อธิบดีกรมราชทัณฑ์ สั่งเรือนจำคลองเปรมแยกขังนักโทษเด็ดขาดคดียาเสพติดถูกสายล่อซื้อระบุสั่งซื้อขายยาผ่านเรือนจำ พร้อมตั้ง กก.สอบนักโทษคดียาบ้า-จนท.ราชทัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง ย้ำถ้าตรวจพบต้องถูกลงโทษวินัยทันที ด้านนักโทษยังปากแข็งปฏิเสธถูกใส่ร้าย
วันนี้ (2 มี.ค.) ที่กรมราชทัณฑ์ นายนัทธี จิตสว่าง อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวถึงกรณีที่ นช.ฉันทกร สุวรรณรัตน์ อายุ 31 ปี นักโทษเด็ดขาดคดียาเสพติด ถูกสายล่อซื้อของเจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่าเป็นพ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่และมีการสั่งซื้อขายยาเสพติดกันผ่านเรือนจำซึ่งปัจจุบันถูกคุมขังอยู่ภายในเรือนจำกลางคลองเปรมว่า ขณะนี้ทางเรือนจำกลางคลองเปรมได้รายงานผลการสอบปากคำในเบื้องต้น นช.ฉันทกร มาให้ตนรับทราบแล้ว โดยนักโทษรายนี้ปฏิเสธข้อกล่าวหา โดยระบุว่าถูกใส่ร้ายและยืนยันว่าไม่รู้เรื่องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตามนักโทษดังกล่าวเป็นนักโทษคดียาเสพติด (ยาบ้า) ที่ถูกจับกุมได้ที่ สน.ดินแดง พร้อมของกลางยาบ้ากว่า 3,000 เม็ด ซึ่งศาลได้พิพากษาให้จำคุก 25 ปี และถูกส่งตัวไปควบคุมที่ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง เมื่อวันที่ 11 ต.ค.49 ก่อนจะย้ายมาควบคุมตัวที่แดน 5 เรือนจำกลางคลองเปรมเมื่อ 3 เดือนที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน
นายนัทธีกล่าวอีกว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้เรือนจำกลางคลองเปรมตั้งคณะกรรมการสอบนักโทษและเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างละเอียด และให้แยกคุมขังนักโทษดังกล่าวไว้ก่อนจนกว่าการสอบสวนจะเสร็จสิ้น นอกจากนี้ก็ได้ตรวจค้นเรือนนอนของนักโทษ แต่ไม่พบว่ามีการซุกซ่อนโทรศัพท์มือถือไว้ ส่วนเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์หากตรวจพบว่ามีใครเข้าไปเกี่ยวข้องจะดำเนินการทางวินัยทันที สำหรับนักโทษเด็ดขาดคดียาเสพติดที่อยู่ในเรือนจำกลางคลองเปรมขณะนี้มีเกือบ 3,000 คน
รายงานข่าวจากเรือนจำกลางคลองเปรม เปิดเผยว่า นช.ฉันทกร อยู่ในเครือข่ายขบวนการค้ายาบ้ารายใหญ่ ซึ่งจากการสอบสวน นช.ฉันทกร ยอมรับว่าตนค้ายาบ้าจริง แต่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเครือข่ายค้ายาไอซ์ เนื่องจากตามปกติเครือข่ายค้ายาบ้าและยาไอซ์จะเป็นคนละเครือข่ายกัน ซึ่งขณะนี้ทางตำรวจ สภ.ชลบุรี ยังไม่ได้ส่งข้อมูลหรือประสานขอข้อมูลใดๆ มายังกรมราชทัณฑ์