xs
xsm
sm
md
lg

สาวลูกครึ่งปากีฯน้อยใจแม่ไม่อยากไปญี่ปุ่น ดิ่งตึกดับสยอง!

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

เจ้าหน้าที่นำศพน.ส.อัสมา กัฟฟาร์ อายุ 23 ปี ลูกครึ่งไทย-ปากีสถาน ส่งชันสูตรที่สถาบันนิติเวชวิทยา
สาวลูกครึ่งไทย-ปากีสถาน ลูกสาวเสี่ยร้านจิวเวลรี น้อยใจแม่บังคับให้ไปเที่ยวญี่ปุ่น ดิ่งตึกดับสยอง เผย เจ้าตัวเป็นโรคซึมเศร้า ก่อนเกิดมีปากเสียงกับแม่ ระบุ อยากอยู่ห้องคนเดียว

วันนี้ (17 ก.พ.) เมื่อเวลา 21.00 น. พ.ต.ท.ธนาวุฒิ ประเสริฐนู พนักงานสอบสวน (สบ 2) สน.พลับพลาไชย 2 รับแจ้งเหตุหญิงสาวพลัดตกจากที่สูง ที่โรงแรมสี่พระยาริเวอร์วิว แขวงตลาดน้อย เขตสัมพันธวงศ์ กทม.จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมแพทย์นิติเวช เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่มูลนิธิปอเต็กตึ๊ง

ที่เกิดเหตุบริเวณท่อระบายน้ำข้างสระว่ายน้ำ ชั้นที่ 7 พบศพ นางสาวอัสมา กัฟฟาร์ อายุ 23 ปี ลูกครึ่งไทย-ปากีสถาน อยู่บ้านเลขที่ 1179/39 ถนนเจริญกรุง แขวงสี่พระยา เขตบางรัก กทม.สวมเสื้อเชิ้ตคอปกลายสก็อตสีน้ำเงิน กางเกงขาสามส่วนลายสก็อตสีน้ำเงิน เสียชีวิตสภาพลำตัวผิดรูป ทะลุลงไปในท่อระบายน้ำ ศีรษะแตก มันสมองกระจายเต็มพื้น

จากการสอบสวนทราบว่า ผู้ตายพักอาศัยอยู่ที่ชั้น 25 ห้องพักเลขที่ 2513 กับพ่อชาวปากีสถาน ซึ่งเป็นนักธุรกิจค้าขายเพชรพลอยและจิวเวลรีในย่านดังกล่าว และแม่ชาวไทย โดยผู้ตายไม่ได้เรียนหนังสือ และทำงานแต่อย่างใด เนื่องจากมีโรคประจำตัว คือ โรคซึมเศร้า ก่อนเกิดเหตุได้มีปากเสียงกับแม่ เนื่องจากแม่ต้องการพาไปเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่น แต่ผู้ตายไม่อยากไป อยากอยู่ห้องพักเพียงลำพัง จึงทำให้ผู้ตายตัดสินใจกระโดดลงมาฆ่าตัวตายในที่สุด

เบื้องต้นสันนิษฐานว่า ผู้ตายน่าจะน้อยใจผู้เป็นแม่ที่บังคับจะพาไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่น ประกอบกับผู้ตายมีโรคซึมเศร้าอยู่แล้ว จึงตัดสินใจประชดด้วยการกระโดดลงมาฆ่าตัวตาย อย่างไรก็ตาม ก็ได้ส่งศพไปทำการผ่าพิสูจน์ถึงสาเหตุการตายที่แท้จริงที่สถาบันนิติเวชวิทยา แต่เนื่องจากผู้ตายนับถือศาสนาอิสลาม จึงทำได้เพียงเจาะเลือดตรวจพิสูจน์ ก่อนมอบศพให้ญาติไปประกอบพิธีกรรมตามศาสนาต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น