ศาลฎีการับคำร้อง “ยงยุทธ ติยะไพรัช-สมบัติ อุทัยสาง” ยื่นบัญชีทรัพย์สินหนี้สินอันเป็นเท็จ ต่อ ป.ป.ช. สมัยเป็นรัฐมนตรีช่วยฯ ยุค “ทักษิณ” รุ่งเรือง นัดพิจารณาคดีครั้งแรก 16 เม.ย.นี้
วันนี้ (12 มี.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น.ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สนามหลวง นายศิริชัย จิระบุณศรี ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกาเจ้าของสำนวน พร้อมองค์คณะผู้พิพากษา รวม 9 คน ออกนั่งบัลลังก์นัดฟังคำสั่งในคดีหมายเลขดำที่ อม.2 / 2552 ที่ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ผู้ร้องขอให้วินิจฉัยกรณี นายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ยุครัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ผู้คัดค้าน ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จต่อ ป.ป.ช. หลังจากพ้นจากตำแหน่ง ตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 มาตรา 263
โดยองค์คณะผู้พิพากษามีมติ 8 ต่อ 1 ให้รับคำร้องไว้พิจารณา โดยองค์คณะหนึ่งคนเห็นว่าผู้ร้อง ไม่มีอำนาจขอให้ศาลลงโทษผู้คัดค้านตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 119 ทั้งนี้ ให้ประสานศาลจังหวัดเชียงรายส่งหมายเรียก พร้อมสำเนาคำร้องให้ผู้คัดค้านภายใน 7 วัน หากไม่มีผู้รับให้ปิดหมาย และนัดพิจารณาคดีครั้งแรก เพื่อสอบคำให้การผู้คัดค้าน ในวันที่ 16 เม.ย.นี้ เวลา 10.00 น.
สำหรับคดีนี้ นายยงยุทธยื่นแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ต่อ ป.ป.ช.ระบุว่า ได้ขายหุ้นบริษัท มิติฟู้ดโปรดักส์ จำนวน 24,500 หุ้น ให้แก่ พ.ต.ท.นัฎฐวุฒิ ยุววรรณ ซึ่งเป็นน้องภริยา เป็นเงิน 2.45 ล้านบาท แต่ พ.ต.ท.นัฎฐวุฒิ ชำระเป็นเงินสดจำนวน 8.5 แสนบาท ส่วนที่ค้างชำระอีก 1.6 ล้านบาทได้ทำสัญญารับสภาพหนี้ไว้ แต่จากการตรวจสอบพบว่านับตั้งแต่วันจดทะเบียนจนถึงปัจจุบันรวม 18 ปีเศษ บริษัทดังกล่าวไม่ได้ประกอบกิจการค้าแต่อย่างใด และ พ.ต.ท.นัฎฐวุฒิ ไม่มีฐานะการเงินเพียงพอที่จะชำระเงินค่าหุ้นเป็นเงินสดได้ถึง 8.5 แสนบาท จึงมีเหตุอันควรเชื่อว่าไม่มีการซื้อขายหุ้นกันจริง และไม่มีเงินให้กู้ยืมตามที่ได้แสดงบัญชีไว้
วันเดียวกัน นายเกษม วีรวงศ์ ผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนพร้อมองค์คดี 9 คน ออกนั่งบัลลังก์มีคำสั่งรับคำร้องด้วยมติ 9 ต่อ 0 ในคดีหมายเลขดำที่ อม.3/2552 ที่ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ผู้ร้อง ขอให้ศาลวินิจฉัยกรณีที่ นายสมบัติ อุทัยสาง อดีต รมช.มหาดไทย ยุครัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ผู้คัดค้านไม่ได้แสดงรายการทรัพย์สินของคู่สมรสที่อยู่ในของบุตร และหรือมีชื่อร่วมกับบุตรในบัญชีฯ ซึ่งมีหน้าที่ต้องแสดงต่อ ป.ป.ช. ประกอบด้วย เงินฝากของนางสุจิวรรณ อุทัยสาง คู่สมรส ที่ธนาคารอาคารสงเคราะห์ สาขาคอนแวนต์ 3 บัญชี และมีชื่อร่วมกับบุตรในบัญชีเงินฝากธนาคารอาคารสงเคราะห์ สาขาพุทธมณฑล 6 บัญชี ซึ่งมียอดรวมของเงินฝาก ณ วันเข้ารับตำแหน่ง พ้นจากตำแหน่ง และพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลา 1 ปี รวม 9 ครั้ง จำนวนเงินอยู่ระหว่าง 86,263,255.88 ถึง 111,503,500.69 บาท
โดยมีคำสั่งให้ผู้ร้องนำเจ้าหน้าที่ส่งหมายเรียก พร้อมสำเนาคำร้องให้ผู้คัดค้านทราบภายใน 7 วัน หากไม่มีผู้รับให้ปิดหมาย และนัดพิจารณาคดีครั้งแรก เพื่อสอบคำให้การผู้คัดค้าน ในวันที่ 16 เม.ย.52 เวลา 10.00 น.
