่งเกล้า จ.นนทุบรี ทำหน้าที่คอยจัดหาเด็กหน้าตาดีมาเทสหน้ากล้อง แต่ภายหลังเกิดมีปัญหากับทีมงานก็เลยลาออกมา ตอนนี้ก็ตกงานมาได้ปีกว่าแล้ว แต่ตนเองกับแฟนสาวติดยาไอซ์มานานกว่า 2 ปี เลยต้องหาเงินมาซื้อยาเสพ โดยตนกับเพื่อนออกตระเวนหารถเก๋งที่จอดอยู่ริมถนนในย่านวังทองหลางเพื่อทุบกระจกรถขโมยเอาทรัพย์สินภายในรถออกมา
“ส่วนใหญ่จะลงมือในย่านวังทองหลาง เพราะเป็นย่านที่มีคนรวยอาศัยอยู่เยอะ และพวกผมก็จะเลือกรถยุโรปราคาแพงก่อน หากไม่ได้ก็ค่อยหารถญี่ปุ่น โดยพวกผมจะแบ่งหน้าที่กันมีคนขับรถ คนดูต้นทาง ส่วนผมจะเอาไฟฉายส่องหาทรัพย์สินในรถ หากเจอก็จะใช้ดอกสว่านแทงกระจกให้แตก หากสัญญาฯกันขโมยดังก็รีบหนีทันที หากสัญญาณไม่ดังก็จะรีบขนเอาทรัพย์สินออกมา รวมเวลาที่ลงมือแต่ละครั้งไม่เกิน 10 วินาที ได้ทรัพย์สินมาแล้วก็จะเอาไปขายแล้วหาซื้อยาไอซ์เสพ ส่วนเครื่องประดับบางชิ้นที่ไม่ได้ขายก็เพราะเอาไปให้แฟนใส่” นายพงศักดิ์ ให้การ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างแถลงข่าวอยู่นั้นก็มีผู้เสียหายหลายรายเดินทางมาตรวจสอบดูทรัพย์สินของกลาง โดยนายภากร ยังรอด อายุ 37 ปี เจ้าของโน๊ตบุ๊คที่ผู้ต้องหาเพิ่งขโมยมา เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุเวลา 01.30 น.ขับรถเก๋งโตโยต้าโซลูน่า หมายเลขทะเบียน พษ-9723 กทม.ไปจอดกินข้าวกับเพื่อนที่ร้านอิสานกันเอง ย่านพระราม 9 โดนเอาโน๊ตบุ๊คของตนกับเพื่อนทิ้งไว้ในรถ กระทั่งออกมาเวลา 03.00 น.ก็พบว่ากระจกข้างด้านหลังซ้ายถูกทุบแตกทั้งบาน และโน้ตบุ๊กก็ก็หายไป จึงรีบไปแจ้งความที่ สน.ห้วยขวาง ก่อนตำรวจจะแจ้งว่า จับคนร้ายที่ทุบกระจกรถตนได้จึงรีบมาดูทันที
ด้าน น.ส.เบญจภรณ์ วีราสา อายุ 35 ปี ผู้เสียหายอีกราย กล่าวว่า เมื่อเวลา 10.54 น.ของวันที่ 23 ก.พ.ที่ผ่านมา ตนจอดรถเก๋งโตโยต้า ยาริส สีบรอน์เงิน หมายเลขทะเบียน ชพ-231 กทม. ไว้ข้างบ้านในซอยศูนย์วิจัย 13 แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง โดยเอาทรัพย์สินของมีค่ารวมจำนวน 17 รายการ มูลค่า 170,000 บาท ใส่กระเป๋าทิ้งไว้ในรถ พอเวลา 04.00 น.ของวันรุ่งขึ้น ตนออกมาจากบ้านก็พบว่ากระจกรถข้างคนขับถูกทุบแตกละเอียด กระเป๋าก็หายไป จึงมาแจ้งความที่สน.วังทองหลาง
หลังจากนั้นก็พบว่าคนร้ายเอาบัตรเครดิตของตนที่แจ้งอายัดไว้แล้วไปรูดซื้อของในเวลา02.00 น.เศษ อีกด้วย จึงเชื่อว่า คนร้ายน่าจะลงมือในช่วงกลางของวันที่ 23 ก.พ. จนกระทั่งวันนี้ ตำรวจแจ้งไปว่าพบทรัพยสินของตนซุกซ่อนอยู่ในห้องพักผู้ต้องหาจึงรีบมาดู ก็พบทรัพย์สินหลายรายการด้วยกัน
พล.ต.ท.วรพงษ์ กล่าวด้วยว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองทรัพย์ ลักทรัพย์หรือรับของโจร และทำให้เสียทรัพย์ ก่อนนำตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมาย ทั้งนี้หากผู้เสียหายรายใดสงสัยว่าเคยถูกผู้ต้องหาแก๊งนี้ทุบกระจกรถขโมยทรัพย์สินไปก็สามารถมาดูของกลางได้ที่ สน.วังทองหลาง และกก.สืบสวน บก.น.5
