สุดสยอง พบศีรษะชาวต่างชาติห้อยติดหรากลางสะพานพระราม 8 มีแต่หัวช่วงลำตัวหายไป เสียชีวิตมาไม่ต่ำกว่า 8 ชม.พบข้อความเขียนเป็นภาษาอังกฤษ ทิ้งไว้บริเวณราวสะพาน ตร.คาด ไม่น่าจะเป็นการฆ่าตัวตาย เนื่องจากบริเวณลำคอถูกตัดคล้ายของมีคม ต้องรอผลชันสูตรจากแพทย์อีกครั้ง พร้อมประสานกรมโยธา ขอดูกล้องวงจรปิดว่าเกิดอะไรขึ้นบนสะพาน
วันนี้ (22 ก.พ.) เมื่อเวลา 14.00 น.พ.ต.ท.อัชรัตน์ เหมทานนท์ พนักงานสอบสวน (สบ3) สน.บวรมงคล ได้รับแจ้งเหตุพบศีรษะมนุษย์ผูกห้อยติดอยู่ที่บริเวณสะพานพระราม 8 แขวงวัดสามพระยา เขตพระนคร กทม.จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.ชวลิต ประสพศิลป รอง ผบก.น.7 แพทย์ รพ.ศิริราช เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุอยู่บนสะพานพระราม 8 พบเชือกร่มสีขาวผูกติดอยู่กับราวสะพาน ยาวลงไปด้านล่างสะพานประมาณ 5 เมตร โดยมีศีรษะมนุษย์ห้อยติดอยู่ที่ปลายเชือกยื่นลงไปในแม่น้ำ ส่วนลำตัวหายไป มีรอยเลือดสาดกระเซ็นติดที่ด้านข้างสะพานจำนวนมาก จากการตรวจสอบพบว่าผู้ตายเป็นชายชาวต่างชาติ ไม่ทราบสัญชาติ อายุประมาณ 40 ปี ปมเชือกผูกติดกับหูด้านซ้าย มีถุงผ้าร่มสีขาว ยี่ห้อ puma ผูกติดไว้กับเชือกเหนือศีรษะผู้ตาย เบื้องต้นแพทย์สันนิษฐานว่า เสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 8 ชั่วโมงขึ้นไป บริเวณลำคอฉีกขาดตั้งแต่ลำคอจนถึงท้ายทอยคล้ายถูกของมีคม กระดูกต้นคอหลุดขาด ดวงตามีเลือดคั่ง นอกจากนี้ บนราวสะพานยังพบข้อความเขียนเป็นภาษาอังกฤษ จับใจความได้ว่า “ฉันต้องการแต่กลับไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการ” และ “ฉันมาที่นี่เพื่อพบคุณ” เจ้าหน้าที่จึงเก็บเอาไว้เป็นหลักฐาน
พ.ต.อ.ชวลิต กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบเพียงส่วนศีรษะ ซึ่งดูจากสภาพศพไม่น่าจะเป็นการฆ่าตัวตาย แต่จะต้องรอผลการผ่าพิสูจน์จากแพทย์อย่างละเอียดว่าบาดแผลบริเวณลำคอเป็นการฉีกขาดออกจากลำตัวหรือไม่หรือถูกตัดด้วยของมีคม ถ้าหากเป็นการฆ่าตัวตาย โดยการผูกคอตายก็จะต้องรอให้พบส่วนลำตัวด้วย หลังจากนี้จะประสานขอตรวจสอบภาพในกล้องวงจรปิดจากกรมโยธาที่ติดอยู่บนสะพาน ซึ่งมีด้วยกัน 2 จุด เป็นกล้องของกรมโยธา และ บก.02 เพื่อตรวจสอบว่าในระยะเวลา 8 ชั่วโมง มีอะไรที่ผิดปกติเกิดขึ้นบนสะพานหรือไม่ และจะเชิญพยานแวดล้อมที่ปรากฏในกล้องวงจรปิดมาสอบปากคำด้วย
