นครปฐม – ตำรวจเมืองส้มโอ โชว์ผลงานรวบ “ไอ้เพชร” 1 ใน 3 พี่น้องแก๊งลักรถจักรยานยนต์ขายพม่า
วันนี้ (10 ธ.ค.) เวลา 15.30 น.พ.ต.อ.ภาส กร กลั่นหวาน ผกก.สภ.เมืองนครปฐม พร้อมด้วย พ.ต.ท.ชัยรัตน์ บัวขม ผกก.ปป. ร.ต.อ.สุริยะ สุดกังวาน สว.สป.และเจ้าหน้าที่ชุดป้องกันและปราบปราม ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมคนร้ายคนสำคัญที่ก่อเหตุลักรถจักรยานยนต์ในเขตอำเภอเมืองนครปฐม พร้อมของกลางหลายสิบรายการ และเป็นคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุนำรถและอุปกรณ์ส่งขายยังประเทศเพื่อนบ้านมานาน
โดยการจับกุมดังกล่าวเจ้าหน้าที่สามารถจับกุม นายสมเพชร เพ็งคล้าย อายุ 22 ปี หรือ “ไอ้เพชร” อยู่บ้านเลขที่ 79/50 ม.6 ต.ห้วยเข่ยง อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี และนายเดชา แจ่มเล็ก อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 119/1 ม.6 ต.สามควายเผือก อ.เมือง จ.นครปฐม พร้อมด้วยของกลางเป็นโครงรถจักรยานยนต์ยี่ห้อและรุ่นต่างๆ และวงล้อ เครื่องยนต์ กรอบทะเบียน หนังสือสำคัญเอกสารประจำ รวมกว่า 46 รายการ
พ.ต.อ.ภาสกร กลั้นหวาน ผกก.สภ.เมืองนครปฐม กล่าวว่า การจับกุมดังกล่าว เนื่องมาจากเมื่อวันที่ 6 พ.ย.2551 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ร่วมกันจับกุม นายวิชัย เพ็งคล้าย และนายสายชล เพ็งคล้าย ในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ โดยทั้งคู่ สารภาพว่า ได้ร่วมกันโดยมี นายสมเพชร เพ็งคล้าย เป็นน้องชายและนายชาตรี เกตุโฉม ได้ร่วมอยู่ในขบวนการ ซึ่งจะร่วมกันลงมือกันก่อเหตุ ลักรถจักรยานยนต์ในเขตอำเภอเมืองนครปฐม และนำไปจำหน่ายในประเทศพม่า โดยผ่านไปยัง อ.ทองผาภูมิ ซึ่งเป็นภูมิลำเนาของตนเอง ส่วนบางคันจะนำซากที่ถูกแยกชิ้นส่วนไปขายให้กับนายเดชา แจ่มเล็ก ซึ่งเปิดร้านรับซื้อของเก่าที่หลังชุมชนวัดพระงาม
ต่อมาในวันที่ 9 ธ.ค.2551 หลังจากมีการติดตามพฤติกรรมดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงได้ เข้าตรวจสอบในร่านของนายเดชา และพบอะไหล่รถและซากรถจำนวนมากจึงได้ ขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดนครปฐม ที่ จ 1209/2551 ลงวันที่ 9 ธ.ค.51 เข้าจับกุมนายสมเพชร ที่วนเวียนอยู่ในตัวเมืองเพื่อรอก่อเหตุ และได้สารภาพว่าได้ก่อเหตุร่วมกับพี่ชายทั้งสองคนจริง จึงส่งดำเนินคดีทางกฎหมาย ส่วนนายเดชา นั้นให้การเป็นประโยชน์และสารภาพว่านายสมเพชรได้นำของมาขายโดยอ้างว่าทรัพย์สินที่ได้นั้นมาจากไปแข่งรถและชิ้นส่วนมา เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหารับซื้อของโจรก่อนให้ประกันตัวออกไปต่อสู้คดีในชั้นศาล
โดย พ.ต.อ.ภาสกร กลั่นหวาน ผกก.สภ.เมืองนครปฐม กล่าวอีกว่า ในส่วนการรวบตัวนายสมเพชร ได้ในครั้งนี้ถือว่าเป็นการได้ตัวการหลักของสามพี่น้องในตระกูลเพ็งคล้าย เนื่องจากทั้งหมดได้ก่อเหตุนำรถจักรยานยนต์ไปจำหน่ายยังประเทศเพื่อนบ้านได้ในราคาคันละ 2 หมื่นบาท และยังมีหลายส่วนที่มีการแยกชิ้นส่วนและนำไปทิ้งในสุสานในเขตอำเภอเมืองนครปฐม โดยเจ้าหน้าที่สามารถติดตามเก็บชิ้นส่วนได้มหาศาล ซึ่งทั้งสามพี่น้องนี้สามารถนำเงินที่ได้ไปซื้อรถกระบะได้ 1 คันและใช้มาก่อเหตุอีกส่วนนายวิชัย และสายชล นั้นหลังถูกจับกุมได้ประกันตัวออกไปและได้ไปก่อเหตุอีกโดยยังมีหมายจับติดตัวอีกด้วย
