ตำรวจ สน.พหลโยธิน รวบสาวใหญ่ลักกระเป๋านางแบบดัง “มาริษา ฮอร์น” กลางห้างเซ็นทรัล ลาดพร้าว ขณะเป็นพิธีกรงานวาเลนไทน์แล้วเผลอวางไว้ สาวใหญ่จะแฝงตัวฉวยโอกาสฉกกระเป๋าและทรัพย์สินของเหยื่อในงานตามศูนย์อาหาร และลานแสดงสินค้า หนีไม่รอดกล้องวงจรปิดจับภาพได้ สารภาพทำมานับไม่ถ้วน เมื่อได้กระเป๋าจะเก็บเงิน-ทรัพย์อื่นแล้วนำกระเป๋าทิ้งป้ายรถเมล์หน้าหอวัง
วันนี้ (14 ก.พ.) เมื่อเวลา 09.30 น. พล.ต.ต.สาโรจน์ พรหมเจริญ ผบก.น.2 พ.ต.อ.เจริญ ศณีศศลักษณ์ รอง ผบก.น.2 พ.ต.อ.สุพจน์ พรหมศิริ ผกก.สน.พหลโยธิน และ พ.ต.ท.สุรจิตร เปลี่ยนประเสริฐ สว.สส.สน.พหลโยธิน ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นางมาริสา ควรคำนวณ อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 91/185 แขวงคลองสองต้นนุ่น เขตลาดกระบัง กทม. พร้อมของกลาง กระเป๋าสะพายแบบผู้หญิงจำนวน 6 ใบ โดยกล่าวหาว่าลักทรัพย์ภายในห้างสรรสินค้า
พล.ต.ต.สาโรจน์ กล่าวว่า การจับกุมในครั้งนี้สืบเนื่องมาจากก่อนหน้านี้มีผู้เสียหาย คือ นางสาวมาริษา ฮอร์น อายุ 27 ปี นางแบบสาวชื่อดัง ได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน ว่าถูกคนร้ายฉกประเป๋าถือแบบผู้หญิงภายในกระเป๋ามีทรัพย์และเอกสารจำนวนมาก เมื่อวันที่ 7 ก.ย.51 ที่ผ่านมา โดยนางสาวมาริษาได้ให้การว่า เมื่อวันที่ 6 ก.ย..51 ทางห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล สาขาลาดพร้าว ได้เปิดงานออกบูทโดยการแสดงสินค้ามากมายหลายชนิด และได้รับเชิญไปร่วมงานเป็นพิธีกร หลังจากนั้นก็ได้ว่างกระเป๋าถือไว้ที่ด้านหลังบูทแสดงสินค้าแล้วออกมาทำหน้าที่พิธีกรอยู่หน้างาน พอกลับเข้าไปอีกทีปรากฏว่ากระเป๋าได้หายไป สอบถามพนักงานด้วยกันก็ไม่มีใครเห็นจึงได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สน.พหลโยธิน
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนได้ทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในห้าง พบนางมาริสา คนร้ายดังกล่าวเป็นคนลักกระเป๋าถือของนางสาวมาริษา ดารานางแบบผู้เสียหายไป นอกจากนี้ยังพบว่า นางมาริสาคนร้ายยังมีพฤติการณ์เข้าไปลักทรัพย์ภายในบริเวณศูนย์อาหาร และที่มีการจัดงานแสดงสินค้าภายในห้าง ทาง สน.พหลโยธิน ได้ออกหมายจับไว้แล้วจำนวน 3 ใบ แต่ยังไม่สามารถจับกุมตัวนางมาริสาได้ จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.พหลโยธิน เฝ้าติดตามบริเวณที่มีการจัดงานภายในห้างสรรพสินค้า
กระทั่งเมื่อวันที่ 13 ก.พ.52 ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 17.00 น. บริเวณห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล สาขาลาดพร้าว ได้จัดงานเทศกาลวันวาเลนไทน์ขึ้นโดยมีประชาชนเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก พ.ต.ท.สุรจิตร เปลี่ยนประเสริฐ สว.สส.สน.พหลโยธิน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน จึงได้ดักซุ่มดูอยู่บริเวณงานก็พบนางมาริสาคนร้ายเข้ามาก่อเหตุ จึงแสดงตัวเข้าจับกุมและนำตัวมาทำการสอบสวนที่ สน.พหลโยธิน
