สืบ 5 เฉียบโชว์จับแก๊งปลอมโฉนดที่ดิน รวบ 3 ผู้ต้องหาได้หน้าสำนักงานเขตบางขุนเทียน หลังผู้เสียหายเข้าแจ้งความถูกแก๊งดังกล่าวฉ้อโกงโฉนดที่ดินมาฝากขาย เสียหายรวม 13 ล้าน พฤติกรรมสุดแสบหลอกให้ไปดูที่ปลอม พบ 1 ใน 3 มีทนายความร่วมขบวนการด้วย แฉ แก๊งโฉดหลอกลวงชาวบ้านมาไม่ต่ำกว่า 3 ปี
วันนี้ (4 มี.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น.พล.ต.ต.โชคชัย ดีประเสริฐวิทย์ ผบก.น.5 พ.ต.อ.วราวุธ ทวีชัยการ รอง ผบก.น.5 และ พ.ต.อ.สมบัติ มิลินทจินดา ผกก.กก.สืบสวน บก.น.5 ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมแก๊งร่วมกันฉ้อโกงและปลอมแปลงเอกสารทางราชการ ประกอบด้วย 1.นายนครินทร์ หรือ “แดง” ฉิมวิเชียร อายุ 43 ปี พ่อค้ารถยนต์มือ 2 ชาว จ.สมุทรปราการ 2.นายศราวุธ ปัญญาอรรถ อายุ 39 ปี อาชีพทนายความ ชาว กทม.และ 3.นายทรงวุฒิ อนุมะ อายุ 42 ปี ชาว จ.ชลบุรี ทั้ง 3 ราย เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรี เลขที่ จ.277/1-3/2552 ลงวันที่ 24 ก.พ.2552 ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์, ปลอมเอกสารราชการและใช้เอกสารราชการปลอม” โดยสามารถจับกุมตัวทั้งหมดได้ที่ด้านหน้าสำนักงานที่ดินเขตบางขุนเทียน กทม.
พล.ต.ต.โชคชัย เปิดเผยว่า การจับกุมในครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ กก.สืบสวน บก.น.5 ว่า ถูกแก๊งของผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ฉ้อโกงด้วยกรรมวิธีปลอมแปลงชื่อในโฉนดที่ดินหลายแปลง ก่อนนำมาฝากขายให้ โดยมีมูลค่าความเสียหายรวมกันถึง 13 ล้านบาท ซึ่งผู้เสียหายที่หลงเชื่อ ส่วนใหญ่จะประกอบอาชีพรับซื้อขาย และจำนองที่ดินอยู่แล้ว สำหรับวิธีการใช้หลอกลวง เริ่มจากการที่ นายนครินทร์ จะทำหน้าที่ไปติดต่อกับเหยื่อ และพาเหยื่อไปดูที่ดินซี่งเป็นที่ระวางไม่ตรงกับโฉนด จากนั้นจะให้ นายศราวุธ ซึ่งมีอาชีพเป็นทนายความคอยทำเอกสารให้ ส่วน นายทรงวุฒิ นั้น จะเป็นคนที่อุปโลกน์ขึ้นมาสวมชื่อเจ้าของสิ่งปลูกสร้างแต่ละแปลง เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อยอมรับจำนอง หรือซื้อขายก็จะมาทราบในภายหลัง ว่า ราคาซื้อไม่ตรงกับราคาประเมินที่แท้จริงตามท้องตลาดแต่อย่างใด
จากการสอบถาม นายสมชาย (นามสมมติ) ผู้เสียหายรายหนึ่ง เล่าว่า ตนเคยรู้จักและทำการซื้อขายที่ดินกับแก๊งนี้มาแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งก็ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด ทำให้เชื่อใจกันตลอด มาทราบทีหลังเมื่อทดลองเช็คระวางที่ดินตามโฉนด 3-4 ใบหลัง แล้วปรากฏว่า ไม่ตรงกัน อย่างเช่น ที่ดินภายในซอยเสมาฟ้าคราม ราคา 6.5 ล้านบาท ที่ตนตัดสินใจซื้อมาจากแก๊งนี้ ก็เพราะถูกหลอกให้ไปดูที่ปลอม ซึ่งมีอพาร์ตเมนต์ปลูกสร้างอยู่ด้วย แต่เมื่อซื้อขายกันไปแล้วมาเช็กอีกที ปรากฏว่า ที่ดินตามโฉนดที่ตนซื้อมานั้น เป็นที่รกร้างผืนที่ติดกันกับที่เคยไปชมทีแรก เมื่อทราบว่าถูกหลอกตนก็ไปแจ้งความเอาไว้ที่ สภ.คูคต จ.ปทุมธานี แล้วรอจนกระทั่งแก๊งผู้ต้องหาติดต่อมาอีกครั้ง
“เมื่อแก๊งดังกล่าวติดต่อกลับมาอีก โดยอ้างว่ามีที่ดินด้านหลังห้างบิ๊กซี พระราม 2 จะขายให้ในราคา 3.5 ล้านบาท ผมจึงทำใจเย็น และเดินทางไปดูที่อีกเหมือนเดิม แต่พอเช็กระวางที่แท้จริง ปรากฏว่า ที่ผืนดังกล่าวเป็นที่ป่าโกงกางอยู่ในย่านแสมดำ ซึ่งมีราคาประเมินตามท้องตลาดไม่ถึง 4.8 แสนบาท จึงเดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สืบสวน บก.น.5 เพื่อซ้อนแผนทำการจับกุมคนร้ายเอาไว้ได้ในที่สุด ซึ่งผมอยากฝากไปถึงนายหน้าค้าที่ดินทั้งหลายเอาไว้ด้วยว่า ทุกวันนี้จะทำการค้าต้องระวังตัวให้มากเนื่องจากมันไม่เหมือนเมื่อก่อน ถ้าไว้ใจกันจริงๆ แล้วใช้เวลาแค่ 1-2 วัน ก็สามารถนำเงินมาแบ่งกันได้คราวละ 1-2 ล้านบาท” นายสมชาย กล่าว
ด้าน พ.ต.อ.สมบัติ กล่าวว่า จากการสอบสวนทำให้ทราบว่า แก๊งนี้หลอกลวงชาวบ้านในลักษณะนี้มาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 ปี แต่ในขณะนี้เราติดตามผู้เสียหายได้เพียง 3 ราย นอกจากนี้เรากำลังติดตามตัวผู้ต้องหาหญิงร่วมแก๊งอีกคนหนึ่งชื่อดา ซึ่งมักจะอ้างตัวกับผู้เสียหาย ว่า เป็นเจ้าหน้าที่กรมที่ดิน สามารถเดินเรื่องซื้อขายให้ได้ทุกอย่าง และเป็นคนคอยโทร.ประสานอยู่ตลอดเวลา ทำให้ผู้เสียหายเกิดความเชื่อถือก่อนตัดสินใจซื้อที่ดังกล่าว