ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ แต่งตั้ง พล.ต.ท.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง ควบคุมศูนย์ปราบโจรกรรมรถยนต์ และรถ จยย. พร้อมสั่งการไปยังตำรวจทั่วประเทศกวดขันปราบปราม และจับกุมขั้นเด็ดขาด ตั้งแต่นักแซงก์รถ อู่ซ่อม ร้านขายอะไหล่ที่รับซื้อของโจร ทั้งระบบ และให้กวาดล้างให้สิ้นทั้งขบวนการ
วันนี้ (12 มี.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.สัญชัย สุนทรบุระ ผู้บังคับการกองสารนิเทศ (ผบก.สท.) เปิดเผยว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบว่า คดีโจรกรรมรถยนต์และรถจักรยานยนต์ มีแนวโน้มสูงอย่างต่อเนื่อง และพัฒนารูปแบบวิธีการมากยิ่งขึ้น เป็นขบวนการในลักษณะองค์กรอาชญากรรม มีเครือข่ายการกระทำความผิดทั้งในและนอกประเทศ สร้างความเดือดร้อนต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) จึงออก “แผนปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ปจร.52)” ขึ้น พร้อมจัดตั้ง “ศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ” (ศปจร.ตร.) โดยมี พล.ต.ท.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้ช่วย ผบ.ตร.เป็นผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ผอ.ศปจร.ตร.)
“ผบ.ตร.สั่งการให้กองบัญชาการตำรวจนครบาล ตำรวจภูธรภาค 1-9 กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน และสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พิจารณาจัดตั้งศูนย์ฯ ระดับกองบัญชาการ/กองบังคับการ ขึ้นรองรับแผน โดยจัดและประกอบกำลังพลของหน่วยตามความเหมาะสม ดำเนินมาตรการป้องกัน ขจัด หรือลดช่องโอกาสในการกระทำผิด เพิ่มมาตรการในการตรวจของเจ้าหน้าที่สายตรวจ และด่านตรวจคนเข้าเมือง เพิ่มมาตรการในด้านการสืบสวนหาข่าว ติดตามความเคลื่อนไหวของคนร้าย ขบวนการ หรือองค์กรของคนร้าย บุคคลพ้นโทษในความผิดที่เกี่ยวกับการโจรกรรมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ โดยให้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูล ข่าวสารกันอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง ทั้งภายในและระหว่างประเทศ” ผบก.สท.กล่าว
พล.ต.ต.สัญชัย กล่าวด้วยว่า ผบ.ตร.ยังสั่งการให้ ตั้งจุดตรวจ จุดสกัด ด่านตรวจคนเข้าเมือง โดยทั่วไปจะต้องให้มีการตรวจสอบเอกสารประจำรถยนต์ รถจักรยานต์ จัดทำบัญชีอู่ซ่อมรถ อู่พ่นสีรถ อู่ประกอบ หรือดัดแปลงรถ ร้านจำหน่ายอะไหล่รถ หรือสถานที่จำหน่ายรถเก่า เพื่อประโยชน์ในการสืบสวนสอบสวน และให้มีการตรวจค้นสถานที่ดังกล่าวเป็นระยะต่อเนื่อง เพื่อควบคุมป้องกันมิให้มีการกระทำผิดเกิดขึ้น
ขณะที่ ด้านการปราบปราม ผบก.สท.กล่าวว่า เป้าหมายให้สามารถจับกุมคนร้าย ขบวนการ หรือองค์กรที่เกี่ยวข้องกับการโจรกรรมรถ และให้รวมถึงตัวการ หรือผู้สนับสนุน พร้อมทั้งขยายผลการปฏิบัติไปยังแหล่งดัดแปลง รับซื้อ-จำหน่ายรถที่ถูกโจรกรรม เพื่อให้สามารถจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องและยึดรถที่ถูกโจรกรรมไปกลับคืนมาให้ได้มากที่สุด ใช้อุปกรณ์และเทคโนโลยีสมัยใหม่ช่วยในการตรวจสอบข้อมูล คนร้าย การแจ้งหาย หมายจับ เพื่อให้การสืบสวนปราบปรามกระทำได้อย่างรวดเร็ว ถูกต้อง และแม่นยำ เร่งรัดการสืบสวนสอบสวนดำเนินคดีโจรกรรมรถที่เป็นคดีค้างเก่า และการลักลอบนำเข้ารถหลบหนีภาษีอย่างจริงจัง
“ในด้านการสนับสนุน จัดระบบฐานข้อมูลอาชญกรรมที่เกี่ยวกับการโจรกรรมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ โดยใช้เครื่องคอมพิวเตอร์เครือข่ายเชื่อมโยงข้อมูลข่าวสาร เพื่อประโยชน์ในการสืบสวนสอบสวน โดยใช้ระบบฐานข้อมูล GIS (Geographical Information System) เป็นเครื่องมือ ตลอดจนศึกษาพัฒนาวิทยาการ ด้านการสืบสวนสอบสวนความผิดเกี่ยวกับการโจรกรรมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ให้กับเจ้าหน้าที่ เพื่อให้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ” พล.ต.ต.สัญชัย กล่าว
วันนี้ (12 มี.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.สัญชัย สุนทรบุระ ผู้บังคับการกองสารนิเทศ (ผบก.สท.) เปิดเผยว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบว่า คดีโจรกรรมรถยนต์และรถจักรยานยนต์ มีแนวโน้มสูงอย่างต่อเนื่อง และพัฒนารูปแบบวิธีการมากยิ่งขึ้น เป็นขบวนการในลักษณะองค์กรอาชญากรรม มีเครือข่ายการกระทำความผิดทั้งในและนอกประเทศ สร้างความเดือดร้อนต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) จึงออก “แผนปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ปจร.52)” ขึ้น พร้อมจัดตั้ง “ศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ” (ศปจร.ตร.) โดยมี พล.ต.ท.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้ช่วย ผบ.ตร.เป็นผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ผอ.ศปจร.ตร.)
