พ่อเด็กหญิงที่ตายในหัวลำโพงแบบไร้สาเหตุโผล่พบตำรวจแล้ว อ้างจะพาลูกกลับบ้านนอกช่วงปิดเทอม แต่ไม่ทันรถไฟเที่ยวสุดท้าย เลยต้องนอนรอเที่ยวแรกวันรุ่งขึ้น แต่อุ้มลูกไปฝากนอนกับผู้โดยสารหญิงแถวนั้น เพราะจุดที่ตัวเองนอนมีแต่ผู้ชาย พอตื่นมาลูกก็หายไปแล้ว เดินหาไม่เจอเลยกลับบ้าน เห็นข่าวลูกตายเลยรีบมาพบตำรวจ ขณะแพทย์ระบุเด็กเสียชีวิตจากสาเหตุขาดอากาศหายใจ
จากกรณีชายหนุ่มอุ้มลูกสาวอายุประมาณ 5 ขวบ มาฝากไว้กับผู้โดยสารที่นอนรอขึ้นรถไฟในหัวลำโพง แล้วอ้างว่าจะไปซื้อน้ำ ก่อนหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย จนเวลาผ่านไปนานกว่า 2 ชั่วโมง ปรากฎว่าเด็กหญิงคนดังกล่าวเสียชีวิตอย่างไม่ทราบสาเหตุ ทำให้ตำรวจต้องส่งศพให้นิติเวชชันสูตรอย่างละเอียดเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิต โดยเหตุเกิดเมื่อเวลา 02.00 น.ของวันนี้ (27 ก.พ.) ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 17.00 น.วันนี้ (27 ก.พ.) ได้มีนายไพฑูรย์ สิมมะณีย์ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 25/5 หมู่ 2 ต.บางรักใหญ่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี พร้อมนางวันเพ็ญ ยังน้อย อายุ 42 ปี ผู้เป็นภรรยา เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.เกรียงไกร ขวัญไตรรัตน์ พนักงานสอบสวน (สบ 3) สน.นพวงศ์ เพื่อแจ้งว่า เด็กหญิงที่เสียชีวิตคนดังกล่าวคือลูกสาวของตัวเองที่ชื่อ ด.ญ.ศศินา สิมมะณีย์ หรือน้องทราย อายุ 7 ปี นักเรียนชั้นอนุบาลที่ 2 โรงเรียนป่าไม้อุทิศฯ ย่านบางรักใหญ่ พร้อมทั้งขอใบมรณะบัตรจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อนำไปติดต่อขอรับศพ ด.ญ.ศศินา ที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ
นายไพฑูรย์ให้การว่า คืนก่อนเกิดเหตุตนพาลูกสาวเดินทางกลับบ้านเกิดของตนที่จ.อุบลราชธานี เนื่องจากอยู่ในช่วงปิดเทอม โดยพวกตนเดินทางมาถึงสถานีรถไฟหัวลำโพง เวลาประมาณ 20.00 น.วานนี้ (26 ก.พ.) ก็พบว่ารถไฟเที่ยวที่ตนจะโดยสารไปนั้นออกจากสถานีหัวลำโพงไปแล้ว และทำให้ต้องรอเที่ยวต่อไปในเวลา 05.45 น.ของวันนี้ (27 ก.พ.) ตนจึงได้พาลูกสาว ไปหาที่นอนหลับพักผ่อนเพื่อรอเวลา จนเวลาประมาณ 22.00 น. ตนก็อุ้มลูกสาวไปนอนกับใกล้ๆ กับผู้หญิง 3 คนที่นอนอยู่ใกล้ๆ เนื่องจากบริเวณที่ตนนอนนั้นมีแต่ผู้ชาย เกรงว่าจะไม่เหมาะสม
นายไพฑูรย์กล่าวต่อว่า หลังจากนั้นตนจึงได้ซื้อกระดาษฟลอยด์มาปูให้ลูกนอน พร้อมกับเอาผ้าฝ้าย 2 ผืน ปิดที่หน้าผากกับคอไว้เพื่อให้เกิดความอบอุ่นและป้องกันยุง หลังจากนั้นตนก็กล่อมจนลูกหลับไป จากนั้นตนก็ย้ายไปนอนอีกที่ซึ่งอยู่ห่างกันประมาณ 10 เมตร จนกระทั่งเวลาประมาณ 07.00 น.ตนตื่นขึ้นมาก็ไม่พบลูกแล้ว อีกทั้งกระเป๋าเดินทางของตนก็หายไปด้วย ตนจึงพยายามเดินหาอยู่จนถึงเวลาประมาณ 11.00 น.ก็ไม่พบ เลยตัดสินใจโทรไปเล่าเรื่องให้ภรรยาทราบ ก่อนเดินทางกลับไปบ้านย่านบางบัวทอง จนกระทั่งมาเห็นข่าวในโทรทัศน์จึงได้รู้ว่าลูกสาวเสียชีวิตแล้ว ตนจึงรีบเดินทางไปดูศพลูกที่สถาบันนิติเวชทันที
นายไพฑูรย์กล่าวต่อว่า เมื่อไปถึงสถาบันนิติเวชก็ได้สอบถาม พ.ต.ท.นพ.วิรุฬ ศุภสิงห์ศิริปรีชา ก็ทราบว่าลูกสาวตนเสียชีวิตเนื่องจากขาดอากาศหายใจ แต่ที่ผ่านมาลูกสาวตนก็ไม่ได้ป่วยอะไร เพียงแต่มีอาการไออยู่บ้างเล็กน้อย โดยเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาตนได้พาลูกไปเที่ยวที่ห้างโลตัส สาขาปิ่นเกล้า ก็มีอาการเวียนหัวและอาเจียนออกมาเท่านั้น และตนขอยืนยันว่าไม่ได้ทำร้ายหรือทุบตีน้องทรายแต่อย่างใด ทั้งนี้เมื่อคืนที่ผ่านมาตนได้ให้เงินลูกสาวติดตัวไว้ 200 บาท แต่ไม่ทราบว่าตอนนี้ยังอยู่หรือไม่ เพราะยังไม่ได้ตรวจสอบทรัพย์สิน โดยหลังจากนี้ตนจะนำศพลูกสาวไปบำเพ็ญกุศลที่วัดบางรักใหญ่ เป็นเวลา 3 วัน แล้วเผาในวันที่ 3 มี.ค.ที่จะถึงนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุที่พบศพน้องทราย เมื่อกลางดึกที่ผ่านมานั้น มีพยานเห็นนายนายไพฑูรย์นอนอยู่ใกล้บริเวณจุดเกิดเหตุซึ่งห่างไปแค่ประมาณ 10 เมตรเท่านั้น แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ไปสอบถามนายไพฑูรย์กลับพูดจาไม่รู้เรื่อง มีอาการเบลอคล้ายคนเมาสุรา
พ่อใจยักษ์ทิ้งลูกสาว 5 ขวบให้ตายคาหัวลำโพง