ชุมพร - เหยื่อแก๊ง ตชด.นอกรีตโผล่ร้องรายวัน ผบก.ชุมพร เผยในพื้นที่มีแล้วมี 4 ราย การสอบสวนต้องแยกระหว่างเรื่องยาเสพติด และวิธีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ ทั้งเรื่องคดีที่อยู่ในชั้นศาลแล้ว เนื่องจากมีการร้องเรียนเข้ามาเป็นรายวัน หวั่นมีพวกกระทำผิดจริงสวมรอย
เมื่อเวลา 09.30 น.วันนี้ (1 ก.พ.) พล.ต.ต.ประพัฒน์ ศิริวัฒน์ ผบก.ภ.จ.ชุมพร ได้รับการติดต่อจากนายสมชาย แบ่งบุญ อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 15/2 หมู่ 10 ต.บางลึก อ.เมือง จ.ชุมพร ผู้ต้องหาในคดีมียาบ้าไว้ในครอบครอง ซึ่งอยู่ระหว่างการประกันตัวว่า ต้องการเข้าพบเพื่อขอความเป็นธรรม จึงสั่งให้ พ.ต.ท.วิมล พิทักษ์บูรพา รอง ผกก.สส.สภ.เมืองชุมพร และ พ.ต.ท.ธานี นาคหกวิค สว.สส.ภ.จ.ชุมพร นำตัวนายสมชาย พร้อมมารดา คือ นางมณฑา แบ่งบุญ อายุ 51 ปี เดินทางมาสอบปากคำที่ห้องทำงาน ผบก.ภ.จ.ชุมพร
นายสมชาย เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2550 ขณะที่ตนพักอยู่ที่ห้องเช่าหน้า บริษัท โดล (ประเทศไทย) จำกัด ต.นากระตาม อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร มีเพื่อนของตนที่ถูก ตชด.จับกุมไปแล้วชื่อ นายสุรเชษฐ์ (ไม่ทราบนามสกุล) โทรศัพท์มาถามว่าหายาบ้าได้ไหม ตนบอกว่าหาให้ไม่ได้ แต่มีนายเอ (ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง) ที่เช่าห้องอยู่ข้างๆ ได้บอกว่าจะไปหายาบ้ามาให้เอง ตนจึงออกไปรับจ้างตัดปาล์มตามปกติ แต่เมื่อกลับมาที่ห้องเช่ากับลูกวัย 4 ขวบ ก็มีเจ้าหน้าที่อ้างตัวเป็น ตชด.ในชุดนอกเครื่องแบบประมาณ 7-8 คน
นายสมชาย กล่าวต่อว่า ตนจำหน้าได้ว่ามี ตชด.บางนายอยู่ชุดเดียวกับ ร.ต.อ.ณัฏฐ์ ชลนิธิวณิชย์ ที่เป็นข่าวอยู่ในขณะนี้เข้ามาจับกุมตนใส่กุญแจมือ แล้วใช้กำลังกระชากคอเสื้อ จับถอดเสื้อ และตบศรีษะ ก่อนนำยาบ้าจำนวน 2 เม็ดมายัดใส่กระเป๋ากางเกง แล้วพาไปสอบสวนที่ กก.ตชด.ที่ 41 ชุมพร ค่ายอาภากรเกียรติวงศ์ ก่อนนำตัวมาส่ง ร.ต.อ.อุทัย สยมภาค ร้อยเวร สภ.ท่าแซะ ดำเนินคดีในข้อหามียาบ้าไว้ในครอบครอง จนตนถูกฟ้องศาลและต้องใช้เงิน 1 หมื่นบาทประกันตัวออกมาสู้คดี
หลังถูกจับกุมตนไม่กล้าร้องเรียนเพราะถูกกลุ่ม ตชด.ที่จับกุมขู่จึงเกรงว่าจะได้รับอันตราย แต่เมื่อทราบว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติเปิดโอกาสให้ผู้ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมออกมาร้องเรียนได้ จึงปรึกษามารดาก่อนเข้าพบ ผบก.ภ.จว.ชุมพรในครั้งนี้ และขอยืนยันว่าตนไม่เคยทำความผิด และรายละเอียดในบันทึกการจับกุมตนไม่เป็นความจริง
พล.ต.ต.ประพัฒน์ กล่าวว่า การเข้าร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมต่อกรณีเหตุการณ์ในครั้งนี้ การสอบสวนจะต้องแยกระหว่างเรื่องยาเสพติด และวิธีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ ทั้งเรื่องคดีที่อยู่ในชั้นศาลแล้วซึ่ง เนื่องจากมีการร้องเรียนเข้ามาเป็นรายวัน หวั่นมีพวกกระทำผิดจริงสวมรอย และที่ผ่านมาในพื้นที่ จ.ชุมพร ขณะนี้มีผู้เข้าร้องเรียนเกี่ยวกับถูกเจ้าหน้าที่ ตชด.ที่ 41ชุมพร จับซ้อมยัดยาบ้าแล้ว 4 ราย
