“เต๋า สมชาย” หวั่นติดคุก จากเหตุเคยต้องโทษรอลงอาญา ควงทนายความเข้าร้องเรียน ผบ.ตร.และ ผบช.ก.จี้เปลี่ยนพนักงานสอบสวน อ้างไม่ได้รับความเป็นธรรม หลังพนักงานสอบสวนใช้ผลการตรวจสภาพบาดแผลที่ต้องรักษาตัวไม่น้อยกว่า 10 วัน เป็นการชันสูตรสภาพบาดแผล โดยปฏิเสธใช้ใบของทีมทนายที่พบมีบาดแผลเล็กน้อย แค่ถลอกรักษา 5 วันหาย
วันนี้ (9 มี.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) นายสมชาย เข็มกลัด หรือเต๋า นักแสดงชื่อดัง พร้อมนายรัฐพล พุทธรอด ทนายความ เดินทางมายัง ตร.เพื่อเข้าพบ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เพื่อขอเปลี่ยนพนักงานสอบสวนและขอความเป็นธรรมในคดีถูกกล่าวหาทำร้ายร่างกายนายวีระชาติ เด่นศิริกุล อายุ 56 ปี หรือโกตา เจ้าของร้านขายของชำใน อ.เมือง จ.ลำปาง พร้อมนำเอกสารผลการตรวจชันสูตรบาดแผลหรือศพของแพทย์ ของนายวีระชาติมามอบให้ด้วย
นายรัฐพลกล่าวว่า ที่มาไม่ได้ประวิงเวลาหรือประวิงคดีแต่อย่างใด แต่เพื่อขอความเป็นธรรมกรณีที่พนักงานสอบสวน สภ.เมืองลำปาง ไม่นำเอกสารใบตรวจร่างกายของนายวีระชาติ ซึ่งเป็นใบตรวจใบแรก ที่เป็นใบตรวจหลังเกิดเหตุและตรวจโดยโรงพยาบาลประจำจังหวัด ซึ่งถือเป็นเอกสารสำคัญเข้าในสำนวน แต่กลับนำใบตรวจอีกใบที่ตรวจโดยโรงพยาบาลค่ายสุรศักดิ์มนตรี เข้าประกอบสำนวนแทน ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นเพราะเหตุใด ซึ่งเบื้องต้นตนแย้งไปแล้ว พนักงานสอบสวนอ้างว่าให้ไปร้องขอความเป็นธรรมกับพนักงานอัยการเอาเอง ซึ่งทีมทนายได้รับเอกสารตรวจร่างกายฉบับแรกมาแล้ว จึงนำมาร้องเรียนที่ ตร.
“จากเอกสารที่พนักงานสอบสวนใช้ในสำนวนทราบว่า ระบุว่าจากสภาพบาดแผลต้องรักษาตัวไม่น้อยกว่า 10 วัน เป็นการชันสูตรสภาพบาดแผล แต่ไม่ทราบรายละเอียดชัดเจน ทั้งนี้รู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมในคดี ซึ่งจากผลการตรวจที่ทีมทนายนำมาฉบับนี้มีบาดแผลเล็กน้อยเท่านั้น แค่ถลอกรักษา 5 วันหายเท่านั้น โดยจากการเข้าพบพนักงานสอบสวนเมื่อวันที่ 3 มีนาคมที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนไม่ตอบว่าเพราะเหตุใดจึงเป็นเช่นนี้ กลับอ้างว่าพนักงานสอบสวนมีสิทธิ์เลือกเอาเอกสารฉบับใดเข้าประกอบสำนวนก็ได้ จึงต้องให้ ผบ.ตร.ใช้ดุลพินิจพิจารณาว่าจะดำเนินการต่ออย่างไร” ทนายความของเต๋า
นายรัฐพลกล่าวต่อว่า ต้องร้องขอให้สอบปากคำแพทย์ที่ตรวจรักษาพร้อมทั้งพนักงานโรงพยาบาลถึงสภาพร่างกายของนายวีระชาติ เมื่อครั้งมาตรวจร่างกายครั้งแรกเพิ่มเติม เพื่อยืนยันว่านายวีระชาติ ตรวจจริง หลังเกิดเหตุไม่กี่นาที ซึ่งโดยส่วนตัวตน เมื่อปรากฏเอกสารที่ไม่มีในสำนวน ในฐานะทนายตนก็หนักใจจึงต้องมาขอ ผบ.ตร.ให้เปลี่ยนพนักงานสอบสวน
เมื่อถามว่าเพราะเต๋ามีคดีรอลงอาญาอยู่ทำให้เสียเปรียบนายวีระชาติ ซึ่งเต๋ากล่าวว่า ที่มาร้องขอความเป็นธรรมให้การพิจารณากฎหมายเป็นไปตามสิ่งที่ถูกต้องที่สุด ไม่ได้มาประวิงเวลา เพราะว่าตนคงตอบอะไรไม่ได้มาก ทุกสิ่งที่ตอบเป็นผลต่อรูปคดี
