“เต๋า สมชาย” ผิดหวังตำรวจสอบสวนกลางไม่รับโอนคดีตื้บ “โกตา” ปล่อยเป็นหน้าที่ตำรวจท้องที่ลำปางรับไปสอบพยานเพิ่มเติมตามที่ร้องขอ แต่ได้รวบรวมเรื่องเสนอ ผบ.ตร.ชี้ขาดต่อไป ด้าน “โกตา” บอกถ้า “เต๋า” ออกมายอมขอโทษและรับผิดตั้งแต่แรกเรื่องคงไม่บานปลายใหญ่โต ส่วนตัวพร้อมต่อสู้ชั้นศาล ระบุ "เต๋า"เมาเหล้าจริง พร้อมฝากเตือนให้ใจเย็นๆ
วันนี้ (10 มี.ค.) พล.ต.ท.ไถง ปราศจากศัตรู ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยว่า หลังจากที่ นายสมชาย เข็มกลัด (เต๋า) พร้อมทนาย เข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรม และให้โอนคดีทำร้ายร่างกายนายวีระชาติ เด่นศิริกุล หรือโกตา ให้กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางทำคดีแทนตำรวจในพื้นที่จังหวัดลำปางนั้น ล่าสุดได้มีการประสานไปยังตำรวจภูธรเมืองลำปางแล้ว ทางลำปางยืนยันว่าจะมีการสอบปากคำพยานเพิ่มเติมตามที่ผู้ถูกกล่าวหาร้องขอ ซึ่งตนได้รวบรวมเรื่องเพื่อนำเสนอ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พิจารณาว่าจะมีการโอนคดีให้ตำรวจสอบสวนกลางทำแทนหรือไม่ อย่างไรก็ตาม หากทางตำรวจพื้นที่มีการสอบพยานเพิ่มเติมตามที่ผู้ถูกกล่าวหาร้องขอ ตำรวจสอบสวนกลางจะไม่เข้าไปก้าวก่าย
พล.ต.ท.ไถง กล่าวด้วยว่า การที่ เต๋า สมชาย เดินทางเข้าร้องเรียนกับตำรวจสอบสวนกลางนั้น ตนมองว่าไม่น่าจะเป็นการประวิงเวลาในด้านคดี ซึ่งผู้ถูกกล่าวหาต้องการให้สำนวนการสอบสวน และการสอบพยานต่างๆ มีความครบถ้วนสมบูรณ์เพื่อให้ได้รับความเป็นธรรม ก่อนนำส่งอัยการเพื่อพิจารณา
นอกจากนี้ พล.ต.ท.ไถง กล่าวว่า ขณะนี้ได้ประสานงานไปยังพนักงานสอบสวน สภ.เมืองลำปาง เพื่อสอบถามว่าได้ดำเนินการสอบปากคำแพทย์โรงพยาบาลประจำจังหวัดที่ตรวจร่างกาย โกตา ไปแล้วหรือไม่ ถ้าหากดำเนินการไปแล้ว เรื่องก็ควรจะยุติลงที่ลำปาง ส่วนกรณีที่นายสมชายร้องขอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติโอนคดีไปให้ตำรวจกองปราบปรามรับคดีไปดำเนินการแทนนั้น กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางได้ประมวลเรื่องดังกล่าว เสนอให้ ผบ.ตร.พิจารณาสั่งการต่อไป
ด้านนายวีรชาติ เด่นศิริกุล หรือ โกตา เจ้าของร้านขายของชำใน อ.เมือง จ.ลำปาง ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ เรื่องเล่าเช้านี้ (10 มี.ค.) ยอมรับว่า ได้ไปตรวจร่างกาย 2 โรงพยาบาล โดยคืนเกิดเหตุไปตรวจที่โรงพยาบาลลำปางก่อน เช้าวันรุ่งขึ้นเกิดอาการเจ็บหน้าอกและหู จึงไปตรวจที่โรงพยาบาลลค่ายสุรศักดิ์มนตรีเพิ่มเติม ขณะที่ไปที่แรกแค่เพียงตรวจอาการเบื้องต้น แต่อีกที่หนึ่งได้เอ็กซเรย์และตรวจแก้วหู