เมื่อเวลา 09.30 น.วันนี้ (1 ก.พ.) พล.ต.ต.ประพัฒน์ ศิริวัฒน์ ผบก.ภ.จ.ชุมพร ได้รับการติดต่อจากนายสมชาย แบ่งบุญ อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 15/2 หมู่ 10 ต.บางลึก อ.เมือง จ.ชุมพร ผู้ต้องหาในคดีมียาบ้าไว้ในครอบครอง ซึ่งอยู่ระหว่างการประกันตัวว่า ต้องการเข้าพบเพื่อขอความเป็นธรรม จึงสั่งให้ พ.ต.ท.วิมล พิทักษ์บูรพา รอง ผกก.สส.สภ.เมืองชุมพร และ พ.ต.ท.ธานี นาคหกวิค สว.สส.ภ.จ.ชุมพร นำตัวนายสมชาย พร้อมมารดา คือ นางมณฑา แบ่งบุญ อายุ 51 ปี เดินทางมาสอบปากคำที่ห้องทำงาน ผบก.ภ.จ.ชุมพร
นายสมชาย เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2550 ขณะที่ตนพักอยู่ที่ห้องเช่าหน้า บริษัท โดล (ประเทศไทย) จำกัด ต.นากระตาม อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร มีเพื่อนของตนที่ถูก ตชด.จับกุมไปแล้วชื่อ นายสุรเชษฐ์ (ไม่ทราบนามสกุล) โทรศัพท์มาถามว่าหายาบ้าได้ไหม ตนบอกว่าหาให้ไม่ได้ แต่มีนายเอ (ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง) ที่เช่าห้องอยู่ข้างๆ ได้บอกว่าจะไปหายาบ้ามาให้เอง ตนจึงออกไปรับจ้างตัดปาล์มตามปกติ แต่เมื่อกลับมาที่ห้องเช่ากับลูกวัย 4 ขวบ ก็มีเจ้าหน้าที่อ้างตัวเป็น ตชด.ในชุดนอกเครื่องแบบประมาณ 7-8 คน
นายสมชาย กล่าวต่อว่า ตนจำหน้าได้ว่ามี ตชด.บางนายอยู่ชุดเดียวกับ ร.ต.อ.ณัฏฐ์ ชลนิธิวณิชย์ ที่เป็นข่าวอยู่ในขณะนี้เข้ามาจับกุมตนใส่กุญแจมือ แล้วใช้กำลังกระชากคอเสื้อ จับถอดเสื้อ และตบศรีษะ ก่อนนำยาบ้าจำนวน 2 เม็ดมายัดใส่กระเป๋ากางเกง แล้วพาไปสอบสวนที่ กก.ตชด.ที่ 41 ชุมพร ค่ายอาภากรเกียรติวงศ์ ก่อนนำตัวมาส่ง ร.ต.อ.อุทัย สยมภาค ร้อยเวร สภ.ท่าแซะ ดำเนินคดีในข้อหามียาบ้าไว้ในครอบครอง จนตนถูกฟ้องศาลและต้องใช้เงิน 1 หมื่นบาทประกันตัวออกมาสู้คดี
หลังถูกจับกุมตนไม่กล้าร้องเรียนเพราะถูกกลุ่ม ตชด.ที่จับกุมขู่จึงเกรงว่าจะได้รับอันตราย แต่เมื่อทราบว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติเปิดโอกาสให้ผู้ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมออกมาร้องเรียนได้ จึงปรึกษามารดาก่อนเข้าพบ ผบก.ภ.จว.ชุมพรในครั้งนี้ และขอยืนยันว่าตนไม่เคยทำความผิด และรายละเอียดในบันทึกการจับกุมตนไม่เป็นความจริง
พล.ต.ต.ประพัฒน์ กล่าวว่า การเข้าร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมต่อกรณีเหตุการณ์ในครั้งนี้ การสอบสวนจะต้องแยกระหว่างเรื่องยาเสพติด และวิธีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ ทั้งเรื่องคดีที่อยู่ในชั้นศาลแล้วซึ่ง เนื่องจากมีการร้องเรียนเข้ามาเป็นรายวัน หวั่นมีพวกกระทำผิดจริงสวมรอย และที่ผ่านมาในพื้นที่ จ.ชุมพร ขณะนี้มีผู้เข้าร้องเรียนเกี่ยวกับถูกเจ้าหน้าที่ ตชด.ที่ 41ชุมพร จับซ้อมยัดยาบ้าแล้ว 4 ราย