xs
xsm
sm
md
lg

กองปราบฯ จับหนุ่มใหญ่นักฉกกล้องโยธามูลค่ากว่าล้าน

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

นายวชิระ ฝ่ายทะแสง อายุ 44 ปี ผู้ต้องหาลักทรัพย์
กองปราบปรามแกะรอยจากกล้องวงจรปิด จับผู้ต้องหาลักกล้องสำรวจ 10 ตัว เป็นเงินกว่า 1 ล้านบาท จากแผนกโยธา ม.ราชมงคลล้านนาวิทยาเขตพายัพ ส่งขายร้านกล้องมือสอง ประวัติเป็นขี้ขโมยตระเวนลักของหลวงอย่างโชกโชน ก่อเหตุเหตุมาแล้ว 8 ครั้ง แถมอยู่ระหว่างประกันตัวในชั้นอุทธรณ์ คดีลักทรัพย์ที่บุรีรัมย์

วันนี้ (17 ก.พ.) พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี ผกก.2 บก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.ต.ต่อศักดิ์ ปานกลิ่นพุฒ สว.กก.2 บก.ป. นำกำลังจับกุม นายวชิระ ฝ่ายทะแสง อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 87 หมู่ 9 ต.สามผง อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่ ที่ 447/2551 ลงวันที่ 21 กรกฎาคม 2551 ข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์สินโดยใช้ยานพาหนะในการกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป ยึดของกลาง คีมตัดเหล็ก 1 อัน และไขควง 2 อัน จับกุมได้ที่บ้านเลขที่ 142 ซอยทานสัมฤทธิ์ ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นนทบุรี

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 9 ก.พ.ที่ผ่านมา เวลา 02.30 น. นายวชิระได้ร่วมกับพวก 4 คน ก่อเหตุลักกล้องสำรวจ 10 ตัว มูลค่า 1,211,690 บาท ไปจากแผนกโยธา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนาวิทยาเขตพายัพ ก่อนจะนำไปขายที่ร้านซื้อ-ขายกล้องมือสอง จากนั้นจึงนำเงินมาแบ่งกัน ต่อมาทางตำรวจ สภ.ช้างเผือก จ.เชียงใหม่ ได้เข้าตรวจสอบกล้องวงจรปิดของมหาวิทยาลัยดังกล่าวซึ่งจับภาพผู้ต้องหาไว้ได้ จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหา ต่อมาชุดจับกุม กก.2 บก.ป.สืบทราบว่าผู้ต้องหาหลบหนีไปขายอาหารตามสั่งอยู่ที่บ้านพักใน ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นนทบุรี จึงจับกุมตัวไว้ได้

สอบสวนนายวิชระให้การรับสารภาพว่าก่อเหตุขโมยกล้องสำรวจตามสถานที่ราชการ เช่น สำนักงานที่ดินต่างๆ โดยจะดูลาดเลาก่อนทุกครั้ง จากนั้นจะนำไปขายเอาเงินมาแบ่งกัน โดยตนกับพวกที่หลบหนีก่อเหตุลักกล้องสำรวจมาแล้วหลายครั้งแต่รอดมาได้ กระทั่งย่ามใจบุกเข้าไป ขโมยกล้องในแผนกโยธา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา วิทยาเขตพายัพ แต่กล้องวงจรปิดจับไว้ได้กระทั่งเจ้าหน้าที่จับกุมดังกล่าว

จากการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหาพบว่า ได้ตระเวนก่อเหตุลักทรัพย์มาก่อนหน้านี้ถึง 8 ครั้ง ที่วิทยาลัยเทคนิคอุดรธานี, มหาวิทยาลัยราชมงคลวิทยาการจัดการโคราช, อาคารโรงงานที่ อ.เกาะคา จ.ลำปาง, อาคารก่อสร้างถนนพระราม 2, สำนักงานที่ดิน อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์, มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์, สำนักงานที่ดิน จ.บุรีรัมย์ และที่บริษัท สระบุรีคอนกรีต จ.ชลบุรี ได้กล้องสำรวจรวม 27 ตัว มูลค่ากว่า 8 ล้านบาท

สำหรับคดีที่สำนักงานที่ดิน จ.บุรีรัมย์ นั้น ผู้ต้องหาได้ถูกตำรวจ สภ.เมืองบุรีรัมย์ จับกุมดำเนินคดี ต่อมาเมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2551 ศาลจังหวัดบุรีรัมย์ได้พิพากษาลงโทษจำคุก 3 ปี แต่จำเลยได้รับการประกันตัวในระหว่างต่อสู้คดีในอุทธรณ์ ก่อนจะย้อนกลับมาร่วมกับพวกก่อเหตุซ้ำอีกที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา วิทยาเขตพายัพ และถูกจับกุมตัวไว้ในที่สุด โดยชุดจับกุม กก.2 บก.ป.ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.ช้างเผือก รับไว้ดำเนินคดีพร้อมกับเร่งขยายผลติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่เหลือต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น