ลำตัวเจ้าของศีรษะที่ห้อยอยู่กลางสะพานพระราม 8 โผล่ขึ้นมากลางแม่น้ำ ตรงบริเวณเดียวกับที่พบศีรษะ แต่ไม่พบหลักฐานว่าเป็นใครมาจากไหน ขณะที่ตำรวจคุยกับแพทย์นิติเวช พบผิวหนังบริเวณลำคอด้านนอกไม่สามารถยืนยันได้ว่า เกิดจากของมีคม อีกทั้งเส้นเลือดแต่ละเส้นที่ขาดนั้นไม่เท่ากัน เป็นไปได้ว่าผู้ตายผูกคอแล้วทิ้งตัวดิ่งจากสะพานลงแม่น้ำ แรงกระแทกทำให้เชือกรัดลำคอจนขาด เลือดกระเซ็นเปรอะขอบสะพาน ขณะที่สถานทูตรัสเซียเชื่อเป็นคนหลังม่านเหล็ก
วันนี้ (23 ก.พ.) เมื่อเวลา 12.00 น.พ.ต.อ.พรศักดิ์ สุรสิทธิ์ ผกก.1 ป.พ.ต.ท.ธีระเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผกก.1 ป.นำกำลังตำรวจกองปราบปราม เข้าตรวจสอบบริเวณด้านบนสะพานพระราม 8 สถานที่พบศีรษะฝรั่งชาวต่างชาติผูกกับเชือกที่บริเวณกลางสะพาน โดยหลังจากตรวจสอบที่เกิดเหตุอยู่จนถึงเวลาประมาณ 14.00 น. มีผู้แจ้งว่าพบศพผู้เสียชีวิตซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นร่างของเจ้าของศีรษะ โดยช่วงลำตัวลอยโผล่ขึ้นมาบริเวณกลางแม่น้ำ พ.ต.อ.พรศักดิ์ จึงประสานให้ สน.บวรมงคล เจ้าของพื้นที่ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู ลากศพไปยังบริเวณริมตลิ่งแม่น้ำฝั่งธนบุรี โดยเบื้องต้นพบว่ามีแต่ลำตัวไม่มีศีรษะ ส่วนแขนและขาครบ ในสภาพสวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาว สวมกางเกงขายาวลายจุด สีดำ และสวมรองเท้าผ้าใบยี่ห้ออาดิดาส
ต่อมา พ.ต.อ.สุธีร์ เนรกัณฐี และ พ.ต.อ.ชวลิต ประสบศิลป์ รอง ผบก.น.7 พร้อมเจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐาน รุดไปตรวจสอบสภาพศพดังกล่าว โดยภายในศพผู้ตายไม่พบหลักฐานว่าเป็นใครจากไหน มีเพียงผ้าเช็ดหน้าสีขาว 1 ผืน และกล่องไม้ขีดไฟตราพญานาค 1 กล่อง
พ.ต.อ.ชวลิต กล่าวว่า หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองปราบปราม มาตรวจสอบที่เกิดเหตุ และพบศพช่วงลำตัวลอยของศพขึ้นมา อยู่บริเวณจุดเดียวกับที่พบส่วนหัว ตำรวจสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นศพเดียวกัน โดยอาจเป็นไปได้ว่าช่วงที่ศพตกลงไปอาจถูกพัดไปบริเวณอื่นก่อน จากนั้นจึงพัดกลับมายังบริเวณจุดเกิดเหตุ แต่ทั้งนี้ต้องรอให้แพทย์นิติเวชจากโรงพยาบาลศิริราช มาตรวจสอบอีกครั้งว่าใช่ส่วนลำตัวของผู้ตายหรือไม่
พ.ต.อ.ชวลิต กล่าวต่อว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาได้ไปคุยกับแพทย์นิติเวช โรงพยาบาลศิริราชมา ทราบว่า หลังจากตรวจศีรษะของผู้ตายแล้วแพทย์พบว่าบริเวณผิวหนังด้านนอกช่วงลำคอ ยังไม่สามารถยืนยันได้ชัดเจนว่าเกิดจากของมีคมจึงทำให้ต้องตรวจสอบบริเวณหลอดเลือดช่วงลำคอ ซึ่งมีอยู่จำนวนมากอีกครั้ง
