ตำรวจ 191 จับหนุ่มซื้อรถแชร์ลูกโซ่ ตรวจสอบยังพบหลักฐานสลิปโอนเงินพัวพันยาเสพติดมูลค่า 16 ล้านบาท จ่อขยายผลเครือข่ายยาเสพติดต่อไป อีกรายตำรวจจับแก็งโจรกรรมรถยนต์ทันควัน หลังพลเมืองดีแจ้งเบาะแส
ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล วันนี้ (4 มี.ค.) เมื่อเวลา 18.00 น. พล.ต.ท.วรพงษ์ ชีวปรีชา ผบช.น. แถลงข่าวตำรวจสายตรวจกองกำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจปฏิบัติการพิเศษ (กก.1 บก.ตปพ.) จับกุมนายสมเกรียติ หรือโอ้ บุญประสพ อายุ 26 ปี ข้อหามียาเคตามีนไว้ในครอบครอง ปลอมและใช้เอกสารราชการปลอมและข้อหารับของโจร โดยเจ้าหน้าที่จับกุมได้ขณะผู้ต้องหากำลังขับรถยนต์โตโยต้า วีออส สีทอง ทะเบียน ศร-2933 กทม.ออกจากอู่รถยนต์ย่านแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ กทม. เมื่อวันที่ 3 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยรถดังกล่าวนั้นผู้เสียหายได้แจ้งหายไว้ในคดีฉ้อโกงแชร์รถเช่าในพื้นที่ สน.มีนบุรี เมื่อปี 2551 กระทั่งไปพบรถยนต์ของตนเองจอดอยู่ในอู่ดังกล่าวจึงแจ้งเบาะแสให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบพร้อมดักซุ่มรอนานหลายชั่วโมง จนพบผู้ต้องหากำลังจะขับรถออก เจ้าหน้าที่จึงแสดงตนขอตรวจค้นจากการตรวจสอบพบว่าเป็นรถที่ติดแผ่นป้ายทะเบียนปลอมด้านหน้าและหลัง นอกจากนี้ยังพบสลิปโอนเงินรวมมูลค่าประมาณ 16 ล้านบาท และยาเค 1 ขวด
หลังสอบปากคำนายสมเกียรติให้การรับสารภาพว่าซื้อรถมาจากนายฤทธิชัย หรือกำ ฤกษ์ดี ราคา 1 แสนบาทโดยไม่มีเอกสารใดๆ และไม่รู้ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับแชร์รถเช่า ส่วนสลิปการโอนเงินนั้น เป็นของลูกพี่ที่ให้บัตรเครดิตมาโอนเงินให้กับลูกค้า แต่ตนไม่ทราบว่าโอนเงินเพื่ออะไร
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ทราบว่าการโอนเงินนั้นเพื่อสั่งซื้อยาเสพติด ซึ่งจะดำเนินการขยายผลว่ามีการติดต่อกับเครือข่ายยาเสพติดไหนและติดต่อสั่งยาเสพติดประเภทใด สำหรับผู้ต้องหานั้นได้ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าอีกคดีนั้น ตำรวจสายตรวจกองกำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจปฏิบัติการพิเศษ (กก.1 บก.ตปพ.) ได้จับกุมนายสมศักดิ์ หรือขาว มูลคำดี อายุ 30 ปีและนายสมเกรียติ หรือป๋อง เจริญใจ อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาโจรกรรมรถยนต์ในเวลากลางคืนโดยวิธีการใช้คีมล็อกดึงเบ้ากุญแจประตูรถออกจากนั้นทำการตะไบกุญแจที่เตรียมมาให้เข้ากับเบ้ากุญแจรถที่โจรกรรมแล้วสตาร์ทรถขับออกไปโดยใช้เวลาไม่ถึง 5 นาที ก็ถูกเจ้าหน้าที่สายตรวจ 191 จับกุมขณะกำลังขับรถผู้เสียหายหลบหนีภายในซอยโชคชัยร่วมมิตร ย่านลาดพร้าว หลังก่อเหตุโจรกรรมรถยนต์กระบะมิตซูบิชิ 4 ประตู จากบริเวณหน้าบ้านเลขที่ 444/21 ซอยวิภาวดี 16/19 แยก 7 แขวงและเขตดินแดง กทม. เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 4 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่จับกุมผู้ต้องหาได้ทันท่วงที หลังได้รับแจ้งจากพลเมืองดีที่เห็นเหตุการณ์ สอบสวนผู้ต้องหาทั้งสองให้การรับสารภาพว่าตระเวนโจรกรรมรถลักษณะดังกล่าวมาแล้ว 5 ครั้งและจะนำรถยนต์ไปขายต่อชายแดนฝั่งกัมพูชา ทั้งนี้ ระหว่างการแถลงข่าวนั้นได้มีผู้เสียหายมายืนยันชี้รถยนต์ของกลางที่หายไปพร้อมมอบกระเช้าผลไม้ขอบคุณตำรวจนครบาลที่สามารถติดตามรถยนต์คืนมาได้