บก.น.4 แถลงผลจับโจ๋ขี้ยาซิ่ง จยย.ร่วมกับคู่หูตระเวนกระชากกระเป๋าเหยื่อ รับทำมาแล้ว 15 ครั้ง ได้ของมานำขายหาเงินซื้อยาบ้าเสพ พร้อมกันนี้ ได้รวบผู้ต้องหาจี้ชิงทรัพย์ร้านสะดวกซื้อ ปากซอยลาดพร้าว 30 จากการแกะรอยภาพจากกล้องวงจรปิด และจับแรงงานต่างด้าวหนีเข้าเมืองอีกเพียบ
วันนี้ (18 ก.พ.) เมื่อเวลา 10.00 น.ที่ บก.น.4 พล.ต.ต.วิมล เปาอินทร์ ผบก.น.4 พ.ต.อ.มันทาร อภัยวงศ์ พ.ต.อ.พชร บุญญสิทธิ์ พ.ต.อ.อาณัติ เกล็ดมณี รอง ผบก.น.4 พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัด บก.น.4 แถลงข่าวจับกุม นายสุรพล แสงจันทร์ อายุ 18 ปี พร้อมของกลางกระเป๋าถือสตรี ยี่ห้อแบรนด์เนมต่างๆ จำนวนกว่า 40 ใบ โทรศัพท์มือถือจำนวนหลายสิบเครื่อง
พล.ต.ต.วิมล กล่าวต่อว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากวานนี้ (17 ก.พ.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สืบสวน บก.น.4 ได้เข้าตรวจค้นยาเสพติดในอาคารฟ้าประทานอพาร์ตเม้นต์ ซอยลาดพร้าว 107 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ พบผู้ต้องหายืนอยู่หน้าห้องพักชั้น 2 ท่าทางมีพิรุธคล้ายคนติดยา เจ้าหน้าที่จึงขอเข้าตรวจค้นห้องก็พบของกลางดังกล่าวจำนวนมากซุกซ่อนอยู่ในห้อง จึงคุมตัวมาสอบปากคำจนยอมรับสารภาพ ว่า เป็นทรัพย์สินของผู้เสียหายที่ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์
จากการสอบสวน นายสุรพล ให้การว่า ตนร่วมมือกับ นายภูวดล ไข่ระย้า อายุ 18 ปี เพื่อนสนิท ออกตระเวนใช้รถ จยย.ยามาฮ่า มีโอ สีขาว วิ่งราวทรัพย์ผู้เสียหายตามสถานที่ต่างๆ ในกทม.โดยจะเน้นในย่านดินแดง ซึ่งทำมาแล้วประมาณ 15 ครั้ง โดยทุกครั้งตนจะเป็นคนขี่รถตระเวนหาเหยื่อ โดยมี นายภูวดล ซ้อนท้าย เมื่อพบเจอเหยื่อที่เป็นผู้หญิงก็จะจอดรถให้นายภูดล ลงไปกระชากกระเป๋ามา แล้วหลบหนีไป จากนั้นก็จะนำทรัพย์สินของผู้เสียหายไปขายเพื่อหาเงินมาแบ่งกันเสพยาบ้า
พล.ต.ต.วิมล กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.วังทองหลาว ได้จับกุม นายพงศ์พิเชฐ หรือ อาท บุญยิ่ง อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 85 ซอยลาดพร้าว 96 แขวงและเขตวังทองหลาง ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาเลขที่ 343/2552 ลงวันที่ 17 ก.พ.2552 ในข้อหา ร่วมกันชิงทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยมีอาวุธ และใช้ยานพาหนะ หลังจากนั้น เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 25 ม.ค.2552 ผู้ต้องหาได้ร่วมมือกับ นายเล่ห์ ไม่ทราบนามสกุล ใช้อาวุธมีดเข้าจี้ชิงทรัพย์ร้านแฟมิลี่มาร์ท ปากซอยลาดพร้าว 30 แขวงและเขตวังทองหลาง ได้เงินสด 1,000 บาท และบุหรี่ 1 ซอง โดยกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพผู้ต้องหาเอาไว้ได้ เจ้าหน้าที่จึงรวบรวมหลักฐาน ก่อนขออนุมัตหมายจับจากศาล พร้อมเข้าจับกุมได้ที่บ้านพักของผู้ต้องหา
