ยังคงเป็นที่กังขากันทั่วบ้านทั่วเมืองในขณะนี้ว่า “ศพฝรั่ง” ที่ผูกห้อยแต่หัวบนสะพานพระราม 8 นั้น เป็น “ฆาตกรรม” หรือการ “ฆ่าตัวตาย” โดยเบื้องต้นที่มีผู้ไปพบศีรษะมนุษย์ห้อยต่องแต่งอยู่กลางสะพาน ตำรวจไปถึงที่เกิดเหตุแล้วสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นการฆาตกรรม ทั้งคนลงมือต้องจัดอยู่ในระดับ “ซูเปอร์เพชฌฆาต” ชนิดตัดฉับเดียวคอกระเด็นหลุดจากร่าง ทว่าภายหลังตำรวจสันนิษฐานว่าเป็นการ “ฆ่าตัวตาย” อันเนื่องจากมีเลือดกระเซ็นไปติดตัวสะพาน ทั้งเส้นเลือดที่คอเมื่อชันสูตรแล้วมีการขาดไม่เท่ากัน จึงไม่น่าจะใช่การถูกตัดขาดจาดของมีคม
อย่างไรก็ตาม คงต้องให้เวลากับตำรวจทั้งฝ่ายสืบสวนและสอบสวนเพื่อหาสาเหตุให้ได้ว่า ฝรั่งนายนี้ถูกฆาตกรรม หรือเจตนาฆ่าตัวตายเอง และหากจะฆ่าตัวตายเอง ทำไมจึงต้องผูกคอกระโดดลงจากสะพาน ไฉนจึงไม่กระโดดน้ำฆ่าตัวตายให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย หรือว่าว่ายน้ำเป็น แต่การผูกคอก็ไม่จำเป็นที่จะต้องมาผูกยังกลางสะพาน ผู้ชำนาญการด้านนิติเวชบอกกับเราว่า กรณีของฝรั่งรายนี้หากเป็นการฆ่าตัวตายจริง ถือว่าไม่ใช่เป็นการฆ่าตัวตายอย่างพิสดาร แต่เป็นการฆ่าตัวตายตามปกติ ซึ่งการใช้เชือกผูกคอแล้วกระโดดลงมาจากคอนโดฯ เป็นต้น ก็มีให้เห็นบ้าง แต่ทว่าไม่ง่ายนัก ที่เมื่อกระโดดด้วยการผูกคอลงมาจากที่สูงแล้ว ร่างกับหัวจะหลุดออกจากกัน ส่วนผู้เสียชีวิตที่ฆ่าตัวตายโดยพิสดารนั้น ส่วนใหญ่ เมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่ มักมีจิตใจที่ผิดปกติไปจากสามัญชนทั่วไป
ทีมข่าวอาชญากรรม ขอนำตัวอย่างผู้เสียชีวิตที่ฆ่าตัวตายอย่างพิสดาร มาย้อนรอยให้ดูว่า พวกเขามีวิธีการฆ่าตัวตายที่ผิดปกติกันอย่างไรบ้าง
1 มิ.ย.2550 หนุ่มวิศวกรไฟฟ้ารายหนึ่ง นำสายยางต่อกับท่อไอเสียรถเก๋งแล้วโยงเข้ามาในรถ ให้ตัวเองขาดอากาศหายใจ เสียชีวิตคารถ
20 พ.ย.2551 นายโซว์เบรคตี (SOCBEKTI) อายุ 67 ปี สัญชาติอินโดนีเซีย ฆ่าตัวตายในโรงแรมพัทยา ซิตี้ ตั้งอยู่เลขที่ 265/48-49 ม.9 ถ.พัทยาเหนือ ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โดยใช้ผ้าขนหนูปิดรูประตูห้องเพื่อไม้ให้ควันออกไปด้านนอกห้อง ก่อนจะใช้กระดาษจุดไฟให้เกิดเป็นควันเพื่อทำให้เกิดขาดอากาศหายใจ และเสียชีวิตในที่สุด
21 ก.ย.2551 นายทรงชัย คงจิตตราภา อายุ 69 ปี ใช้มีดคว้านท้องตัวเองเสียชีวิตภายในบ้านเลขที่ 19/22 หมู่บ้านเอกวัฒนา ซ.เพชรเกษม 53 แขวงและเขตบางแค กทม. พ.ต.ท.สายชล มงคล พนักงานสอบสวน (สบ 3) สน.เพชรเกษม ไปตรวจที่เกิดเหตุแล้วถึงกับผงะกับสภาพศพที่นอนหงาย โดยผู้ตายสวมกางเกงขาสั้นสีดำ ไม่สวมเสื้อ ใช้มีดปลายแหลมคว้านท้องตัวเองเป็นแผละเหวอะหวะยาวประมาณ 10 ซม. มีไส้ทะลักออกมากองกับพื้น และถูกตัดเป็นท่อนๆ ประมาณ 5 ท่อน เลือดไหลนองทั่วพื้นบ้านเป็นภาพที่น่าสยดสยอง โดยบริเวณมือขวาผู้ตายยังกำมีดปอกผลไม้ปลายแหลมไว้ และใกล้กันยังพบกรรไกรเปื้อนเลือดหล่นอยู่ด้วย
