xs
xsm
sm
md
lg

รวบอดีตฆาตกรควงโจ๋สาวซิ่งบีเอ็มฯ เหน็บปืนพกส่งยาบ้า!

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

พล.ต.ต.วรัญวัส การุณยธัช ผบก.น.8 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.บางมด แถลงข่าวผลการจับกุมผู้ต้องหาค้ายาบ้าและวิ่งราวทรัพย์ นายสุโรจน์ หรือ “โอ๋”ไหลงาม อายุ 31 ปี (เสื้อน้ำเงิน)นายสมชาติ หรือ “กอล์ฟ” คงวารี อายุ 25 ปี(เสื้อเขียว)
ตำรวจบางมดตั้งจุดตรวจค้น พบหนุ่มซิ่งบีเอ็มฯ ควงโจ๋สาว แต่พกปืนตุงเอว เมื่อค้นในรถพบยาบ้าจำนวนหนึ่ง พอค้นประวัติพบเคยเป็นฆาตกรฆ่าคนตายเลยรวบตัวดำเนินคดี อีกรายจับหนุ่มเบญจเพสซิ่ง จยย.กระชากสร้อยคอทองคำเหยื่อ

วันนี้ (11 ก.พ.) เมื่อเวลา 13.00 น. พล.ต.ต.วรัญวัส การุณยธัช ผบก.น.8 พ.ต.อ.จีรศักดิ์ ขำคง รอง ผบก.น.8 พ.ต.ท.พิพัฒน์ บุญเพ็ชร รอง ผกก.สส.สน.บางมด พ.ต.ท.ธวัชชัย ศรีสุรางค์ รอง ผกก.ปป.สน.บางมด พ.ต.ท.ชโลธร วัฒนะโชติ สว.สป.สน.บางมด พ.ต.ท.เกียรติชัย เกิดโชค สว.จร.สน.บางมด และ พ.ต.ต.ปรเมศว์ เมฆสั้น สว.สส.สน.บางมด ร่วมกันแถลงข่าวผลงานเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร จับกุม นายสุโรจน์ หรือโอ๋ ไหลงาม อายุ 31 ปี ชาว จ.สมุทรสาคร และ น.ส.มุก (นามสมมติ) อายุ 15 ปี ซึ่งเป็นแฟนสาว โดยสามารถจับกุมตัวทั้ง 2 ราย ได้ขณะพากันขับรถผ่านจุดสกัด-ตรวจค้นบริเวณถนนพระราม 2 (ปากซอย 1) แขวงบางมด เขตจอมทอง กทม.พร้อมด้วยของกลางยาบ้าจำนวน 5 ถุง รวม 1,000 เม็ด เงินสด จำนวน 9,700 บาท รถเก๋ง BMW สีเลือดหมู ทะเบียน ฉอ 5186 กรุงเทพมหานคร จำนวน 1 คัน อาวุธปืนออโตเมติก ยี่ห้อโคลต์ ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก พร้อมแมกกาซีน 2 อัน และเครื่องกระสุนปืนขนาดเดียวกันอีก 18 นัด

พล.ต.ต.วรัญวัส เปิดเผยว่า การจับกุมในครั้งนี้สืบเนื่องมาจากเมื่อเวลา 03.00 น.ที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สน.บางมด ได้ทำการตั้งจุดสกัด-ตรวจค้น และกวดขันวินัยจราจร อยู่ที่บริเวณดังกล่าวก็พบนายสุโรจน์ขับรถเก๋งพา น.ส.มุก นั่งมาด้วยกันที่เบาะด้านหน้าอย่างมีพิรุธ จึงได้โบกรถให้หยุดเพื่อขอตรวจค้น ปรากฏว่าพบอาวุธปืนขนาด .38 เหน็บอยู่ที่เอวนายสุโรจน์ ในสภาพขึ้นลำสไลด์พร้อมใช้งาน และพบยาบ้าจำนวน 5 ถุง ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าสีเหลืองซึ่ง น.ส.มุก เป็นคนถืออยู่ จึงควบคุมตัวทั้ง 2 รายไปสอบสวนที่ สน.บางมด

พล.ต.ต.วรัญวัส กล่าวต่อว่า จากการสอบสวนนายสุโรจน์ยอมรับสารภาพจนหมดเปลือกว่าไปรับยาบ้าดังกล่าวมาจากเอเยนต์ชื่อตั้ม ในซอยวัดคู่สร้าง พื้นที่ จ.สมุทปราการ และกำลังจะนำไปส่งให้ลูกค้าชื่อโท ที่ อ.กระทุ่งแบน จ.สมุทรสาคร ได้ค่าจ้างครั้งละ 10,000 บาท โดยรับจ้างส่งยาบ้าในลักษณะนี้มาเป็นเวลานาน 4 เดือนแล้ว จนสามารถใช้เงินสดซื้อรถเก๋ง BMW มือสองมาได้ในราคา 280,000 บาท ส่วนอาวุธปืนที่ตำรวจยึดได้เป็นปืนที่ซื้อมาจากเพื่อนในราคา 28,000 บาท และมีทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายแต่กำลังรอทำเรื่องโอนกรรมสิทธิ์กันอยู่ สำหรับเหตุผลที่หันมารับจ้างส่งยาบ้านั้นเป็นเพราะต้องหาเงินเลี้ยงลูกชายวัย 9 ขวบ และ ลูกชายวัย 5 เดือน ซึ่งเกิดกับภรรยาเก่าที่ จ.อ่างทอง

