xs
xsm
sm
md
lg

อุทธรณ์ยืน! คุก 13 ปี อดีตผู้ช่วย อ.จุฬาฯ ปืนโหดยิงพ่อค้าข้าวแกงดับ

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

นายสันติลักษณ์ หรือแสตมป์ ธัญญาหาร อายุ 50 ปี อดีตครูผู้ช่วยระดับ 3 ภาควิชาไฟฟ้า คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำคุก 13 ปี 6 วัน อดีตอาจารย์ผู้ช่วย คณะวิศวฯ จุฬาฯ ปืนโหด คว้า 9 มม.ยิงพ่อค้าข้าวแกงดับคาที่ เหตุยืนฉี่หน้าบ้าน

วันนี้ (9 มี.ค.) เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ห้องพิจารณาคดี 908 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในคดีที่ พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 3 เป็นโจทก์ฟ้อง นายสันติลักษณ์ หรือแสตมป์ ธัญญาหาร หรือนายภัทรวรรธน์ ธัญญาหารรุ่งโรจน์ อายุ 50 ปี อดีตครูผู้ช่วยระดับ 3 ภาควิชาไฟฟ้า คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นจำเลย ในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนายิงปืนในที่สาธารณะโดยใช่เหตุ จากกรณีเมื่อวันที่ 30 มี.ค.48 เมื่อนายสันติลักษณ์ มีปากเสียงกับนายสุธัญ อิทธิสุรสิงห์ อายุ 45 ปี พ่อค้าขายข้าวแกง ที่มายื่นปัสสาวะที่หน้าบ้าน ก่อนจะใช้ปืนยิงนายสุธัญถึงแก่ความตาย คดีนี้ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 24 พ.ย.49 ให้จำคุก นายสันติลักษณ์เป็นเวลา 13 ปี 6 วัน

คดีนี้ โจทก์ฟ้องและนำสืบว่า เมื่อวันที่ 30 มี.ค.48 เวลา 01.30 น. นายสุธัญ อิทธิสุรสิงห์ ไปร่วมงานวันเกิดของหลานสาวที่บ้านเช่าหลังอาคารมิสเตอร์แสตมป์ ที่มีนายสันติลักษณ์ จำเลย เป็นเจ้าของ ก่อนเกิดเหตุ นายสุธัญ ได้ไปยืนปัสสาวะที่ริมคลองประปา หน้าบ้านของ นายสันติลักษณ์ เมื่อจำเลยเห็นจึงยิงปืนขึ้นฟ้าจำนวน 2 นัด นายสุธัญ จึงตะโกนถามว่ายิงปืนทำไม หลังจากนั้นทั้งสองฝ่ายจึงมีปากเสียงกัน ขณะนั้นมีพยานซึ่งเป็นเพื่อนของนายสุธัญ เห็นเหตุการณ์ได้เข้าไปห้ามปราม แต่จำเลยไม่ฟังเสียงใช้ปืน ขนาด 9 มม. ยิงใส่นายสุธัญ เข้าที่หน้าอก จนเสียชีวิต จำเลยให้การปฏิเสธ อ้างว่าไม่มีเจตนาฆ่าผู้ตาย แต่เกิดจากปืนพยานเพื่อนผู้ตายพยายามเข้าแย่งปืน จนปืนลั่นไปถูกนายสุธัญ

ศาลอุทธรณ์เห็นว่า โจทก์มีพยานที่อยู่ในเหตุเกิดสองปากเบิกความได้สอดคล้องกับการตรวจสอบสภาพศพ และสภาพที่เกิดเหตุ เช่นบาดแผลจากการถูกยิง ที่มีวิถีกระสุนจากบนลงล่าง และจากซ้ายไปขวา ประกอบกับพยานไม่รู้จักและไม่มีสาเหตุโกรธเคืองกับจำเลยมาก่อน เชื่อว่าพยานเบิกความไปตามจริง ส่วนที่จำเลยต่อสู้ว่า ผู้ตายกับเพื่อนเดินมาหาเรื่องที่หน้าห้องพัก โดยมีอาวุธมีดมาด้วย จึงเข้าห้องกลับไปเอาปืนมายิงขู่ แต่ถูกเพื่อนผู้ตายแย่งปืน จนปืนลั่นใส่นายสุธัญ ถึงแก่ความตายนั้น เห็นว่า หากผู้ตายที่มากลับพวกมีจำนวนมากกว่า โดยมีอาวุธมีดด้วยนั้น จำเลยน่าจะถูกทำลายร่างกายมากกว่านี้ แต่จำเลยกลับมีบาดแผลเพียงเล็กน้อย และหากมีการแย่งปืนกันจริง กระสุนปืนน่าจะถูกเพื่อนของผู้ตายมากกว่า ประกอบกับที่จำเลยอ้างว่ากระสุนลั่นขณะเซถลานั้น เห็นว่าขัดแย้งกับวิถีกระสุนที่เป็นการยิงจากบนลงล่าง คำเบิกความของจำเลยขัดต่อเหตุผลและลักษณะบาดแผล พยานหลักฐานจำเลยไม่อ้างหักล้างพยานโจทก์ได้ เห็นว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้ตาย อุทธรณ์ของจำเลยฟังไม่ขึ้น

คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของโจทก์ที่ขอให้ลงโทษจำเลยสถานหนักโดยไม่มีการลดโทษนั้น เห็นว่าตามที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยมา เหมาะสมกับคดีแล้ว ไม่มีเหตุที่ศาลอุทธรณ์จะเปลี่ยนแปลงแก้ไขคำพิพากษา ที่ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 , 376 ให้ลงโทษจำคุกในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา เป็นเวลา 18 ปี ฐานยิงปืนในที่สาธารณะจำคุก 9 วัน จำเลยให้การรับสารภาพฐานยิงปืนในที่สาธารณะลดโทษให้หนึ่งในสาม คงจำคุกจำเลยไว้ 12 ปี 6 วัน และให้บวกโทษจำคุก 1 ปี ที่รอลงอาญาไว้ในคดีหมายเลขแดงที่ 566/2545 ในคดีทำร้ายร่างกาย นางศรินรัตน์ ธัญญาหาร ให้ได้รับอันตรายสาหัส ที่ศาลให้จำคุกเป็นเวลา 1 ปี ด้วย รวมโทษจำคุกทั้งสิ้น 13 ปี 6 วัน นั้น ศาลอุทธรณ์เห็นพ้องด้วย พิพากษายืน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีนี้ศาลอุทธรณ์ได้นัดอ่านคำพิพากษา เมื่อวันที่ 5 ก.พ.52 ที่ผ่านมา แต่ปรากฏว่า นายสันติลักษณ์ ไม่ได้เดินทางมาศาล โดยไม่แจ้งเหตุผลให้ทราบ มีพฤติการณ์หลบหนี ศาลจึงมีคำสั่งให้ออกหมายจับมาฟังคำพิพากษาภายในเวลา 30 วัน และให้ปรับนายประกันที่ใช้หลักทรัพย์เป็นโฉนดที่ดินมูลค่า 1,500,000 บาท

ต่อมาญาตินายสันติลักษณ์ ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นโฉนดที่ดิน เนื้อที่ 52 ตารางวา พร้อมที่อยู่อาศัย ย่านบางซื่อ ราคาประเมิน 1,872,000 บาท ยื่นขอประกันตัวระหว่างฎีกา ศาลพิเคราะห์แล้ว เห็นควรให้ศาลฎีกาเป็นผู้พิจารณาสั่ง เมื่อยังไม่ได้รับการประกันตัว เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จึงนำตัวนายสันติลักษณ์ ไปควบคุมไว้ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น