25 ก.พ.2551 นายวรพัฒน์ มาสู่ไท อายุ 28 ปี ฆ่าตัวตายภายในหอพักประภาวี ตั้งอยู่เลขที่ตั้ง 261/3 หมู่ 6 ซอยพหลโยธิน 55 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม. ด้วยการใช้สกอตเทป และถุงพลาสติกปิดทับตามรอยหน้าต่าง และตามประตูห้องเพื่อป้องกันไม่ให้ลมพัดเข้าออกภายในห้องอย่างมิดชิด และใช้เตาถ่านสเตนเลสเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่ใช้สำหรับย่างลูกชิ้นปิ้ง จุดถ่านชุบน้ำมันเผารมควันตัวเองจนเสียชีวิตภายในห้องพักดังกล่าว
11 ส.ค.2550 น.ส.อรวรรณ ภัสรพงษ์กุล อายุ 36 ปี ฆ่าตัวตายอยู่ในห้องนอนชั้นสองของบ้านเลขที่ 28/38 หมู่ 2 ซ.สาคร แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม. ด้วยการใช้ถุงพลาสติกคลุมศีรษะ แล้วใช้เชือกไนล่อนมัดทับพันรอบคอจนขาดอากาศหายใจ เสียชีวิตในที่สุด
17 ส.ค. 2550 นายภานุวัฒน์ อิ่มทรัพย์ อายุ 21 ปี ใช้เชือกไนลอนสีเขียวผูกกับช่องระบายหน้าต่างแขวนคอเสียชีวิตในท่านั่ง โดยมีผ้าเช็ดตัวผูกมัดปากไว้อย่างแน่นหนา ส่วนที่ข้อมือทั้งสองข้างก็ผูกติดกันด้วยผ้าเช็ดตัวอีกผืน ภายในบ้านเลขที่ 9/13 ม.9 ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ซึ่งเบื้องต้นตำรวจเชื่อว่าเป็นการฆาตกรรม แต่ในที่สุดก็พบจดหมายลาตายของผู้ตาย จึงสรุปเป็นการฆ่าตัวตายเช่นเดียวกันในท่าที่ค่อนข้างพิสดาร ด้วยการนั่งผูกคอตาย
อีกราย นายอุทัย อารีย์สุวรรณ อายุ 61 ปี ใช้สายไฟมัดข้อมือซ้าย และข้อเท้าซ้าย และเสียบสายไฟเข้าที่ปลั๊กไฟฟ้าช็อตตัวเองเสียชีวิต ภายในบ้านเลขที่ 305/81 ถนนเพชรเกษม ซ.15 (วัดประดู่ในทรงธรรม) แขวงท่าพระ เขตบางกอกใหญ่ กทม.
อีกคดีเมื่อวันที่ 16 มิ.ย.2548 นายคมกฤช ชูจันทร์ อายุ 28 ปี หยอดกาวตราช้างใส่ปาก-จมูก ปิดลมหายใจจนเสียชีวิตทุรนทุรายบนเตียงนอนภายในบ้านเลขที่ 130/1 ซอยสวนพลู 1 ถนนสาทร แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กทม. ซึ่ง พ.ต.ท.มงคล นันทจิต สารวัตรเวร สน.ทุ่งมหาเมฆ เจ้าของคดีถึงกับปรารภว่าเรื่องนี้ถือเป็นการฆ่าตัวตายด้วยวิธีที่แปลกมาก เพราะทำงานมา 20 ปี เพิ่งเคยเจอเป็นคดีแรก
สุดท้าย เป็นที่ฮือฮากันทั้งประเทศ เมื่อนายสุนทร วงศ์ดาว อายุ 33 ปี อดีตนักแม่นปืน ที่หลบหนีตำรวจภายหลังก่อเหตุยิงพ่อตาและภรรยาจนบาดเจ็บ หลบหนีเข้าไปหลบซ่อนในบ้านเช่าย่าน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี โดยมีตำรวจสายสืบ สน.บางขุนเทียน ติดตามไปอย่างกระชั้นชิดและเข้าปิดล้อมบ้านไว้ จากนั้นไม่นานนายสุนทรใช้อาวุธปืนของตนเองยิงตัวเองตายถึง 5 นัด
ส่วนคดี “หัวฝรั่ง” ที่สะพานพระราม 8 จะเป็นคดีที่ตำรวจจะต้องกระทำความจริงให้ปรากฏ แม้จะยังคงไม่เป็นที่แน่ชัด จนกว่าผลพิสูจน์ทางแพทย์นิติเวชจะออกมายืนยันอีกครั้ง จึงจะมั่นใจได้ว่าเป็นการ “ฆ่าตัวตายพิสดาร” เอง หรือ “ฆาตกรรมพิศวง” กันแน่ !?!
