xs
xsm
sm
md
lg

จับผัวโหดเลียนแบบหนังต่างประเทศลวงฆ่าเมียน้อยปางตาย!‏

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

ตำรวจ กก.1 บก.ป.จับกุม นายบุญธรรม แสนราช อายุ 42 ปี คนขับรถส่งอาหารทะเลสด บริษัทแห่งหนึ่งใน จ.สมุทรสาคร หลังก่อเหตุลวง น.ส.รัตน์ตนา ศรีคงแก้ว เพื่อนสาวร่วมบริษัทไปฆ่าและอำพรางคดีในพื้นที่ สภ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์เนื่องจากมีปัญหาชู้สาว แต่ผู้เสียหายรอดตายมาได้ราวปาฏิหาริย์จึงแจ้งตำรวจจับกุมตัวมาได้เมื่อวันที่ 11 มี.ค.ที่ผ่านมา
กองปราบตามรวบผัวโหดจ้วงแทงเมียน้อยอาการสาหัส หลังทนพฤติกรรมเมียน้อยไม่ได้ ทั้งๆ ที่เลิกรากันแล้ว ยังตามราวีพาคนมารุมทำร้ายถึงที่ทำงาน วางแผนลวงผู้เสียหายไปที่เปลี่ยวหวังฆ่าปิดปาก โชคดีพลเมืองดีพบนำร่างส่ง รพ. ก่อน ตร.ตามรวบตัวได้ขณะทำงาน สารภาพก่อเหตุเพียงคนเดียวโดยลอกเลียนแบบขั้นตอนมาจากหนังต่างประเทศ

วันนี้ (11 มี.ค.) เมื่อเวลา 18.30 น. ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พ.ต.อ.พรศักดิ์ สุรสิทธิ์ ผกก.1 บก.ป.สั่งการ พ.ต.ท.ศานุวงษ์ คงคาอินทร์ สว.กก.1 บก.ป.นำกำลังเข้าจับกุม นายบุญธรรม แสนราช อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 259 หมู่ 4 ต.บ่อไทย อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ ตามหมายจับศาลจังหวัดเพชรบูรณ์ ที่ จ 80/2552 ลงวันที่ 11 มีนาคม 2552 ข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และลักทรัพย์ จับกุมได้ขณะขับรถอยู่ที่บริเวณหน้าบริษัท เทพมณี ถนนเอกชัย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 7 มีนาคมที่ผ่านมาได้เกิดเหตุคนร้ายพยายามฆ่า น.ส.รัตน์ตนา ศรีดาแก้ว อายุ 22 ปี พบร่างผู้บาดเจ็บที่บริเวณแปลงดินใต้ต้นจัน พื้นที่หมู่ 5 ต.สระประดู่ อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ ในสภาพถูกของมีคมแทงเข้าที่บริเวณหน้าอกใกล้หัวใจและหน้าท้อง รวม 7 แผล มีรอยฟกช้ำที่บริเวณลำคอ ส่วนกางเกงที่สวมใส่และกางเกงชั้นในถูกฉีกขาด โดยพลเมืองดีนำร่างผู้บาดเจ็บส่งไปรักษาที่ รพ.เพชรบูรณ์ อย่างเร่งด่วน แต่อาการยังสาหัสและต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด

ต่อมา ตำรวจ สภ.วิเชียรบุรีสอบสวนจนเป็นที่แน่ชัดว่าผู้ลงมือก่อเหตุครั้งนี้ คือ นายบุญธรรม พนักงานขับรถส่งปลาของบริษัท ยูนิคอร์ด จำกัด ซึ่งเป็นสามีของ น.ส.รัตน์ตนา จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับนายบุญธรรม กระทั่งชุดสืบสวน กก.1 บก.ป.สืบทราบว่า ภายหลังก่อเหตุนายบุญธรรมได้ย้อนกลับมาทำบริษัทฯ จึงวางแผนติดตามจับกุมตัวไว้ได้ ก่อนควบคุมตัวมาสอบสวนที่ บก.ป.