“จากการตรวจสอบเส้นเลือดต่างๆ แต่ละเส้น พบว่าแต่ละเส้นนั้นขาดไม่เท่ากัน เหมือนขาดออกจากศีรษะด้วยการกระแทก หรือการทิ้งตัวลงมาอย่างแรง จึงอาจเป็นไปได้ว่าช่วงที่ผู้ตายทิ้งตัวลงมาอาจจะยังมีชีวิตอยู่ แต่ด้วยความแรงทำให้เชือกที่รัดคออยู่บีบลำคอจนขาด จึงทำให้เลือดกระเด็นไปติดอยู่ที่สะพาน ก่อนจะทำให้ร่างหล่นลงไปในน้ำ” พ.ต.อ.ชวลิต กล่าว
พ.ต.อ.ชวลิต กล่าวต่อว่า ส่วนถุงผ้าที่พบติดอยู่ศีรษะของผู้ตายนั้น อีกด้านเขียนเป็นข้อความภาษาอังกฤษ เมื่อตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นชื่อของโรงแรมในเมืองเจนัว ประเทศอิตาลี แต่ยังไม่ทราบว่าจะมีความเกี่ยวข้องอย่างไรก็ผู้ตาย ซึ่งจะได้ประสานไปยังสถานทูตต่างๆ ให้มาตรวจสอบอีกครั้งว่าใช่คนของประเทศตัวเองอีกหรือไม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเช้าที่ สน.บวรมงคล มีเจ้าหน้าที่จากสถานทูตรัสเซียประจำประเทศไทย เดินทางเข้าติดต่อที่โรงพักเนื่องจากสงสัยว่าผู้ตายอาจเป็นคนของประเทศรัสเซีย เพราะบริเวณโครงหน้า เบ้าตา และดั้งจมูก ไม่เหมือนชาวยุโรปทั่วไป โดยทางเจ้าหน้าที่สถานทูตรัสเซียดังกล่าวมีความเชื่อมั่นถึง 90 เปอร์เซ็นต์ ว่าผู้ตายเป็นคนของประเทศรัสเซีย
ต่อมา เมื่อเวลา 16.00 น. แพทย์นิติเวช จากโรงพยาบาลศิริราช เดินทางมาชันสูตรพลิกศพ โดยเบื้องต้นระบุว่า ลำตัวที่พบเสียชีวิตมาไม่เกิน 24 ชม.และต้องสันนิษฐานไว้ก่อนว่าลำตัวที่พบในวันนี้เป็นคนละเคสกับการพบส่วนศีรษะเมื่อวาน (22 ก.พ.) ซึ่งหลังจากนี้จะนำส่วนศีรษะและลำตัวที่พบไปตรวจสอบหาดีเอ็นเอก่อนว่าทั้งส่วนหัวและลำตัวมีดีเอ็นเอตรงกันหรือไม่ หากดีเอ็นดีตรงกันจึงค่อยตรวจสอบที่ลำคอของศีรษะกับส่วนลำตัวว่าขาดออกจากกันเพราะอะไร เพราะเชือกหรือถูกของมีคมบาดต่อไป
ในวันเดียวกัน ที่กองปราบปราม พล.ต.ต.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ผบก.ป.กล่าวถึงกรณีพบศีรษะชายชาวต่างชาติถูกผูกห้อยติดอยู่ที่บริเวณสะพานพระราม 8 แขวงวัดสามพระยา เขตพระนคร กทม. เมื่อวานนี้ (22 ก.พ.) ว่าหลังเกิดเหตุได้สั่งการให้ พ.ต.อ.พรศักดิ์ สุรสิทธิ์ ผกก.1 บก.ป.และ พ.ต.ท.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ช่วยราชการ รอง ผกก.1บก.ป.พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนเข้าร่วมคลี่คลายคลายคดีกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนสอบสวนนครบาล 7 เนื่องจากคดีดังกล่าวเป็นคดีสะเทือนขวัญและกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศเป็นอย่างมาก อีกทั้งไม่กี่วันจะมีงานการประชุมสุดยอดอาเซียน หรือ “ASEAN SUMMIT” ครั้งที่ 14 ซึ่งไทยเป็นเจ้าภาพในการจัดประชุมที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์