จากนั้น เต๋าและทนายเดินทางไปยังกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) เข้าพบ พล.ต.ท.ไถง ปราศจากศัตรู ผบช.ก. เพื่อขอความเป็นธรรมและขอเปลี่ยนให้พนักงานสอบสวนของ บช.ก.มาทำคดี โดยใช้เวลาเข้าหารือกันประมาณ 20 นาที โดยทนายได้นำซีดีบันทึกคำสัมภาษณ์ของแพทย์โรงพยาบาลลำปางมามอบให้ด้วย
นายสมชายกล่าวภายหลังพบ พล.ต.ท.ไถง ว่าตนขออนุญาตไม่พูดอะไรทั้งสิ้น เพราะจะส่งผลต่อรูปคดี ตนไม่ได้รู้จัก พล.ต.ท.ไถง เป็นการส่วนตัว แต่ที่มาเพราะเกี่ยวกับความยุติธรรม
พล.ต.ท.ไถง กล่าวว่า เต๋าและทนายมาร้องเรียนว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากพนักงานสอบสวน สภ.เมืองลำปางและขอให้พนักงานสอบสวนของสอบสวนกลางเข้าไปทำคดี เรารับเรื่องไว้ และจะดูว่าพนักงานสอบสวน สภ.เมืองลำปาง ดำเนินการไปอย่างไรบ้าง ส่วนจะเปลี่ยนพนักงานสอบสวนหรือไม่ต้องพิจารณา ศึกษาดูก่อน ซึ่งความจริงเรื่องนี้จะเกี่ยวข้องกับกองปราบปราม ตอนนี้ยังไม่ตัดสินใจว่าจะไปทำหรือไม่ต้องให้ ตร.พิจารณา
เมื่อถามว่าเรื่องนี้เป็นเหมือนการทะเลาะวิวาทส่วนตัวถึงขั้นต้องให้กองปราบปรามลงไป ผบช.ก. กล่าวว่า เรามองในแง่ที่นายสมชาย ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการปฏิบัติงานของตำรวจ ซึ่งในส่วนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากเจ้าหน้าที่ราชการก็มีกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดและประพฤติมิชอบในวงราชการ (ป.ป.ป.) รับผิดชอบดำเนินการ ซึ่งจากคุยกันเบื้องต้น เห็นว่าทาง สภ.เมืองลำปางก็ทำทุกอย่างแล้ว แต่อาจสื่อความหมายไม่เข้าใจกัน ที่ลำปางทำน่าจะครบถ้วนแล้ว แต่ทั้งนี้ต้องดูรายละเอียดอีกครั้ง วันนี้น่าจะทราบรายละเอียดที่มาที่ไป ส่วนจะให้กองปราบปรามลงไปทำหรือไม่ต้องตัดสินใจ
วันนี้ (9 มี.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) นายสมชาย เข็มกลัด หรือเต๋า นักแสดงชื่อดัง พร้อมนายรัฐพล พุทธรอด ทนายความ เดินทางมายัง ตร.เพื่อเข้าพบ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เพื่อขอเปลี่ยนพนักงานสอบสวนและขอความเป็นธรรมในคดีถูกกล่าวหาทำร้ายร่างกายนายวีระชาติ เด่นศิริกุล อายุ 56 ปี หรือโกตา เจ้าของร้านขายของชำใน อ.เมือง จ.ลำปาง พร้อมนำเอกสารผลการตรวจชันสูตรบาดแผลหรือศพของแพทย์ ของนายวีระชาติมามอบให้ด้วย
นายรัฐพลกล่าวว่า ที่มาไม่ได้ประวิงเวลาหรือประวิงคดีแต่อย่างใด แต่เพื่อขอความเป็นธรรมกรณีที่พนักงานสอบสวน สภ.เมืองลำปาง ไม่นำเอกสารใบตรวจร่างกายของนายวีระชาติ ซึ่งเป็นใบตรวจใบแรก ที่เป็นใบตรวจหลังเกิดเหตุและตรวจโดยโรงพยาบาลประจำจังหวัด ซึ่งถือเป็นเอกสารสำคัญเข้าในสำนวน แต่กลับนำใบตรวจอีกใบที่ตรวจโดยโรงพยาบาลค่ายสุรศักดิ์มนตรี เข้าประกอบสำนวนแทน ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นเพราะเหตุใด ซึ่งเบื้องต้นตนแย้งไปแล้ว พนักงานสอบสวนอ้างว่าให้ไปร้องขอความเป็นธรรมกับพนักงานอัยการเอาเอง ซึ่งทีมทนายได้รับเอกสารตรวจร่างกายฉบับแรกมาแล้ว จึงนำมาร้องเรียนที่ ตร.