จากการสอบสวนนายบุญธรรม รับสารภาพว่ารู้จักกับ น.ส.รัตน์ตนา เนื่องจากทำงานอยู่บริษัทเดียวกัน โดยช่วงประมาณเดือนตุลาคม 2551 ได้คบหากันอย่างลึกซึ้งแม้ว่าตนจะมีภรรยาและลูกอยู่แล้วแต่ น.ส.รัตน์ตนา ก็ไม่รังเกียจ แต่ต่อมาจึงเกิดระหองระแหงกันและมีปัญหาทะเลาะอยู่บ่อยครั้ง ตนจึงเอ่ยปากขอแยกทางกันแต่ฝ่ายผู้เสียหายไม่ยินยอม และบอกว่าหากจะเลิกกันต้องจ่ายค่าเสียหายให้เป็นจำนวน 20,000 บาท ซึ่งตนได้ต่อรองกับผู้เสียหายและตกลงจะจ่ายเงินให้ 15,000 บาท โดยจะไม่ขอยุ่งเกี่ยวกันอีก จึงพากันไปลงบันทึกประจำวันที่ สภ.เมืองสมุทรสาคร พร้อมกับพาภรรยาตนไปด้วยเพื่อเป็นพยาน

นายบุญธรรมให้การต่อว่า หลังจากที่แยกทางกันแล้วแต่ น.ส.รัตน์ตนา ยังมาตามราวีตน เวลามีปัญหากันก็มักจะต่อว่าตนด้วยถ้อยคำหยาบคายและตบตีตน นอกจากนี้ยังอ้างว่าจะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายและให้คนมาดักทำร้ายตนถึงที่ทำงาน จึงเกิดความโกรธแค้นและวางแผนทำร้าย น.ส.รัตน์ตนา โดยลวงว่าจะไปรับยาบ้าจากเอเยนต์เพื่อไปส่งต่อ โดยนัดผู้เสียหายมาขึ้นรถทัวร์ที่สถานีขนส่งหมอชิต เมื่อรถวิ่งผ่านไปถึงบริเวณที่เกิดเหตุ ตนเห็นว่าเป็นที่เปลี่ยวจึงลวงให้ผู้เสียหายลงจากรถมานอนเล่น ก่อนจะสบโอกาสชักมีดจากกระเป๋าผู้เสียหายออกมาจ้วงแทงใส่ที่หน้าอก 4-5 ครั้ง แต่ผู้เสียหายก็พยายามต่อสู้ขัดขืนตลอดเวลา

“เขาพยายามต่อสู้ผมจึงใช้มีดแทงซ้ำไปที่หน้าท้องและใช้มือบีบคอกับจมูก เมื่อเขาแน่นิ่งไปจึงใช้มีดกรีดกางเกงจนถึงกางเกงชั้นในเพื่ออำพรางว่าเป็นคดีฆ่าข่มขืน พร้อมกับนำใบไม้มาคลุมร่างไว้ แต่ก็ยังไม่แน่ใจว่าเขาสิ้นใจแล้วจึงคว้าท่อนไม้มากดทับที่ลำคอและนั่งขย่มก่อนจะหยิบเอาทรัพย์สินทั้งหมดมาขึ้นรถสองแถวหลบหนี” นายบุญธรรม กล่าว

นายบุญธรรมให้การอีกว่า หลังก่อเหตุตนได้ทำลายทรัพย์สินต่างๆ ในกระเป๋าผู้เสียหายและทิ้งไว้บนรถทัวร์ระหว่างเดินทาง ก่อนจะกลับไปทำงานตามปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ซึ่งตนยืนยันว่าคิดวางแผนและลงมือก่อเหตุเพียงคนเดียวไม่ได้ร่วมกับใครโดยลอกเลียนแบบมาจากภาพยนตร์ต่างประเทศ ส่วนเรื่องยาเสพติดก็ไม่เคยเข้าไปเกี่ยวข้องเพียงแต่ยกมาอ้างกับฝ่ายผู้เสียหายซึ่งหลงเชื่อตนพร้อมกับบอกว่ายินดีจะติดคุกด้วยกันหากถูกจับได้ ตนรู้สึกเสียใจอย่างมากกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น อยากจะไปขอโทษผู้เสียหายหากมีโอกาสและยอมรับผลกรรมที่กระทำลงไป

ทั้งนี้ ชุดจับกุม กก.1 บก.ป.ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.วิเชียรบุรี รับไว้ดำเนินคดีต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น