"การไปร้องเรียนก็ไม่เป็นธรรมกับผม เพราะอยู่ลำปาง จะให้ขึ้นลงกรุงเทพฯหรือ" นายวีรชาติ กล่าว พร้อมตอบโต้กรณีที่ทนายของนายสมชาย เข็มกลัด ระบุว่าไม่ได้เมา ว่า ให้ไปต่อสู้กันในศาล โดยยืนยันว่าเมาจริง
นายวีรชาติ ยังกล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อวันที่ 5 ม.ค.ที่ผ่านมา ว่า วันเกิดเหตุพบเห็นนายสมชายและเพื่อนสาวนั่งในร้าน โดยตนมีความสนิทสนมกับเจ้าของร้านบะหมี่เกี๊ยว ขณะที่เข้ามาถึงก็นั่งห่างจากนายสมชาย 1 โต๊ะ ในลักษณะหันหลัง จากนั้นก็ได้ยินเสียงจากข้างหลัง พอมาถึงที่โต๊ะก็กระชากคอเสื้อ ยื้อกันและล้ม เอาเข่ากดหน้าอกและคอตนเอาไว้ แล้วชกกกหูด้านซ้าย ยืนยันว่า ไม่รู้จักกันมาก่อน ส่วนที่เขาเดินเข้ามามีเรื่อง คงเพราะเขามีเรื่องมาก่อน ยังไม่ได้มองหน้า ไม่ได้พูดถึง แล้วนั่งหันหลังเพราะไม่อยากมีเรื่อง
นายวีรชาติ ยอมรับว่า มีคนติดต่อมา เพื่อขอความเมตตา ให้โอกาสนายสมชายสักครั้ง แต่ตนไม่อยากให้เขาไปทำร้ายคนอื่นอีก อยากให้มีความเป็นธรรมกับตนบ้าง เพราะถูกทำร้าย อยากให้ผู้ใหญ่คิดเรื่องนี้บ้าง และฝากถึงนายสมชายว่า อยากให้ใจเย็นๆ
นายวีระชาติ กล่าวด้วยว่า ตนไม่อยากเรียกร้องอะไร คดีความขอให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม และตนพร้อมที่จะสู้คดีในชั้นศาลด้วย ซึ่งคดีนี้เป็นเพียงคดีทำร้ายร่างกาาย หากมีการขอโทษและยอมรับผิดจะไม่เป็นเรื่องราวใหญ่โต แต่เต๋า สมชาย ไม่ออกมายอมรับ ตนจึงเข้าแจ้งความ เพราะไม่อยากให้เต๋าไปทำร้ายร่างกายคนอื่นอีก ส่วนการร้องขอเปลี่ยนชุดพนักงานสอบสวนนั้น ตนไม่รู้สึกกังวล เพราะทุกอย่างมีพยานหลักฐานชัดเจนขอให้เป็นตามกระบวนการยุติธรรม
วันนี้ (10 มี.ค.) พล.ต.ท.ไถง ปราศจากศัตรู ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยว่า หลังจากที่ นายสมชาย เข็มกลัด (เต๋า) พร้อมทนาย เข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรม และให้โอนคดีทำร้ายร่างกายนายวีระชาติ เด่นศิริกุล หรือโกตา ให้กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางทำคดีแทนตำรวจในพื้นที่จังหวัดลำปางนั้น ล่าสุดได้มีการประสานไปยังตำรวจภูธรเมืองลำปางแล้ว ทางลำปางยืนยันว่าจะมีการสอบปากคำพยานเพิ่มเติมตามที่ผู้ถูกกล่าวหาร้องขอ ซึ่งตนได้รวบรวมเรื่องเพื่อนำเสนอ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พิจารณาว่าจะมีการโอนคดีให้ตำรวจสอบสวนกลางทำแทนหรือไม่ อย่างไรก็ตาม หากทางตำรวจพื้นที่มีการสอบพยานเพิ่มเติมตามที่ผู้ถูกกล่าวหาร้องขอ ตำรวจสอบสวนกลางจะไม่เข้าไปก้าวก่าย
พล.ต.ท.ไถง กล่าวด้วยว่า การที่ เต๋า สมชาย เดินทางเข้าร้องเรียนกับตำรวจสอบสวนกลางนั้น ตนมองว่าไม่น่าจะเป็นการประวิงเวลาในด้านคดี ซึ่งผู้ถูกกล่าวหาต้องการให้สำนวนการสอบสวน และการสอบพยานต่างๆ มีความครบถ้วนสมบูรณ์เพื่อให้ได้รับความเป็นธรรม ก่อนนำส่งอัยการเพื่อพิจารณา