“ขณะนี้สิ่งที่ต้องการทราบคือผู้ตายเป็นใคร จึงอยากฝากสื่อมวลชนช่วยลงภาพใบหน้าของผู้ตาย เพราะอาจจะมีญาติของผู้ตายพบเห็นและมาติดต่อแจ้งความ นอกจากนี้จะประสานไปยังท้องที่ใกล้เคียงที่มีชาวต่างชาติพักอาศัยอยู่จำนวนมาก เช่น สน.ชนะสงคราม ว่า มีการแจ้งความบุคคลหายไว้หรือไม่ หากทราบว่าผู้ตายเป็นใครก็จะสามารถติดต่อญาติมาสอบปากคำเพื่อคลี่คลายคดีต่อไป” พ.ต.อ.ชวลิต กล่าว
ช่วงค่ำวันเดียวกัน พ.ต.ท.อัชรัตน์ เหมทานนท์ เจ้าของคดี เปิดเผยภายหลังประชุมร่วมกับ พ.ต.ต.วัฒนา ลังกาทรง สว.สส.สน.บวรมงคล พร้อมแพทย์ และเจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐาน ว่าที่ประชุมยืนยันว่าผู้ตายเป็นชาวยุโรป ถูกฆ่ามาจากที่อื่น โดยผู้สังหารจัดได้ว่าเป็น นักฆ่าชั้นเยี่ยม มีความชำนาญในการใช้มีด เพราะกระดูกต้นคอถูกตัดขาดจากกันแบบทีเดียวขาด อีกทั้งยังมีความช่ำชองในเรื่องของการใช้เงื่อน เพราะคนร้ายสามารถนำเชือกร่มที่มีขนาดเท่านิ้วก้อยมาผูกกับหนังและเนื้อเยื่อส่วนคอที่จงใจเหลือไว้โดยไม่ร่วงหล่นลงแม่น้ำ มั่นใจได้ ว่าเป็นการสังหารและนำมาประจานอย่างแท้จริง คาดว่าคนร้ายอาจเกิดความแค้นหรือผู้ตายไปหักหลังกับกลุ่มคนร้ายองค์กรใดองค์กรหนึ่ง เหมือนบ่งบอกให้กลุ่มผู้ตาย รับทราบ อย่างไรก็ตาม ได้ให้ฝ่ายสืบสวนประสานไปยัง ตำรวจท่องเที่ยว ตม. และกองการต่างประเทศแล้วเพื่อสืบหาว่าผู้ตายเป็นใคร
วันนี้ (22 ก.พ.) เมื่อเวลา 14.00 น.พ.ต.ท.อัชรัตน์ เหมทานนท์ พนักงานสอบสวน (สบ3) สน.บวรมงคล ได้รับแจ้งเหตุพบศีรษะมนุษย์ผูกห้อยติดอยู่ที่บริเวณสะพานพระราม 8 แขวงวัดสามพระยา เขตพระนคร กทม.จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.ชวลิต ประสพศิลป รอง ผบก.น.7 แพทย์ รพ.ศิริราช เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุอยู่บนสะพานพระราม 8 พบเชือกร่มสีขาวผูกติดอยู่กับราวสะพาน ยาวลงไปด้านล่างสะพานประมาณ 5 เมตร โดยมีศีรษะมนุษย์ห้อยติดอยู่ที่ปลายเชือกยื่นลงไปในแม่น้ำ ส่วนลำตัวหายไป มีรอยเลือดสาดกระเซ็นติดที่ด้านข้างสะพานจำนวนมาก จากการตรวจสอบพบว่าผู้ตายเป็นชายชาวต่างชาติ ไม่ทราบสัญชาติ อายุประมาณ 40 ปี ปมเชือกผูกติดกับหูด้านซ้าย มีถุงผ้าร่มสีขาว ยี่ห้อ puma ผูกติดไว้กับเชือกเหนือศีรษะผู้ตาย เบื้องต้นแพทย์สันนิษฐานว่า เสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 8 ชั่วโมงขึ้นไป บริเวณลำคอฉีกขาดตั้งแต่ลำคอจนถึงท้ายทอยคล้ายถูกของมีคม กระดูกต้นคอหลุดขาด ดวงตามีเลือดคั่ง นอกจากนี้ บนราวสะพานยังพบข้อความเขียนเป็นภาษาอังกฤษ จับใจความได้ว่า “ฉันต้องการแต่กลับไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการ” และ “ฉันมาที่นี่เพื่อพบคุณ” เจ้าหน้าที่จึงเก็บเอาไว้เป็นหลักฐาน