“จากการเช็กข้อมูลอย่างละเอียดยังทราบว่า นายสุโรจน์เคยถูกตำรวจ สน.อุดมสุข จับกุมพร้อมยาบ้าจำนวน 50 เม็ด และอาวุธปืนลูกโม่ยี่ห้อสมิทแอนด์เวสสัน ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก โดยถูกศาลสั่งจำคุก 4 ปี 6 เดือน และเพิ่งพ้นโทษออกมาได้เพียงปีเศษ นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 25 ก.ย.44 ยังเคยใช้อาวุธปืนขนาด .38 กระหน่ำยิงใส่นายตั้มไม่ทราบนามสกุล อายุ 27 ปี ถึง 6 นัด จนเสียชีวิตหลังเข้าไปทวงหนี้ค่ายาบ้าจำนวน 90,000 บาท จากเหยื่อกระสุนแล้วถูกปฏิเสธ จึงมีหมายจับคดีฆ่าผู้อื่นของศาลจังหวัดสมุทรปราการ ติดตัวอยู่อีก 1 คดีด้วย ซึ่งชุดจับกุมจะได้แจ้งข้อหาร่วมกันมียาบ้าเพื่อจำหน่ายต่อผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย และความผิดที่เกี่ยวกับ พ.ร.บ.อาวุธปืน ต่อนายสุโรจน์ ก่อนดำเนินคดีและส่งตัวให้พนักงานสอบสวนพื้นที่ สภ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ ดำเนินการตามหมายจับต่อไป” พล.ต.ต.วรัญวัส กล่าว

อีกรายเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน และฝ่ายสืบสวนปราบปราม สน.บางมด ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมตัว นายสมชาติ หรือกอล์ฟ คงวารี อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 79 ซอยโกวบ๊อ แขวงดาวคะนอง เขตธนบุรี กทม. พร้อมด้วยของกลางรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นคลิก สีชมพูคาดดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน 1 คัน หลังก่อเหตุร่วมกันกับพวกที่ยังหลบหนีวิ่งราวสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท พร้อมพระเลี่ยมทอง 1 องค์ จากคอ นางแก้วมณี วงศ์คำจันทร์ อายุ 43 ปี ซึ่งเป็นผู้เสียหายขณะกำลังเดินเข้าบ้านพักภายในซอยเลิศพัฒนาใต้ แขวงและเขตจอมทอง กทม. แล้วถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกับชาวบ้านร่วมกันจับกุมเอาไว้ได้

จากการสอบสวน นายสมชาติ ยอมรับสารภาพว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อเวลา 19.30 น.วานนี้ (10 ก.พ.) ตนพร้อมนายฐิติพงษ์ หรือเจ๋ง ศรียาวงศ์ เพื่อนที่รู้จักกันในวินมอเตอร์ไซค์ได้ไปยืมรถเพื่อนอีกคนหนึ่งมาตระเวนหาเหยื่อ โดยตนมีหน้าที่เป็นคนขับรถ ส่วนนายเจ๋งเป็นผู้ลงมือกระชากสร้อยของผู้เสียหาย หลังก่อเหตุตนกับนายเจ๋งถูกชาวบ้านและตำรวจช่วยกันตามจับกุม จึงตัดสินใจทิ้งรถแล้วแยกย้ายกันวิ่งหนีแต่ตนวิ่งไม่ทัน ถูกชาวบ้านช่วยกันรุมประชาทัณฑ์ ส่วนนายเจ๋งหลบหนีไปได้พร้อมสร้อยคอและพระเลี่ยมทองที่กระชากไปจากคอผู้เสียหายรายดังกล่าว

“ที่ผ่านมาผมกับนายเจ๋งไปยืมรถเพื่อนมาตระเวนก่อเหตุในลักษณะนี้แล้วหลายครั้ง โดยเพื่อนที่เป็นเจ้าของรถก็ทราบดีว่าผมมีภาระต้องเลี้ยงดูลูกๆ วัย 5 ขวบ 2 ขวบ และ 11 เดือน รวม 3 คน พอได้ทรัพย์สินมานายเจ๋ง ก็จะเอาไปขายตามตลาดมืด และนำเงินมาแบ่งให้ตนคนละครึ่ง ส่วนเพื่อนที่เป็นเจ้าของรถนั้นเป็นคนใจกว้างจึงไม่ได้คิดจะเอาส่วนแบ่งแต่อย่างใด” นายสมชาติ กล่าว

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันวิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป ต่อนายสมชาติ ก่อนส่งตัวให้ร้อยเวรเจ้าของคดีดำเนินการตามกฎหมาย ส่วนนายฐิติพงษ์ หรือเจ๋งจะรวบรวมหลักฐานไปขออำนาจศาลออกหมายจับก่อนติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น