ด้าน พ.ต.อ.พรศักดิ์ กล่าวว่า ตนพร้อมกับ พ.ต.ท.ธีรเดช ได้ลงพื้นที่เก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุเพิ่มเติม โดยระหว่างที่เก็บหลักฐานอยู่นั้นเจ้าหน้าที่ได้พบร่างผู้เสียชีวิตลอยอยู่ในแม่น้ำเจ้าพระยาในบริเวณที่พบศีรษะ ซึ่งการตรวจสอบร่างผู้เสียชีวิตพบเพียงกล่องไม้ขีดไฟตราพญานาคเท่านั้น โดยไม่พบหลักฐานอื่นที่จะระบุได้ว่าผู้เสียชีวิตเป็นใครมาจากไหน นอกจากนี้ตามร่างกายก็ไม่พบบาดแผลอื่น ๆ คงต้องรอผลการชันสูตรศพนำผลตรวจดีเอ็นเอไปเปรียบเทียบกับส่วนศีรษะ นอกจากนี้จะต้องรอผลตรวจบาดแผลระหว่าลำตัวกับศีรษะอีกด้วยว่าเกิดจากเชือกเส้นเดียวกันด้วยหรือไม่ ส่วนจะเป็นการฆาตกรรมหรือเป็นการฆ่าตัวตายนั้นเบื้องต้นยังไม่สามารถระบุได้แน่ชัด
พ.ต.อ.พรศักดิ์ กล่าวต่อว่า สำหรับการติดตามสืบหาว่าผู้เสียชีวิตเป็นใครนั้นขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ แต่เราได้ประสานกับเจ้าหน้าที่สถานทูตหลายประเทศ โดยเฉพาะประเทศแถบยุโรปตะวันออก เนื่องจากรูปพรรณสัณฐานของผู้เสียชีวิตคล้ายกับชาวยุโรปตะวันออก นอกจากนี้ได้นำเสื้อผ้าของผู้เสียชีวิตไปใช้เป็นเบาะแสอีกช่องทางหนึ่งในการสืบหาว่าผู้เสียชีวิตเป็นใคร
ตร.เผยหัวฝรั่งถูกบั่นฉับเดียวขาด-แพร่ภาพใบหน้าหาเบาะแสทั่วกรุง
“สุเทพ” สั่งเร่งคดีฆ่าตัดหัวฝรั่ง เน้นกลุ่มอิทธิพลทั้งในและต่างประเทศ
สยองกลางกรุง! พบหัวชาวต่างชาติห้อยติดกลางสะพานพระราม 8
วันนี้ (23 ก.พ.) เมื่อเวลา 12.00 น.พ.ต.อ.พรศักดิ์ สุรสิทธิ์ ผกก.1 ป.พ.ต.ท.ธีระเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผกก.1 ป.นำกำลังตำรวจกองปราบปราม เข้าตรวจสอบบริเวณด้านบนสะพานพระราม 8 สถานที่พบศีรษะฝรั่งชาวต่างชาติผูกกับเชือกที่บริเวณกลางสะพาน โดยหลังจากตรวจสอบที่เกิดเหตุอยู่จนถึงเวลาประมาณ 14.00 น. มีผู้แจ้งว่าพบศพผู้เสียชีวิตซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นร่างของเจ้าของศีรษะ โดยช่วงลำตัวลอยโผล่ขึ้นมาบริเวณกลางแม่น้ำ พ.ต.อ.พรศักดิ์ จึงประสานให้ สน.บวรมงคล เจ้าของพื้นที่ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู ลากศพไปยังบริเวณริมตลิ่งแม่น้ำฝั่งธนบุรี โดยเบื้องต้นพบว่ามีแต่ลำตัวไม่มีศีรษะ ส่วนแขนและขาครบ ในสภาพสวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาว สวมกางเกงขายาวลายจุด สีดำ และสวมรองเท้าผ้าใบยี่ห้ออาดิดาส