พ.ต.อ.ชวลิต กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบเพียงส่วนศีรษะ ซึ่งดูจากสภาพศพไม่น่าจะเป็นการฆ่าตัวตาย แต่จะต้องรอผลการผ่าพิสูจน์จากแพทย์อย่างละเอียดว่าบาดแผลบริเวณลำคอเป็นการฉีกขาดออกจากลำตัวหรือไม่หรือถูกตัดด้วยของมีคม ถ้าหากเป็นการฆ่าตัวตาย โดยการผูกคอตายก็จะต้องรอให้พบส่วนลำตัวด้วย หลังจากนี้จะประสานขอตรวจสอบภาพในกล้องวงจรปิดจากกรมโยธาที่ติดอยู่บนสะพาน ซึ่งมีด้วยกัน 2 จุด เป็นกล้องของกรมโยธา และ บก.02 เพื่อตรวจสอบว่าในระยะเวลา 8 ชั่วโมง มีอะไรที่ผิดปกติเกิดขึ้นบนสะพานหรือไม่ และจะเชิญพยานแวดล้อมที่ปรากฏในกล้องวงจรปิดมาสอบปากคำด้วย
“ขณะนี้สิ่งที่ต้องการทราบคือผู้ตายเป็นใคร จึงอยากฝากสื่อมวลชนช่วยลงภาพใบหน้าของผู้ตาย เพราะอาจจะมีญาติของผู้ตายพบเห็นและมาติดต่อแจ้งความ นอกจากนี้จะประสานไปยังท้องที่ใกล้เคียงที่มีชาวต่างชาติพักอาศัยอยู่จำนวนมาก เช่น สน.ชนะสงคราม ว่า มีการแจ้งความบุคคลหายไว้หรือไม่ หากทราบว่าผู้ตายเป็นใครก็จะสามารถติดต่อญาติมาสอบปากคำเพื่อคลี่คลายคดีต่อไป” พ.ต.อ.ชวลิต กล่าว
ช่วงค่ำวันเดียวกัน พ.ต.ท.อัชรัตน์ เหมทานนท์ เจ้าของคดี เปิดเผยภายหลังประชุมร่วมกับ พ.ต.ต.วัฒนา ลังกาทรง สว.สส.สน.บวรมงคล พร้อมแพทย์ และเจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐาน ว่าที่ประชุมยืนยันว่าผู้ตายเป็นชาวยุโรป ถูกฆ่ามาจากที่อื่น โดยผู้สังหารจัดได้ว่าเป็น นักฆ่าชั้นเยี่ยม มีความชำนาญในการใช้มีด เพราะกระดูกต้นคอถูกตัดขาดจากกันแบบทีเดียวขาด อีกทั้งยังมีความช่ำชองในเรื่องของการใช้เงื่อน เพราะคนร้ายสามารถนำเชือกร่มที่มีขนาดเท่านิ้วก้อยมาผูกกับหนังและเนื้อเยื่อส่วนคอที่จงใจเหลือไว้โดยไม่ร่วงหล่นลงแม่น้ำ มั่นใจได้ ว่าเป็นการสังหารและนำมาประจานอย่างแท้จริง คาดว่าคนร้ายอาจเกิดความแค้นหรือผู้ตายไปหักหลังกับกลุ่มคนร้ายองค์กรใดองค์กรหนึ่ง เหมือนบ่งบอกให้กลุ่มผู้ตาย รับทราบ อย่างไรก็ตาม ได้ให้ฝ่ายสืบสวนประสานไปยัง ตำรวจท่องเที่ยว ตม. และกองการต่างประเทศแล้วเพื่อสืบหาว่าผู้ตายเป็นใคร