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจจากทุกโรงพักในพื้นที่ บก.น.4 ได้ระดมกวาดล้างแรงงานต่างด้าวตั้งแต่วันที่ 9 ก.พ.ถึงวันนี้ ก็สามารถจับกุมแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองได้ทั้งหมด 147 คน อีกด้วย
วันนี้ (18 ก.พ.) เมื่อเวลา 10.00 น.ที่ บก.น.4 พล.ต.ต.วิมล เปาอินทร์ ผบก.น.4 พ.ต.อ.มันทาร อภัยวงศ์ พ.ต.อ.พชร บุญญสิทธิ์ พ.ต.อ.อาณัติ เกล็ดมณี รอง ผบก.น.4 พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัด บก.น.4 แถลงข่าวจับกุม นายสุรพล แสงจันทร์ อายุ 18 ปี พร้อมของกลางกระเป๋าถือสตรี ยี่ห้อแบรนด์เนมต่างๆ จำนวนกว่า 40 ใบ โทรศัพท์มือถือจำนวนหลายสิบเครื่อง
พล.ต.ต.วิมล กล่าวต่อว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากวานนี้ (17 ก.พ.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สืบสวน บก.น.4 ได้เข้าตรวจค้นยาเสพติดในอาคารฟ้าประทานอพาร์ตเม้นต์ ซอยลาดพร้าว 107 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ พบผู้ต้องหายืนอยู่หน้าห้องพักชั้น 2 ท่าทางมีพิรุธคล้ายคนติดยา เจ้าหน้าที่จึงขอเข้าตรวจค้นห้องก็พบของกลางดังกล่าวจำนวนมากซุกซ่อนอยู่ในห้อง จึงคุมตัวมาสอบปากคำจนยอมรับสารภาพ ว่า เป็นทรัพย์สินของผู้เสียหายที่ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์
จากการสอบสวน นายสุรพล ให้การว่า ตนร่วมมือกับ นายภูวดล ไข่ระย้า อายุ 18 ปี เพื่อนสนิท ออกตระเวนใช้รถ จยย.ยามาฮ่า มีโอ สีขาว วิ่งราวทรัพย์ผู้เสียหายตามสถานที่ต่างๆ ในกทม.โดยจะเน้นในย่านดินแดง ซึ่งทำมาแล้วประมาณ 15 ครั้ง โดยทุกครั้งตนจะเป็นคนขี่รถตระเวนหาเหยื่อ โดยมี นายภูวดล ซ้อนท้าย เมื่อพบเจอเหยื่อที่เป็นผู้หญิงก็จะจอดรถให้นายภูดล ลงไปกระชากกระเป๋ามา แล้วหลบหนีไป จากนั้นก็จะนำทรัพย์สินของผู้เสียหายไปขายเพื่อหาเงินมาแบ่งกันเสพยาบ้า
พล.ต.ต.วิมล กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.วังทองหลาว ได้จับกุม นายพงศ์พิเชฐ หรือ อาท บุญยิ่ง อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 85 ซอยลาดพร้าว 96 แขวงและเขตวังทองหลาง ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาเลขที่ 343/2552 ลงวันที่ 17 ก.พ.2552 ในข้อหา ร่วมกันชิงทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยมีอาวุธ และใช้ยานพาหนะ หลังจากนั้น เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 25 ม.ค.2552 ผู้ต้องหาได้ร่วมมือกับ นายเล่ห์ ไม่ทราบนามสกุล ใช้อาวุธมีดเข้าจี้ชิงทรัพย์ร้านแฟมิลี่มาร์ท ปากซอยลาดพร้าว 30 แขวงและเขตวังทองหลาง ได้เงินสด 1,000 บาท และบุหรี่ 1 ซอง โดยกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพผู้ต้องหาเอาไว้ได้ เจ้าหน้าที่จึงรวบรวมหลักฐาน ก่อนขออนุมัตหมายจับจากศาล พร้อมเข้าจับกุมได้ที่บ้านพักของผู้ต้องหา
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจจากทุกโรงพักในพื้นที่ บก.น.4 ได้ระดมกวาดล้างแรงงานต่างด้าวตั้งแต่วันที่ 9 ก.พ.ถึงวันนี้ ก็สามารถจับกุมแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองได้ทั้งหมด 147 คน อีกด้วย