“ผบ.ตร.สั่งการให้กองบัญชาการตำรวจนครบาล ตำรวจภูธรภาค 1-9 กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน และสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พิจารณาจัดตั้งศูนย์ฯ ระดับกองบัญชาการ/กองบังคับการ ขึ้นรองรับแผน โดยจัดและประกอบกำลังพลของหน่วยตามความเหมาะสม ดำเนินมาตรการป้องกัน ขจัด หรือลดช่องโอกาสในการกระทำผิด เพิ่มมาตรการในการตรวจของเจ้าหน้าที่สายตรวจ และด่านตรวจคนเข้าเมือง เพิ่มมาตรการในด้านการสืบสวนหาข่าว ติดตามความเคลื่อนไหวของคนร้าย ขบวนการ หรือองค์กรของคนร้าย บุคคลพ้นโทษในความผิดที่เกี่ยวกับการโจรกรรมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ โดยให้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูล ข่าวสารกันอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง ทั้งภายในและระหว่างประเทศ” ผบก.สท.กล่าว
พล.ต.ต.สัญชัย กล่าวด้วยว่า ผบ.ตร.ยังสั่งการให้ ตั้งจุดตรวจ จุดสกัด ด่านตรวจคนเข้าเมือง โดยทั่วไปจะต้องให้มีการตรวจสอบเอกสารประจำรถยนต์ รถจักรยานต์ จัดทำบัญชีอู่ซ่อมรถ อู่พ่นสีรถ อู่ประกอบ หรือดัดแปลงรถ ร้านจำหน่ายอะไหล่รถ หรือสถานที่จำหน่ายรถเก่า เพื่อประโยชน์ในการสืบสวนสอบสวน และให้มีการตรวจค้นสถานที่ดังกล่าวเป็นระยะต่อเนื่อง เพื่อควบคุมป้องกันมิให้มีการกระทำผิดเกิดขึ้น
ขณะที่ ด้านการปราบปราม ผบก.สท.กล่าวว่า เป้าหมายให้สามารถจับกุมคนร้าย ขบวนการ หรือองค์กรที่เกี่ยวข้องกับการโจรกรรมรถ และให้รวมถึงตัวการ หรือผู้สนับสนุน พร้อมทั้งขยายผลการปฏิบัติไปยังแหล่งดัดแปลง รับซื้อ-จำหน่ายรถที่ถูกโจรกรรม เพื่อให้สามารถจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องและยึดรถที่ถูกโจรกรรมไปกลับคืนมาให้ได้มากที่สุด ใช้อุปกรณ์และเทคโนโลยีสมัยใหม่ช่วยในการตรวจสอบข้อมูล คนร้าย การแจ้งหาย หมายจับ เพื่อให้การสืบสวนปราบปรามกระทำได้อย่างรวดเร็ว ถูกต้อง และแม่นยำ เร่งรัดการสืบสวนสอบสวนดำเนินคดีโจรกรรมรถที่เป็นคดีค้างเก่า และการลักลอบนำเข้ารถหลบหนีภาษีอย่างจริงจัง
“ในด้านการสนับสนุน จัดระบบฐานข้อมูลอาชญกรรมที่เกี่ยวกับการโจรกรรมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ โดยใช้เครื่องคอมพิวเตอร์เครือข่ายเชื่อมโยงข้อมูลข่าวสาร เพื่อประโยชน์ในการสืบสวนสอบสวน โดยใช้ระบบฐานข้อมูล GIS (Geographical Information System) เป็นเครื่องมือ ตลอดจนศึกษาพัฒนาวิทยาการ ด้านการสืบสวนสอบสวนความผิดเกี่ยวกับการโจรกรรมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ให้กับเจ้าหน้าที่ เพื่อให้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ” พล.ต.ต.สัญชัย กล่าว