วันนี้ (12 มี.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น.ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สนามหลวง นายศิริชัย จิระบุณศรี ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกาเจ้าของสำนวน พร้อมองค์คณะผู้พิพากษา รวม 9 คน ออกนั่งบัลลังก์นัดฟังคำสั่งในคดีหมายเลขดำที่ อม.2 / 2552 ที่ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ผู้ร้องขอให้วินิจฉัยกรณี นายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ยุครัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ผู้คัดค้าน ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จต่อ ป.ป.ช. หลังจากพ้นจากตำแหน่ง ตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 มาตรา 263
โดยองค์คณะผู้พิพากษามีมติ 8 ต่อ 1 ให้รับคำร้องไว้พิจารณา โดยองค์คณะหนึ่งคนเห็นว่าผู้ร้อง ไม่มีอำนาจขอให้ศาลลงโทษผู้คัดค้านตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 119 ทั้งนี้ ให้ประสานศาลจังหวัดเชียงรายส่งหมายเรียก พร้อมสำเนาคำร้องให้ผู้คัดค้านภายใน 7 วัน หากไม่มีผู้รับให้ปิดหมาย และนัดพิจารณาคดีครั้งแรก เพื่อสอบคำให้การผู้คัดค้าน ในวันที่ 16 เม.ย.นี้ เวลา 10.00 น.
สำหรับคดีนี้ นายยงยุทธยื่นแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ต่อ ป.ป.ช.ระบุว่า ได้ขายหุ้นบริษัท มิติฟู้ดโปรดักส์ จำนวน 24,500 หุ้น ให้แก่ พ.ต.ท.นัฎฐวุฒิ ยุววรรณ ซึ่งเป็นน้องภริยา เป็นเงิน 2.45 ล้านบาท แต่ พ.ต.ท.นัฎฐวุฒิ ชำระเป็นเงินสดจำนวน 8.5 แสนบาท ส่วนที่ค้างชำระอีก 1.6 ล้านบาทได้ทำสัญญารับสภาพหนี้ไว้ แต่จากการตรวจสอบพบว่านับตั้งแต่วันจดทะเบียนจนถึงปัจจุบันรวม 18 ปีเศษ บริษัทดังกล่าวไม่ได้ประกอบกิจการค้าแต่อย่างใด และ พ.ต.ท.นัฎฐวุฒิ ไม่มีฐานะการเงินเพียงพอที่จะชำระเงินค่าหุ้นเป็นเงินสดได้ถึง 8.5 แสนบาท จึงมีเหตุอันควรเชื่อว่าไม่มีการซื้อขายหุ้นกันจริง และไม่มีเงินให้กู้ยืมตามที่ได้แสดงบัญชีไว้
วันเดียวกัน นายเกษม วีรวงศ์ ผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนพร้อมองค์คดี 9 คน ออกนั่งบัลลังก์มีคำสั่งรับคำร้องด้วยมติ 9 ต่อ 0 ในคดีหมายเลขดำที่ อม.3/2552 ที่ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ผู้ร้อง ขอให้ศาลวินิจฉัยกรณีที่ นายสมบัติ อุทัยสาง อดีต รมช.มหาดไทย ยุครัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ผู้คัดค้านไม่ได้แสดงรายการทรัพย์สินของคู่สมรสที่อยู่ในของบุตร และหรือมีชื่อร่วมกับบุตรในบัญชีฯ ซึ่งมีหน้าที่ต้องแสดงต่อ ป.ป.ช. ประกอบด้วย เงินฝากของนางสุจิวรรณ อุทัยสาง คู่สมรส ที่ธนาคารอาคารสงเคราะห์ สาขาคอนแวนต์ 3 บัญชี และมีชื่อร่วมกับบุตรในบัญชีเงินฝากธนาคารอาคารสงเคราะห์ สาขาพุทธมณฑล 6 บัญชี ซึ่งมียอดรวมของเงินฝาก ณ วันเข้ารับตำแหน่ง พ้นจากตำแหน่ง และพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลา 1 ปี รวม 9 ครั้ง จำนวนเงินอยู่ระหว่าง 86,263,255.88 ถึง 111,503,500.69 บาท
โดยมีคำสั่งให้ผู้ร้องนำเจ้าหน้าที่ส่งหมายเรียก พร้อมสำเนาคำร้องให้ผู้คัดค้านทราบภายใน 7 วัน หากไม่มีผู้รับให้ปิดหมาย และนัดพิจารณาคดีครั้งแรก เพื่อสอบคำให้การผู้คัดค้าน ในวันที่ 16 เม.ย.52 เวลา 10.00 น.