ต่อมา พ.ต.อ.สุธีร์ เนรกัณฐี และ พ.ต.อ.ชวลิต ประสบศิลป์ รอง ผบก.น.7 พร้อมเจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐาน รุดไปตรวจสอบสภาพศพดังกล่าว โดยภายในศพผู้ตายไม่พบหลักฐานว่าเป็นใครจากไหน มีเพียงผ้าเช็ดหน้าสีขาว 1 ผืน และกล่องไม้ขีดไฟตราพญานาค 1 กล่อง
พ.ต.อ.ชวลิต กล่าวว่า หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองปราบปราม มาตรวจสอบที่เกิดเหตุ และพบศพช่วงลำตัวลอยของศพขึ้นมา อยู่บริเวณจุดเดียวกับที่พบส่วนหัว ตำรวจสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นศพเดียวกัน โดยอาจเป็นไปได้ว่าช่วงที่ศพตกลงไปอาจถูกพัดไปบริเวณอื่นก่อน จากนั้นจึงพัดกลับมายังบริเวณจุดเกิดเหตุ แต่ทั้งนี้ต้องรอให้แพทย์นิติเวชจากโรงพยาบาลศิริราช มาตรวจสอบอีกครั้งว่าใช่ส่วนลำตัวของผู้ตายหรือไม่
พ.ต.อ.ชวลิต กล่าวต่อว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาได้ไปคุยกับแพทย์นิติเวช โรงพยาบาลศิริราชมา ทราบว่า หลังจากตรวจศีรษะของผู้ตายแล้วแพทย์พบว่าบริเวณผิวหนังด้านนอกช่วงลำคอ ยังไม่สามารถยืนยันได้ชัดเจนว่าเกิดจากของมีคมจึงทำให้ต้องตรวจสอบบริเวณหลอดเลือดช่วงลำคอ ซึ่งมีอยู่จำนวนมากอีกครั้ง
“จากการตรวจสอบเส้นเลือดต่างๆ แต่ละเส้น พบว่าแต่ละเส้นนั้นขาดไม่เท่ากัน เหมือนขาดออกจากศีรษะด้วยการกระแทก หรือการทิ้งตัวลงมาอย่างแรง จึงอาจเป็นไปได้ว่าช่วงที่ผู้ตายทิ้งตัวลงมาอาจจะยังมีชีวิตอยู่ แต่ด้วยความแรงทำให้เชือกที่รัดคออยู่บีบลำคอจนขาด จึงทำให้เลือดกระเด็นไปติดอยู่ที่สะพาน ก่อนจะทำให้ร่างหล่นลงไปในน้ำ” พ.ต.อ.ชวลิต กล่าว
พ.ต.อ.ชวลิต กล่าวต่อว่า ส่วนถุงผ้าที่พบติดอยู่ศีรษะของผู้ตายนั้น อีกด้านเขียนเป็นข้อความภาษาอังกฤษ เมื่อตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นชื่อของโรงแรมในเมืองเจนัว ประเทศอิตาลี แต่ยังไม่ทราบว่าจะมีความเกี่ยวข้องอย่างไรก็ผู้ตาย ซึ่งจะได้ประสานไปยังสถานทูตต่างๆ ให้มาตรวจสอบอีกครั้งว่าใช่คนของประเทศตัวเองอีกหรือไม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเช้าที่ สน.บวรมงคล มีเจ้าหน้าที่จากสถานทูตรัสเซียประจำประเทศไทย เดินทางเข้าติดต่อที่โรงพักเนื่องจากสงสัยว่าผู้ตายอาจเป็นคนของประเทศรัสเซีย เพราะบริเวณโครงหน้า เบ้าตา และดั้งจมูก ไม่เหมือนชาวยุโรปทั่วไป โดยทางเจ้าหน้าที่สถานทูตรัสเซียดังกล่าวมีความเชื่อมั่นถึง 90 เปอร์เซ็นต์ ว่าผู้ตายเป็นคนของประเทศรัสเซีย
ต่อมา เมื่อเวลา 16.00 น. แพทย์นิติเวช จากโรงพยาบาลศิริราช เดินทางมาชันสูตรพลิกศพ โดยเบื้องต้นระบุว่า ลำตัวที่พบเสียชีวิตมาไม่เกิน 24 ชม.และต้องสันนิษฐานไว้ก่อนว่าลำตัวที่พบในวันนี้เป็นคนละเคสกับการพบส่วนศีรษะเมื่อวาน (22 ก.พ.) ซึ่งหลังจากนี้จะนำส่วนศีรษะและลำตัวที่พบไปตรวจสอบหาดีเอ็นเอก่อนว่าทั้งส่วนหัวและลำตัวมีดีเอ็นเอตรงกันหรือไม่ หากดีเอ็นดีตรงกันจึงค่อยตรวจสอบที่ลำคอของศีรษะกับส่วนลำตัวว่าขาดออกจากกันเพราะอะไร เพราะเชือกหรือถูกของมีคมบาดต่อไป
