อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ยอมรับยากที่จะสาวถึงตัวบงการรายใหญ่ค้ายาบ้าในคุก เนื่องจากไม่พบหลักฐานอีกอย่างผู้ต้องขังที่ถูกซัดทอดรู้ตัวล่วงหน้าไหวตัวทันปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ขู่หากเจ้าหน้าที่มีส่วนรู้เห็นต้องถูกโยกย้าย ถ้าพบผู้ต้องขังมีปัญหาร่วมกันค้ายาในเรือนจำต้องถูกปรับเปลี่ยนที่คุมขัง
วันนี้ (26 ม.ค.) นายนัทธี จิตสว่าง อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยภายหลังร่วมประชุมมาตรการแก้ไขปัญหายาเสพติดของกระทรวงยุติธรรมว่า เป็นการประชุมในภาพรวมเพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติด ร่วมกับหน่วยงาน ป.ป.ส.และดีเอสไอ ส่วนกรณีตำรวจ สน.ดินแดง จับกุมผู้ต้องหาค้ายาบ้าแล้วให้การซัดทอดว่าสั่งซื้อมาจากนักโทษในเรือนจำจังหวัดราชบุรีนั้น นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.ยุติธรรม สั่งการให้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการขยายผลว่าผู้ต้องขังที่ถูกซัดทอดอยู่ในเรือนจำกระทำความผิดจริงหรือไม่ เบื้องต้นเจ้าตัวปฏิเสธแต่ตำรวจจะได้หาหลักฐานขยายผลต่อไป ขณะเดียวกันก็ได้สั่งให้ย้ายจากเรือนจำจังหวัดราชบุรี มาคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพแล้ว เพื่อให้สะดวกต่อการสอบปากคำ
นายนัทธี กล่าวถึงมาตรการป้องกันปัญหายาเสพติดในเรือนจำว่า มีคณะกรรมการขึ้นมาดำเนินการป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาการสั่งซื้อยาบ้าในเรือนจำเกิดขึ้นอีก เช่น หลังสืบสวนสอบสวนขยายผลแล้วอาจจะส่งสายเข้าไปสืบหาเพื่อขั้นตอนการดำเนินการดังกล่าวเป็นอย่างไรบ้าง ปัญหาขณะนี้คือเมื่อมีการจับกุมและซัดทอดว่าสั่งซื้อยาบ้าจากในเรือนจำ เราไม่สามารถลงโทษผู้ต้องขังที่กระทำผิดได้เลย เนื่องจากไม่มีหลักฐานเพราะผู้ต้องขังที่ถูกซัดทอดรู้ตัวเสียก่อนและให้การปฏิเสธตลอด ทำให้เราไม่มีหลักฐานที่จะลงโทษ เพราะฉะนั้น ตอนนี้จะใช้วิธีการประสานงานกันระหว่างหน่วยงานที่ดำเนินการจับกุมมายังกรมราชทัณฑ์ เพื่อจะนำไปขยายผลหาหลักฐานลงโทษผู้ต้องขังที่ถูกซัดทอดและขยายผลการจับกุมเครือข่ายดังกล่าวได้กว้างขึ้นกว่าเดิม และหากพบมีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เข้าไปเกี่ยวข้องด้วยก็จะดำเนินการลงโทษ
“พอมีการซัดทอดและเปิดเผยชื่อผู้ที่ถูกจับกุมเสียก่อน ผู้ต้องขังที่อยู่ในเรือนจำจะรู้ตัวและทำลายหลักฐานหมด โดยที่เราไม่สามารถเอาคนผิดมาลงโทษได้เลย คนผิดเหล่านี้ก็จะปฏิเสธตลอด ซึ่งเขาทราบมาจากข่าวต่างๆ ซึ่งตรงนี้ถ้ามีการประสานงานมาก่อนแล้วยังไม่ออกข่าวเราก็ยังสามารถดำเนินการจับกุมและขยายผลเอาตัวใหญ่ๆ มาลงโทษได้อย่างจริงจัง” อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าว
นอกจากนี้ กรมราชทัณฑ์จะยังมีการปรับเปลี่ยนหมุนเวียนเจ้าหน้าที่ในเรือนจำ และโดยอธิบดีและรองอธิบดีกรมราชทัณฑ์จะลงไปดูปัญหาและปฏิบัติภาคสนามที่เรือนจำทั้งสองแห่งก่อน คือ เรือนจำจังหวัดราชบุรีกับเรือนจำกลางคลองเปรม และบ่ายวันนี้จะไปตรวจดูปัญหาที่เรือนจำคลองเปรมว่ามีปัญหาอะไรและจะแก้ปัญหาอย่างไร หากมีปัญหาที่เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ก็จะปรับเปลี่ยนเจ้าหน้าที่หรือหากมีปัญหาที่ผู้ต้องขังก็จะปรับเปลี่ยนพื้นที่ควบคุมตัวผู้ต้องขังต่อไป