“จากเอกสารที่พนักงานสอบสวนใช้ในสำนวนทราบว่า ระบุว่าจากสภาพบาดแผลต้องรักษาตัวไม่น้อยกว่า 10 วัน เป็นการชันสูตรสภาพบาดแผล แต่ไม่ทราบรายละเอียดชัดเจน ทั้งนี้รู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมในคดี ซึ่งจากผลการตรวจที่ทีมทนายนำมาฉบับนี้มีบาดแผลเล็กน้อยเท่านั้น แค่ถลอกรักษา 5 วันหายเท่านั้น โดยจากการเข้าพบพนักงานสอบสวนเมื่อวันที่ 3 มีนาคมที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนไม่ตอบว่าเพราะเหตุใดจึงเป็นเช่นนี้ กลับอ้างว่าพนักงานสอบสวนมีสิทธิ์เลือกเอาเอกสารฉบับใดเข้าประกอบสำนวนก็ได้ จึงต้องให้ ผบ.ตร.ใช้ดุลพินิจพิจารณาว่าจะดำเนินการต่ออย่างไร” ทนายความของเต๋า
นายรัฐพลกล่าวต่อว่า ต้องร้องขอให้สอบปากคำแพทย์ที่ตรวจรักษาพร้อมทั้งพนักงานโรงพยาบาลถึงสภาพร่างกายของนายวีระชาติ เมื่อครั้งมาตรวจร่างกายครั้งแรกเพิ่มเติม เพื่อยืนยันว่านายวีระชาติ ตรวจจริง หลังเกิดเหตุไม่กี่นาที ซึ่งโดยส่วนตัวตน เมื่อปรากฏเอกสารที่ไม่มีในสำนวน ในฐานะทนายตนก็หนักใจจึงต้องมาขอ ผบ.ตร.ให้เปลี่ยนพนักงานสอบสวน
เมื่อถามว่าเพราะเต๋ามีคดีรอลงอาญาอยู่ทำให้เสียเปรียบนายวีระชาติ ซึ่งเต๋ากล่าวว่า ที่มาร้องขอความเป็นธรรมให้การพิจารณากฎหมายเป็นไปตามสิ่งที่ถูกต้องที่สุด ไม่ได้มาประวิงเวลา เพราะว่าตนคงตอบอะไรไม่ได้มาก ทุกสิ่งที่ตอบเป็นผลต่อรูปคดี
จากนั้น เต๋าและทนายเดินทางไปยังกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) เข้าพบ พล.ต.ท.ไถง ปราศจากศัตรู ผบช.ก. เพื่อขอความเป็นธรรมและขอเปลี่ยนให้พนักงานสอบสวนของ บช.ก.มาทำคดี โดยใช้เวลาเข้าหารือกันประมาณ 20 นาที โดยทนายได้นำซีดีบันทึกคำสัมภาษณ์ของแพทย์โรงพยาบาลลำปางมามอบให้ด้วย
นายสมชายกล่าวภายหลังพบ พล.ต.ท.ไถง ว่าตนขออนุญาตไม่พูดอะไรทั้งสิ้น เพราะจะส่งผลต่อรูปคดี ตนไม่ได้รู้จัก พล.ต.ท.ไถง เป็นการส่วนตัว แต่ที่มาเพราะเกี่ยวกับความยุติธรรม
พล.ต.ท.ไถง กล่าวว่า เต๋าและทนายมาร้องเรียนว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากพนักงานสอบสวน สภ.เมืองลำปางและขอให้พนักงานสอบสวนของสอบสวนกลางเข้าไปทำคดี เรารับเรื่องไว้ และจะดูว่าพนักงานสอบสวน สภ.เมืองลำปาง ดำเนินการไปอย่างไรบ้าง ส่วนจะเปลี่ยนพนักงานสอบสวนหรือไม่ต้องพิจารณา ศึกษาดูก่อน ซึ่งความจริงเรื่องนี้จะเกี่ยวข้องกับกองปราบปราม ตอนนี้ยังไม่ตัดสินใจว่าจะไปทำหรือไม่ต้องให้ ตร.พิจารณา
เมื่อถามว่าเรื่องนี้เป็นเหมือนการทะเลาะวิวาทส่วนตัวถึงขั้นต้องให้กองปราบปรามลงไป ผบช.ก. กล่าวว่า เรามองในแง่ที่นายสมชาย ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการปฏิบัติงานของตำรวจ ซึ่งในส่วนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากเจ้าหน้าที่ราชการก็มีกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดและประพฤติมิชอบในวงราชการ (ป.ป.ป.) รับผิดชอบดำเนินการ ซึ่งจากคุยกันเบื้องต้น เห็นว่าทาง สภ.เมืองลำปางก็ทำทุกอย่างแล้ว แต่อาจสื่อความหมายไม่เข้าใจกัน ที่ลำปางทำน่าจะครบถ้วนแล้ว แต่ทั้งนี้ต้องดูรายละเอียดอีกครั้ง วันนี้น่าจะทราบรายละเอียดที่มาที่ไป ส่วนจะให้กองปราบปรามลงไปทำหรือไม่ต้องตัดสินใจ