ในวันเดียวกัน ที่กองปราบปราม พล.ต.ต.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ผบก.ป.กล่าวถึงกรณีพบศีรษะชายชาวต่างชาติถูกผูกห้อยติดอยู่ที่บริเวณสะพานพระราม 8 แขวงวัดสามพระยา เขตพระนคร กทม. เมื่อวานนี้ (22 ก.พ.) ว่าหลังเกิดเหตุได้สั่งการให้ พ.ต.อ.พรศักดิ์ สุรสิทธิ์ ผกก.1 บก.ป.และ พ.ต.ท.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ช่วยราชการ รอง ผกก.1บก.ป.พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนเข้าร่วมคลี่คลายคลายคดีกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนสอบสวนนครบาล 7 เนื่องจากคดีดังกล่าวเป็นคดีสะเทือนขวัญและกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศเป็นอย่างมาก อีกทั้งไม่กี่วันจะมีงานการประชุมสุดยอดอาเซียน หรือ “ASEAN SUMMIT” ครั้งที่ 14 ซึ่งไทยเป็นเจ้าภาพในการจัดประชุมที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์
ด้าน พ.ต.อ.พรศักดิ์ กล่าวว่า ตนพร้อมกับ พ.ต.ท.ธีรเดช ได้ลงพื้นที่เก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุเพิ่มเติม โดยระหว่างที่เก็บหลักฐานอยู่นั้นเจ้าหน้าที่ได้พบร่างผู้เสียชีวิตลอยอยู่ในแม่น้ำเจ้าพระยาในบริเวณที่พบศีรษะ ซึ่งการตรวจสอบร่างผู้เสียชีวิตพบเพียงกล่องไม้ขีดไฟตราพญานาคเท่านั้น โดยไม่พบหลักฐานอื่นที่จะระบุได้ว่าผู้เสียชีวิตเป็นใครมาจากไหน นอกจากนี้ตามร่างกายก็ไม่พบบาดแผลอื่น ๆ คงต้องรอผลการชันสูตรศพนำผลตรวจดีเอ็นเอไปเปรียบเทียบกับส่วนศีรษะ นอกจากนี้จะต้องรอผลตรวจบาดแผลระหว่าลำตัวกับศีรษะอีกด้วยว่าเกิดจากเชือกเส้นเดียวกันด้วยหรือไม่ ส่วนจะเป็นการฆาตกรรมหรือเป็นการฆ่าตัวตายนั้นเบื้องต้นยังไม่สามารถระบุได้แน่ชัด
พ.ต.อ.พรศักดิ์ กล่าวต่อว่า สำหรับการติดตามสืบหาว่าผู้เสียชีวิตเป็นใครนั้นขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ แต่เราได้ประสานกับเจ้าหน้าที่สถานทูตหลายประเทศ โดยเฉพาะประเทศแถบยุโรปตะวันออก เนื่องจากรูปพรรณสัณฐานของผู้เสียชีวิตคล้ายกับชาวยุโรปตะวันออก นอกจากนี้ได้นำเสื้อผ้าของผู้เสียชีวิตไปใช้เป็นเบาะแสอีกช่องทางหนึ่งในการสืบหาว่าผู้เสียชีวิตเป็นใคร
ตร.เผยหัวฝรั่งถูกบั่นฉับเดียวขาด-แพร่ภาพใบหน้าหาเบาะแสทั่วกรุง
“สุเทพ” สั่งเร่งคดีฆ่าตัดหัวฝรั่ง เน้นกลุ่มอิทธิพลทั้งในและต่างประเทศ
สยองกลางกรุง! พบหัวชาวต่างชาติห้อยติดกลางสะพานพระราม 8