อย่างไรก็ตาม คงต้องให้เวลากับตำรวจทั้งฝ่ายสืบสวนและสอบสวนเพื่อหาสาเหตุให้ได้ว่า ฝรั่งนายนี้ถูกฆาตกรรม หรือเจตนาฆ่าตัวตายเอง และหากจะฆ่าตัวตายเอง ทำไมจึงต้องผูกคอกระโดดลงจากสะพาน ไฉนจึงไม่กระโดดน้ำฆ่าตัวตายให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย หรือว่าว่ายน้ำเป็น แต่การผูกคอก็ไม่จำเป็นที่จะต้องมาผูกยังกลางสะพาน ผู้ชำนาญการด้านนิติเวชบอกกับเราว่า กรณีของฝรั่งรายนี้หากเป็นการฆ่าตัวตายจริง ถือว่าไม่ใช่เป็นการฆ่าตัวตายอย่างพิสดาร แต่เป็นการฆ่าตัวตายตามปกติ ซึ่งการใช้เชือกผูกคอแล้วกระโดดลงมาจากคอนโดฯ เป็นต้น ก็มีให้เห็นบ้าง แต่ทว่าไม่ง่ายนัก ที่เมื่อกระโดดด้วยการผูกคอลงมาจากที่สูงแล้ว ร่างกับหัวจะหลุดออกจากกัน ส่วนผู้เสียชีวิตที่ฆ่าตัวตายโดยพิสดารนั้น ส่วนใหญ่ เมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่ มักมีจิตใจที่ผิดปกติไปจากสามัญชนทั่วไป
ทีมข่าวอาชญากรรม ขอนำตัวอย่างผู้เสียชีวิตที่ฆ่าตัวตายอย่างพิสดาร มาย้อนรอยให้ดูว่า พวกเขามีวิธีการฆ่าตัวตายที่ผิดปกติกันอย่างไรบ้าง
1 มิ.ย.2550 หนุ่มวิศวกรไฟฟ้ารายหนึ่ง นำสายยางต่อกับท่อไอเสียรถเก๋งแล้วโยงเข้ามาในรถ ให้ตัวเองขาดอากาศหายใจ เสียชีวิตคารถ
20 พ.ย.2551 นายโซว์เบรคตี (SOCBEKTI) อายุ 67 ปี สัญชาติอินโดนีเซีย ฆ่าตัวตายในโรงแรมพัทยา ซิตี้ ตั้งอยู่เลขที่ 265/48-49 ม.9 ถ.พัทยาเหนือ ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โดยใช้ผ้าขนหนูปิดรูประตูห้องเพื่อไม้ให้ควันออกไปด้านนอกห้อง ก่อนจะใช้กระดาษจุดไฟให้เกิดเป็นควันเพื่อทำให้เกิดขาดอากาศหายใจ และเสียชีวิตในที่สุด
21 ก.ย.2551 นายทรงชัย คงจิตตราภา อายุ 69 ปี ใช้มีดคว้านท้องตัวเองเสียชีวิตภายในบ้านเลขที่ 19/22 หมู่บ้านเอกวัฒนา ซ.เพชรเกษม 53 แขวงและเขตบางแค กทม. พ.ต.ท.สายชล มงคล พนักงานสอบสวน (สบ 3) สน.เพชรเกษม ไปตรวจที่เกิดเหตุแล้วถึงกับผงะกับสภาพศพที่นอนหงาย โดยผู้ตายสวมกางเกงขาสั้นสีดำ ไม่สวมเสื้อ ใช้มีดปลายแหลมคว้านท้องตัวเองเป็นแผละเหวอะหวะยาวประมาณ 10 ซม. มีไส้ทะลักออกมากองกับพื้น และถูกตัดเป็นท่อนๆ ประมาณ 5 ท่อน เลือดไหลนองทั่วพื้นบ้านเป็นภาพที่น่าสยดสยอง โดยบริเวณมือขวาผู้ตายยังกำมีดปอกผลไม้ปลายแหลมไว้ และใกล้กันยังพบกรรไกรเปื้อนเลือดหล่นอยู่ด้วย
