หนุ่มนิรนามอุ้มลูกสาววัย 5 ขวบมาฝากไว้กับผู้โดยสารที่นอนรอขึ้นรถไฟในหัวลำโพงแล้วอ้างว่าจะไปซื้อน้ำ ก่อนหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย เวลาผ่านไปกว่า 2 ชั่วโมง ปรากฎว่าเด็กเสียชีวิตอย่างไม่ทราบสาเหตุ ต้องส่งให้นิติเวชชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง
เมื่อเวลา 02.00 น.วันนี้ (27 ก.พ.) พ.ต.ท.หญิง ศิริรัตน์ คงธนะจิรกุล พนักงานสอบสวน (สบ 3) ส.รฟ.นพวงศ์ รับแจ้งเหตุพบศพเด็กหญิงบริเวณประตูทางเข้าสถานีรถไฟหัวลำโพง แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน จึงรถไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณประตูทางเข้าสถานีรถไฟ เจ้าหน้าที่พบศพเด็กหญิงไม่ทราบชื่อ อายุประมาณ 5 ปี สภาพศพนอนหงายอยู่บนพื้น สวมเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีชมพูลายการ์ตูน นุ่งกางเกงขาสั้นสีเขียว ตรวจสอบตามร่างกายไม่พบบาดแผลการถูกทำร้ายแต่อย่างใด จึงนำศพส่งสถาบันนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ เพื่อชันสูตรหาสาเหตุการตายอย่างละเอียดอีกครั้ง
จากการสอบสวนนางอุราวรรณ โคตรชมพู อายุ 30 ปี ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนกำลังนอพักผ่อนอยู่ที่บริเวณจุดเกิดเหตุ เพื่อรอขึ้นรถไฟเที่ยว 14.00 น.วันนี้ ระหว่างนั้นก็ได้มีชายคนหนึ่ง จำได้แต่นุ่งกางเกงขายาวสีดำ อุ้มเด็กหญิงคนดังกล่าวเดินเข้ามาหาตนโดยมีพลาสติกปูรองนั่งห่อตัวอยู่ จากนั้นชายคนดังกล่าวก็วางเด็กลงที่พื้น แล้วบอกตนว่าจะไปซื้อน้ำให้เด็กดื่ม ให้ตนช่วยดูแลเด็กด้วย แล้วก็หยิบผ้าเช็ดหน้าลูก ก่อนจะหอมแก้มเด็กแล้วเดินออกไป
นางอุราวรรณ กล่าวต่อว่า ตนก็ไม่ได้สนใจอะไรเห็นเพราะเด็กนอนหลับอยู่โดยมีผ้าขนหนูปิดหน้าเอาไว้ แต่หลังจากเวลาผ่านไปประมาณ 2 ชั่วโมงก็เริ่มเอะใจ เพราะชายคนดังกล่าวยังไม่กลับมา อีกทั้งเด็กก็ไม่ขยับตัวแม้แต่นิดเดียว ตนจึงลุกไปเอาผ้าขนหนูออกจากหน้าเพราะกลัวว่าเด็กจะหายใจไม่ออก แต่พบว่าเด็กเริ่มตัวเขียวแล้ว เลยรีบเรียกคนบริเวณนั้นมาช่วยกันดู ปรากฏว่าเด็กเสียชีวิตแล้ว จึงแจ้งตำรวจ
ด้าน พ.ต.ท.หญิง ศิริรัตน์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบตามร่างกายผู้ตาย เบื้องต้นไม่พบร่องรอยการถูกทำร้ายหรือข่มขืนแต่อย่างใด จึงต้องนำศพส่งสถาบันนิติเวชเพื่อชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตอีกครั้งหนึ่ง พร้อมทั้งจะประสานให้ฝ่ายสืบสวนติดตามหาตัวชายคนที่นำเด็กมาฝากไว้กับพยานมาสอบปากคำต่อไป ส่วนกล้องวงจรปิดที่อยู่ตรงบริเวณที่เกิดเหตุนั้นใช้การไม่ได้