จากการสอบสวน ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเคยก่อเหตุลักทรัพย์ลักษณะนี้มาแล้วประมาณ ปีกว่า ทำมาแล้วไม่ต่ำกว่า 10 ครั้ง และก่อนหน้าที่จะถูกจับกุมตัวได้ ทราบว่าที่ห้างสรรสินค้าเซ็นทรัล สาขาลาดพร้าวได้จัดงานวันวาเลนไทน์ และทราบว่ามีประชาชนเข้ามาร่วมงานเป็นจำนวนมากจึงแฝงตัวเข้าไปปะปนกับประชาชนเพื่อหาเหยื่อภายในงาน เมื่อเหยื่อเผลอก็จะทำการฉกกระเป๋า ที่ผ่านมาเมื่อได้กระเป๋ามาแล้วก็จะเอาแต่เฉพาะเงินสดและทรัพย์สินที่มีค่า หลังจากนั้นก็จะเอากระเป๋าไปทิ้งไว้ที่ป้ายรถเมล์ด้านหน้า ร.ร.หอวัง และเอาบัตรประชาชน ผู้เสียหายไปหย่อนไว้ในตู้ไปรษณีย์ โดยทรัพย์สินที่ได้จะนำไปขายเพื่อนนำเงินไปใช้จ่ายทั่วไปและเล่นการพนัน
พล.ต.ต.สาโรจน์ กล่าวต่ออีกว่า ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าตรวจค้นภายในบ้านพักของผู้ต้องหาก็พบของกลางเป็นกระเป๋าแบบผู้หญิงอีก จำนวน 6 ใบ ซึ่งเป็นของผู้เสียหายที่เคยแจ้งความไว้ โดยผู้ต้องหาอ้างว่าเห็นสวยดีและราคาแพงจึงเก็บไว้ใช้เอง ส่วนทรัพย์สินอย่างอื่น เช่น โน้ตบุ๊ก โทรศัพท์มือถือได้นำไปขายจนหมด
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบประวัติผู้ต้องหาทราบว่า เมื่อปี 2548 ผู้ต้องหาเคยติดคุกในข้อหาลักทรัพย์ ท้องที่ สน.ทองหล่อ มาแล้ว ติดอยู่ปีกว่า และพ้นโทษออกมาก็กลับมาก่อเหตุในลักษณะเดียวกันอีก เบื้องต้นจึงได้แจ้งข้อหาลักทรัพย์ ส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
![นางมาริสา ควรคำนวณ อายุ 48 ปี (เสื้อลาย) สาวใหญ่จอมฉกทรัพย์](https://mpics.mgronline.com/pics/Images/552000001838801.JPEG)
![นางสาวมาริษา ฮอร์น อายุ 27 ปี นางแบบสาวชื่อดัง ที่ถูกขโมยกระเป๋า](https://mpics.mgronline.com/pics/Images/552000001838802.JPEG)
วันนี้ (14 ก.พ.) เมื่อเวลา 09.30 น. พล.ต.ต.สาโรจน์ พรหมเจริญ ผบก.น.2 พ.ต.อ.เจริญ ศณีศศลักษณ์ รอง ผบก.น.2 พ.ต.อ.สุพจน์ พรหมศิริ ผกก.สน.พหลโยธิน และ พ.ต.ท.สุรจิตร เปลี่ยนประเสริฐ สว.สส.สน.พหลโยธิน ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นางมาริสา ควรคำนวณ อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 91/185 แขวงคลองสองต้นนุ่น เขตลาดกระบัง กทม. พร้อมของกลาง กระเป๋าสะพายแบบผู้หญิงจำนวน 6 ใบ โดยกล่าวหาว่าลักทรัพย์ภายในห้างสรรสินค้า
พล.ต.ต.สาโรจน์ กล่าวว่า การจับกุมในครั้งนี้สืบเนื่องมาจากก่อนหน้านี้มีผู้เสียหาย คือ นางสาวมาริษา ฮอร์น อายุ 27 ปี นางแบบสาวชื่อดัง ได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน ว่าถูกคนร้ายฉกประเป๋าถือแบบผู้หญิงภายในกระเป๋ามีทรัพย์และเอกสารจำนวนมาก เมื่อวันที่ 7 ก.ย.51 ที่ผ่านมา โดยนางสาวมาริษาได้ให้การว่า เมื่อวันที่ 6 ก.ย..51 ทางห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล สาขาลาดพร้าว ได้เปิดงานออกบูทโดยการแสดงสินค้ามากมายหลายชนิด และได้รับเชิญไปร่วมงานเป็นพิธีกร หลังจากนั้นก็ได้ว่างกระเป๋าถือไว้ที่ด้านหลังบูทแสดงสินค้าแล้วออกมาทำหน้าที่พิธีกรอยู่หน้างาน พอกลับเข้าไปอีกทีปรากฏว่ากระเป๋าได้หายไป สอบถามพนักงานด้วยกันก็ไม่มีใครเห็นจึงได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สน.พหลโยธิน