นอกจากนี้ พล.ต.ท.ไถง กล่าวว่า ขณะนี้ได้ประสานงานไปยังพนักงานสอบสวน สภ.เมืองลำปาง เพื่อสอบถามว่าได้ดำเนินการสอบปากคำแพทย์โรงพยาบาลประจำจังหวัดที่ตรวจร่างกาย โกตา ไปแล้วหรือไม่ ถ้าหากดำเนินการไปแล้ว เรื่องก็ควรจะยุติลงที่ลำปาง ส่วนกรณีที่นายสมชายร้องขอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติโอนคดีไปให้ตำรวจกองปราบปรามรับคดีไปดำเนินการแทนนั้น กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางได้ประมวลเรื่องดังกล่าว เสนอให้ ผบ.ตร.พิจารณาสั่งการต่อไป
ด้านนายวีรชาติ เด่นศิริกุล หรือ โกตา เจ้าของร้านขายของชำใน อ.เมือง จ.ลำปาง ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ เรื่องเล่าเช้านี้ (10 มี.ค.) ยอมรับว่า ได้ไปตรวจร่างกาย 2 โรงพยาบาล โดยคืนเกิดเหตุไปตรวจที่โรงพยาบาลลำปางก่อน เช้าวันรุ่งขึ้นเกิดอาการเจ็บหน้าอกและหู จึงไปตรวจที่โรงพยาบาลลค่ายสุรศักดิ์มนตรีเพิ่มเติม ขณะที่ไปที่แรกแค่เพียงตรวจอาการเบื้องต้น แต่อีกที่หนึ่งได้เอ็กซเรย์และตรวจแก้วหู
"การไปร้องเรียนก็ไม่เป็นธรรมกับผม เพราะอยู่ลำปาง จะให้ขึ้นลงกรุงเทพฯหรือ" นายวีรชาติ กล่าว พร้อมตอบโต้กรณีที่ทนายของนายสมชาย เข็มกลัด ระบุว่าไม่ได้เมา ว่า ให้ไปต่อสู้กันในศาล โดยยืนยันว่าเมาจริง
นายวีรชาติ ยังกล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อวันที่ 5 ม.ค.ที่ผ่านมา ว่า วันเกิดเหตุพบเห็นนายสมชายและเพื่อนสาวนั่งในร้าน โดยตนมีความสนิทสนมกับเจ้าของร้านบะหมี่เกี๊ยว ขณะที่เข้ามาถึงก็นั่งห่างจากนายสมชาย 1 โต๊ะ ในลักษณะหันหลัง จากนั้นก็ได้ยินเสียงจากข้างหลัง พอมาถึงที่โต๊ะก็กระชากคอเสื้อ ยื้อกันและล้ม เอาเข่ากดหน้าอกและคอตนเอาไว้ แล้วชกกกหูด้านซ้าย ยืนยันว่า ไม่รู้จักกันมาก่อน ส่วนที่เขาเดินเข้ามามีเรื่อง คงเพราะเขามีเรื่องมาก่อน ยังไม่ได้มองหน้า ไม่ได้พูดถึง แล้วนั่งหันหลังเพราะไม่อยากมีเรื่อง
นายวีรชาติ ยอมรับว่า มีคนติดต่อมา เพื่อขอความเมตตา ให้โอกาสนายสมชายสักครั้ง แต่ตนไม่อยากให้เขาไปทำร้ายคนอื่นอีก อยากให้มีความเป็นธรรมกับตนบ้าง เพราะถูกทำร้าย อยากให้ผู้ใหญ่คิดเรื่องนี้บ้าง และฝากถึงนายสมชายว่า อยากให้ใจเย็นๆ
นายวีระชาติ กล่าวด้วยว่า ตนไม่อยากเรียกร้องอะไร คดีความขอให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม และตนพร้อมที่จะสู้คดีในชั้นศาลด้วย ซึ่งคดีนี้เป็นเพียงคดีทำร้ายร่างกาาย หากมีการขอโทษและยอมรับผิดจะไม่เป็นเรื่องราวใหญ่โต แต่เต๋า สมชาย ไม่ออกมายอมรับ ตนจึงเข้าแจ้งความ เพราะไม่อยากให้เต๋าไปทำร้ายร่างกายคนอื่นอีก ส่วนการร้องขอเปลี่ยนชุดพนักงานสอบสวนนั้น ตนไม่รู้สึกกังวล เพราะทุกอย่างมีพยานหลักฐานชัดเจนขอให้เป็นตามกระบวนการยุติธรรม