วันนี้ (10 ธ.ค.) เวลา 15.30 น.พ.ต.อ.ภาส กร กลั่นหวาน ผกก.สภ.เมืองนครปฐม พร้อมด้วย พ.ต.ท.ชัยรัตน์ บัวขม ผกก.ปป. ร.ต.อ.สุริยะ สุดกังวาน สว.สป.และเจ้าหน้าที่ชุดป้องกันและปราบปราม ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมคนร้ายคนสำคัญที่ก่อเหตุลักรถจักรยานยนต์ในเขตอำเภอเมืองนครปฐม พร้อมของกลางหลายสิบรายการ และเป็นคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุนำรถและอุปกรณ์ส่งขายยังประเทศเพื่อนบ้านมานาน
โดยการจับกุมดังกล่าวเจ้าหน้าที่สามารถจับกุม นายสมเพชร เพ็งคล้าย อายุ 22 ปี หรือ “ไอ้เพชร” อยู่บ้านเลขที่ 79/50 ม.6 ต.ห้วยเข่ยง อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี และนายเดชา แจ่มเล็ก อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 119/1 ม.6 ต.สามควายเผือก อ.เมือง จ.นครปฐม พร้อมด้วยของกลางเป็นโครงรถจักรยานยนต์ยี่ห้อและรุ่นต่างๆ และวงล้อ เครื่องยนต์ กรอบทะเบียน หนังสือสำคัญเอกสารประจำ รวมกว่า 46 รายการ
พ.ต.อ.ภาสกร กลั้นหวาน ผกก.สภ.เมืองนครปฐม กล่าวว่า การจับกุมดังกล่าว เนื่องมาจากเมื่อวันที่ 6 พ.ย.2551 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ร่วมกันจับกุม นายวิชัย เพ็งคล้าย และนายสายชล เพ็งคล้าย ในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ โดยทั้งคู่ สารภาพว่า ได้ร่วมกันโดยมี นายสมเพชร เพ็งคล้าย เป็นน้องชายและนายชาตรี เกตุโฉม ได้ร่วมอยู่ในขบวนการ ซึ่งจะร่วมกันลงมือกันก่อเหตุ ลักรถจักรยานยนต์ในเขตอำเภอเมืองนครปฐม และนำไปจำหน่ายในประเทศพม่า โดยผ่านไปยัง อ.ทองผาภูมิ ซึ่งเป็นภูมิลำเนาของตนเอง ส่วนบางคันจะนำซากที่ถูกแยกชิ้นส่วนไปขายให้กับนายเดชา แจ่มเล็ก ซึ่งเปิดร้านรับซื้อของเก่าที่หลังชุมชนวัดพระงาม
ต่อมาในวันที่ 9 ธ.ค.2551 หลังจากมีการติดตามพฤติกรรมดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงได้ เข้าตรวจสอบในร่านของนายเดชา และพบอะไหล่รถและซากรถจำนวนมากจึงได้ ขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดนครปฐม ที่ จ 1209/2551 ลงวันที่ 9 ธ.ค.51 เข้าจับกุมนายสมเพชร ที่วนเวียนอยู่ในตัวเมืองเพื่อรอก่อเหตุ และได้สารภาพว่าได้ก่อเหตุร่วมกับพี่ชายทั้งสองคนจริง จึงส่งดำเนินคดีทางกฎหมาย ส่วนนายเดชา นั้นให้การเป็นประโยชน์และสารภาพว่านายสมเพชรได้นำของมาขายโดยอ้างว่าทรัพย์สินที่ได้นั้นมาจากไปแข่งรถและชิ้นส่วนมา เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหารับซื้อของโจรก่อนให้ประกันตัวออกไปต่อสู้คดีในชั้นศาล
โดย พ.ต.อ.ภาสกร กลั่นหวาน ผกก.สภ.เมืองนครปฐม กล่าวอีกว่า ในส่วนการรวบตัวนายสมเพชร ได้ในครั้งนี้ถือว่าเป็นการได้ตัวการหลักของสามพี่น้องในตระกูลเพ็งคล้าย เนื่องจากทั้งหมดได้ก่อเหตุนำรถจักรยานยนต์ไปจำหน่ายยังประเทศเพื่อนบ้านได้ในราคาคันละ 2 หมื่นบาท และยังมีหลายส่วนที่มีการแยกชิ้นส่วนและนำไปทิ้งในสุสานในเขตอำเภอเมืองนครปฐม โดยเจ้าหน้าที่สามารถติดตามเก็บชิ้นส่วนได้มหาศาล ซึ่งทั้งสามพี่น้องนี้สามารถนำเงินที่ได้ไปซื้อรถกระบะได้ 1 คันและใช้มาก่อเหตุอีกส่วนนายวิชัย และสายชล นั้นหลังถูกจับกุมได้ประกันตัวออกไปและได้ไปก่อเหตุอีกโดยยังมีหมายจับติดตัวอีกด้วย
