ตำรวจส่งสายไปล่อซื้อยาบ้าในปั๊มน้ำมัน ขณะเข้าชาร์จจับกุม คนร้ายฮึดสู้ชักปืนออกมาหมายยิงต่อสู้ แต่กระสุนพลาดไปถูกสายตำรวจบาดเจ็บ แพทย์ช่วยชีวิตอาการปลอดภัยแล้ว ขณะที่คนร้ายอ้างปืนลั่น ไม่คิดจะยิงต่อสู้กับตำรวจ เพราะคิดว่าเป็นคนร้ายอีกกลุ่มแย่งชิงยาบ้า เผยประวัติติดคุกเพราะค้ายามา 6 ปี เพิ่งพ้นโทษออกมาตั้งใจขี่รถ จยย.รับจ้างทำมาหากิน แต่น้ำมันแพงเลยต้องกลับไปค้ายาอีก
วันนี้ (17 มี.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น. ร.ต.อ.ชัยรัตน์ หิรัญบูรณะ รอง สว.สส.สน.โชคชัย รับแจ้งจากสายว่า นายณัฐพงศ์ หรือบอย วนาลัย อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 904/47 ซอยคลองน้ำแก้ว แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กทม.เป็นเอเยนต์ค้ายาบ้าอยู่ในพื้นที่ สน.โชคชัย ทางร.ต.อ.ชัยรัตน์ จึงทำการวางแผนจับกุม โดยให้สายคนดังกล่าวไปทำการติดต่อล่อซื้อยาบ้าจำนวนหนึ่งจากนายณัฐพงศ์ และนัดมอบส่งยาบ้ากันที่ปั๊มน้ำมันเอสโซ่ ปากซอยจักกริช 6 ในซอยลาดพร้าว 71 แขวงและเขตวังทองหลาง กทม.
เมื่อถึงเวลานัดหมาย นายณัฐพงศ์ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า มีโอ สีเทาดำ ทะเบียน ยคบ-1 กทม.เข้ามาในปั๊มน้ำมันดังกล่าว จากนั้นสายตำรวจคนดังกล่าว (ขอสงวนชื่อและนามสกุล) อายุ 30 ปี ได้เข้าไปทำการเจรจา เมื่อเป็นที่ตกลงกันเรียบร้อย นายณัฐพงศ์ได้นำเอายาบ้าออกมาส่งมอบให้กับสาย จังหวะนั้นเองเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ซุ่มอยู่บริเวณที่เกิดเหตุได้แสดงตัวเข้าจับกุม แต่นายณัฐพงศ์พยายามต่อสู้ขัดขืนและชักปืนออกมายิงใส่ 1 นัด ผลปรากฏว่ากระสุนปืนถูกสายตำรวจเข้าที่ชายโครงซ้ายทรุดฮวบลงกับพื้น จึงรีบนำตัวสายตำรวจคนดังกล่าวส่งโรงพยาบาลเปาโลสยามในซอยโชคชัย 4 เบื้องต้นแพทย์ทำการผ่าตัดและช่วยชีวิตจนอาการอยู่ในขั้นปลอดภัยแล้ว ในขณะเดียวกัน ตำรวจสามารถจับกุมตัวนายณัฐพงศ์ไว้ได้ พร้อมของกลางยาบ้า 93 เม็ด อาวุธปืนลูกโม่ .38 จดทะเบียนถูกต้องใน จ.พิจิตร 1 กระบอก กระสุนปืน .38 จำนวน 9 นัด ปลอกกระสุนปืน 1 ปลอก และอาวุธมีดอีก 1 เล่ม จากนั้นควบคุมตัวไปสอบสวนที่ สน.โชคชัย
ต่อมาเมื่อเวลา 15.30 น.ที่ สน.โชคชัย พล.ต.ต.ชิษณุพงษ์ ยุตตะทัต ผบก.น.4 พ.ต.อ.อาณัติ เกล็ดมณี และ พ.ต.อ.พชร บุญญสิทธิ์ รอง ผบก.น.4 เดินทางมาร่วมสอบปากคำนายณัฐพงศ์ โดยนายณัฐพงศ์ให้การรับสารภาพว่าปัจจุบันมีอาชีพขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างอยู่ประจำที่ปากซอยลาดพร้าว 42 ก่อนหน้านี้ เคยถูกจับกุมในคดีค้ายาบ้าในพื้นที่สน.สุทธิสาร ต้องโทษจำคุกเป็นเวลา 6 ปี เพิ่งพ้นโทษออกมาเมื่อวันที่ 19 ม.ค.ที่ผ่านมา และมายึดอาชีพขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างในซอยเดิม แต่เงินไม่พอใช้ เนื่องจากราคาน้ำมันที่แพงขึ้นทุกวัน โดยต้องใช้ถึงวันละ 90-150 บาทเป็นค่าน้ำมัน จึงได้หันเหกลับมาลักลอบค้ายาบ้าเหมือนเดิม โดยจะไปรับยาบ้ามาจากนายต้น ที่คลองเตยล็อก 1 จำนวน 100 เม็ด ในราคา 15,000 บาท เพื่อนำมาขายต่อให้กับเพื่อนและลูกค้าที่จะสั่งออเดอร์มาในซอยลาดพร้าว 71 ในราคาเม็ดละ 180 บาท
นายณัฐพงศ์ ให้การต่อว่า ในวันนี้ได้รับการนัดหมายจากลูกค้าให้มาส่งยาบ้าให้ภายในปั๊มน้ำมันเอสโซ่ และเมื่อขับขี่รถจักรยายนต์มาถึง มีชายฉกรรจ์ 2 คนทราบภายหลังว่าเป็นตำรวจ ตรงเข้ามากระชากคอเสื้อทำให้ตนตกใจคิดว่าเป็นคนร้ายรายอื่นมาแย่งยาบ้า ไม่คิดว่าจะเป็นตำรวจจึงพยายามดิ้นต่อสู้และสะบัดจนหลุด จากนั้นจึงหยิบปินขึ้นมา แต่ตำรวจอีกคนพยายามเข้ามาแย่งปืนทำให้ปืนลั่นโดยไม่ได้ตั้งใจยิง และถ้ารู้ว่าเป็นตำรวจตั้งแต่แรกก็จะยอมให้จับกุมแต่โดยดี ไม่คิดจะยิงต่อสู้กับตำรวจแน่นอน ส่วนปืนที่พกมาเป็นปืนที่เพื่อนนำมาจำนำไว้ในราคา 8,000 บาท เมื่อวันที่ 15 มี.ค.ที่ผ่านมา
เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหา มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยผิดกฎหมาย ข้อหาพยายามฆ่าเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ ข้อหาต่อสู้ขัดขวางการจับกุม และข้อหามีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จากนั้นควบคุมตัวไว้สอบสวนขยายผลและดำเนินคดีต่อไป