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนได้ทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในห้าง พบนางมาริสา คนร้ายดังกล่าวเป็นคนลักกระเป๋าถือของนางสาวมาริษา ดารานางแบบผู้เสียหายไป นอกจากนี้ยังพบว่า นางมาริสาคนร้ายยังมีพฤติการณ์เข้าไปลักทรัพย์ภายในบริเวณศูนย์อาหาร และที่มีการจัดงานแสดงสินค้าภายในห้าง ทาง สน.พหลโยธิน ได้ออกหมายจับไว้แล้วจำนวน 3 ใบ แต่ยังไม่สามารถจับกุมตัวนางมาริสาได้ จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.พหลโยธิน เฝ้าติดตามบริเวณที่มีการจัดงานภายในห้างสรรพสินค้า
กระทั่งเมื่อวันที่ 13 ก.พ.52 ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 17.00 น. บริเวณห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล สาขาลาดพร้าว ได้จัดงานเทศกาลวันวาเลนไทน์ขึ้นโดยมีประชาชนเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก พ.ต.ท.สุรจิตร เปลี่ยนประเสริฐ สว.สส.สน.พหลโยธิน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน จึงได้ดักซุ่มดูอยู่บริเวณงานก็พบนางมาริสาคนร้ายเข้ามาก่อเหตุ จึงแสดงตัวเข้าจับกุมและนำตัวมาทำการสอบสวนที่ สน.พหลโยธิน
จากการสอบสวน ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเคยก่อเหตุลักทรัพย์ลักษณะนี้มาแล้วประมาณ ปีกว่า ทำมาแล้วไม่ต่ำกว่า 10 ครั้ง และก่อนหน้าที่จะถูกจับกุมตัวได้ ทราบว่าที่ห้างสรรสินค้าเซ็นทรัล สาขาลาดพร้าวได้จัดงานวันวาเลนไทน์ และทราบว่ามีประชาชนเข้ามาร่วมงานเป็นจำนวนมากจึงแฝงตัวเข้าไปปะปนกับประชาชนเพื่อหาเหยื่อภายในงาน เมื่อเหยื่อเผลอก็จะทำการฉกกระเป๋า ที่ผ่านมาเมื่อได้กระเป๋ามาแล้วก็จะเอาแต่เฉพาะเงินสดและทรัพย์สินที่มีค่า หลังจากนั้นก็จะเอากระเป๋าไปทิ้งไว้ที่ป้ายรถเมล์ด้านหน้า ร.ร.หอวัง และเอาบัตรประชาชน ผู้เสียหายไปหย่อนไว้ในตู้ไปรษณีย์ โดยทรัพย์สินที่ได้จะนำไปขายเพื่อนนำเงินไปใช้จ่ายทั่วไปและเล่นการพนัน
พล.ต.ต.สาโรจน์ กล่าวต่ออีกว่า ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าตรวจค้นภายในบ้านพักของผู้ต้องหาก็พบของกลางเป็นกระเป๋าแบบผู้หญิงอีก จำนวน 6 ใบ ซึ่งเป็นของผู้เสียหายที่เคยแจ้งความไว้ โดยผู้ต้องหาอ้างว่าเห็นสวยดีและราคาแพงจึงเก็บไว้ใช้เอง ส่วนทรัพย์สินอย่างอื่น เช่น โน้ตบุ๊ก โทรศัพท์มือถือได้นำไปขายจนหมด
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบประวัติผู้ต้องหาทราบว่า เมื่อปี 2548 ผู้ต้องหาเคยติดคุกในข้อหาลักทรัพย์ ท้องที่ สน.ทองหล่อ มาแล้ว ติดอยู่ปีกว่า และพ้นโทษออกมาก็กลับมาก่อเหตุในลักษณะเดียวกันอีก เบื้องต้นจึงได้แจ้งข้อหาลักทรัพย์ ส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป