หนุ่มบางขุนเทียนถูกมือปืนกระหน่ำยิงไม่เลี้ยง 10 กว่านัด เจ้าตัวยังไม่ทันได้ชักปืนสู้ ต้องเหยียบรถถอยหนีแต่ก็ไม่รอดโดนไป 5 นัด ตายคารถ ตำรวจยังฟันธงพบประเด็นสังหารแน่ชัด แต่พบประวัติเคยถูกจับคดียิงปืนขึ้นฟ้าติดคุกไป 4 เดือน เพิ่งพ้นโทษมาเมื่อปลายปีที่แล้ว
เมื่อเวลา 23.45 น.วานนี้ (11 ก.พ.) พ.ต.ต.จักรวาล แก่นเรณู พนักงานสอบสวน (สบ 2) สน.บางขุนเทียน รับแจ้งเหตุมีชายถูกยิงเสียชีวิตอยู่ภายในรถที่บริเวณริมถนนต่างระดับกัลปพฤกษ์ แขวงบางขุนเทียน เขตจอมทอง จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุพร้อม พล.ต.ต.สักกฉัฐ กิตติขจร ผบก.น.9 พ.ต.อ.ชาญ แก้วท่าไม้ ผกก.สน.บางขุนเทียน พ.ต.ต.ไกรวิทย์ อุณหก้องไตรภพ สว.สส.สน.บางขุนเทียน เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.บางขุนเทียน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุเป็นทางแยกซ้ายมุ่งหน้าถนนกาญจนาภิเษก เจ้าหน้าที่พบรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า ไฮลักซ์ วีโก้ สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน ตษ-1926 กทม.จอดติดเครื่องอยู่ในสภาพล้อหลังด้านขวาเกยอยู่บนขอบทาง กระจกหน้ามีรอยกระสุน 4 รู และประตูฝั่งคนขับอีก 1 รู กระจกข้างขวาฝั่งคนขับแตกละเอียด กันชนหลังพังยุบ
ตรวจสอบภายในรถพบศพนายจิรายุ ภู่ไชย อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 60/15 หมู่ที่ 5 แขวงบางขุนเทียน เขตจอมทอง กทม. สภาพศพนั่งอยู่บนเบาะคนขับ หน้าฟุบลงมาอยู่เบาะด้านซ้าย สวมเสื้อยืดสีดำ นุ่งกางเกงยีนส์ขายาว มีปืนลูกโม่ขนาด .38 เหน็บอยู่ที่เอว จำนวน 1 กระบอก ตรวจสอบตามร่างกายพบบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม.เข้าที่บริเวณสีข้างขวา จำนวน 3 นัด และด้านหลังอีก 2 นัด
นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บอีก 1 ราย ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลพญาไท 3 ไปก่อนหน้านี้ ทราบชื่อต่อมาคือ นายศุภชัย กนกสิงห์ อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9/1 ถนนริมคอลงบางค้อ แขวงบางค้อ เขตจอมทอง กทม. มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาดเดียวกันเข้าที่บริเวณชายโครงขวา 1 นัด
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบบริเวณโดยรอบจุดเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่พบกระสุนขนาด 9 มม.ตกอยู่ข้างรถ 1 นัด ห่างจากจุดเกิดเหตุไปประมาณ 20 เมตร พบปลอกกระสุนขนาดเดียวกันตกอยู่จำนวน 12 นัด เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
พล.ต.ต.สักกฉัฐ เปิดเผยว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นยังไม่พบพยานที่เห็นเหตุการณ์ในขณะเกิดเหตุ ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่าคนร้ายอาจจะขับขี่รถจักรยานยนต์มาจอดบริเวณจุดที่พบปลอกกระสุนจำนวนมาก แล้วลงมาคุยกับผู้ตาย ก่อนจะชักปืนกระหน่ำยิงใส่ โดยผู้ตายขับรถถอยหลังหนีจนพุ่งไปชนป้ายบอกทางบนขอบทาง ส่วนสาเหตุยังระบุไม่ได้ว่ามาจากเรื่องอะไร แต่เชื่อว่าไม่น่าจะมาจากเรื่องทะเลาะวิวาทธรรมดาเเน่นอน
อย่างไรก็ตามจะให้ฝ่ายสืบสวนออกติดตามหาพยานแวดล้อมในที่เกิดเหตุ รวมทั้งรอให้ผู้บาดเจ็บอาการดีขึ้นเสียก่อนจะเรียกมาสอบปากคำ นอกจากนี้ก็จะตรวจสอบโทรศัพท์ของผู้ตายว่ามีการติดต่อกับใครบ้างก่อนเสียชีวิต เพื่อหาสาเหตุการสังหารโหดครั้งนี้ต่อไป
ด้าน พ.ต.ต.ไกรวิทย์ กล่าวว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นยังไม่มีพยานรายใดที่เห็นเหตุการณ์ช่วงเกิดเหตุว่าคนร้ายมีจำนวนกี่คนหรือใช้อะไรเป็นยานพาหนะ ส่วนผู้บาดเจ็บก็ยังให้การอะไรไม่ได้ แต่เชื่อว่าผู้ตายถูกยิงในจุดที่พบปลอกกระสุนตกอยู่เป็นจำนวนมาก และขับรถถอยหลังเพื่อหนีโดยที่ยังไม่ได้ยิงต่อสู้ เพราะปืนยังเหน็บอยู่ที่เอว
อย่างไรก็ตาม ได้ประสานไปยังสถานีวิทยุ จส.100 แล้วว่า ให้ประชาสัมพันธ์หากมีใครขับรถผ่านมาพบเห็นเหตุการณ์ในบริเวณดังกล่าวก็สามารถเข้ามาให้ข้อมูลต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทันที ทั้งนี้ จากการตรวจสอบประวัติผู้ตายพบว่า ก่อนหน้านี้เคยก่อเหตุยิงปืนขึ้นฟ้าในท้องที่ สน.ท่าข้าม และถูกจับกุมดำเนินคดีในข้อหาพกพาอาวุธปืนฯ ก่อนจะถูกตัดสินจำคุกอยู่นาน 4 เดือน เพิ่งพ้นโทษออกมาเมื่อวันที่ 4 ธ.ค.51 จนกระทั่งมาถูกยิงจนเสียชีวิตดังกล่าว