25 ก.พ.2551 นายวรพัฒน์ มาสู่ไท อายุ 28 ปี ฆ่าตัวตายภายในหอพักประภาวี ตั้งอยู่เลขที่ตั้ง 261/3 หมู่ 6 ซอยพหลโยธิน 55 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม. ด้วยการใช้สกอตเทป และถุงพลาสติกปิดทับตามรอยหน้าต่าง และตามประตูห้องเพื่อป้องกันไม่ให้ลมพัดเข้าออกภายในห้องอย่างมิดชิด และใช้เตาถ่านสเตนเลสเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่ใช้สำหรับย่างลูกชิ้นปิ้ง จุดถ่านชุบน้ำมันเผารมควันตัวเองจนเสียชีวิตภายในห้องพักดังกล่าว
11 ส.ค.2550 น.ส.อรวรรณ ภัสรพงษ์กุล อายุ 36 ปี ฆ่าตัวตายอยู่ในห้องนอนชั้นสองของบ้านเลขที่ 28/38 หมู่ 2 ซ.สาคร แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม. ด้วยการใช้ถุงพลาสติกคลุมศีรษะ แล้วใช้เชือกไนล่อนมัดทับพันรอบคอจนขาดอากาศหายใจ เสียชีวิตในที่สุด
17 ส.ค. 2550 นายภานุวัฒน์ อิ่มทรัพย์ อายุ 21 ปี ใช้เชือกไนลอนสีเขียวผูกกับช่องระบายหน้าต่างแขวนคอเสียชีวิตในท่านั่ง โดยมีผ้าเช็ดตัวผูกมัดปากไว้อย่างแน่นหนา ส่วนที่ข้อมือทั้งสองข้างก็ผูกติดกันด้วยผ้าเช็ดตัวอีกผืน ภายในบ้านเลขที่ 9/13 ม.9 ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ซึ่งเบื้องต้นตำรวจเชื่อว่าเป็นการฆาตกรรม แต่ในที่สุดก็พบจดหมายลาตายของผู้ตาย จึงสรุปเป็นการฆ่าตัวตายเช่นเดียวกันในท่าที่ค่อนข้างพิสดาร ด้วยการนั่งผูกคอตาย
อีกราย นายอุทัย อารีย์สุวรรณ อายุ 61 ปี ใช้สายไฟมัดข้อมือซ้าย และข้อเท้าซ้าย และเสียบสายไฟเข้าที่ปลั๊กไฟฟ้าช็อตตัวเองเสียชีวิต ภายในบ้านเลขที่ 305/81 ถนนเพชรเกษม ซ.15 (วัดประดู่ในทรงธรรม) แขวงท่าพระ เขตบางกอกใหญ่ กทม.
อีกคดีเมื่อวันที่ 16 มิ.ย.2548 นายคมกฤช ชูจันทร์ อายุ 28 ปี หยอดกาวตราช้างใส่ปาก-จมูก ปิดลมหายใจจนเสียชีวิตทุรนทุรายบนเตียงนอนภายในบ้านเลขที่ 130/1 ซอยสวนพลู 1 ถนนสาทร แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กทม. ซึ่ง พ.ต.ท.มงคล นันทจิต สารวัตรเวร สน.ทุ่งมหาเมฆ เจ้าของคดีถึงกับปรารภว่าเรื่องนี้ถือเป็นการฆ่าตัวตายด้วยวิธีที่แปลกมาก เพราะทำงานมา 20 ปี เพิ่งเคยเจอเป็นคดีแรก
สุดท้าย เป็นที่ฮือฮากันทั้งประเทศ เมื่อนายสุนทร วงศ์ดาว อายุ 33 ปี อดีตนักแม่นปืน ที่หลบหนีตำรวจภายหลังก่อเหตุยิงพ่อตาและภรรยาจนบาดเจ็บ หลบหนีเข้าไปหลบซ่อนในบ้านเช่าย่าน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี โดยมีตำรวจสายสืบ สน.บางขุนเทียน ติดตามไปอย่างกระชั้นชิดและเข้าปิดล้อมบ้านไว้ จากนั้นไม่นานนายสุนทรใช้อาวุธปืนของตนเองยิงตัวเองตายถึง 5 นัด
ส่วนคดี “หัวฝรั่ง” ที่สะพานพระราม 8 จะเป็นคดีที่ตำรวจจะต้องกระทำความจริงให้ปรากฏ แม้จะยังคงไม่เป็นที่แน่ชัด จนกว่าผลพิสูจน์ทางแพทย์นิติเวชจะออกมายืนยันอีกครั้ง จึงจะมั่นใจได้ว่าเป็นการ “ฆ่าตัวตายพิสดาร” เอง หรือ “ฆาตกรรมพิศวง” กันแน่ !?!