“อำนวย นิ่มมะโน” ยึดคำสั่งศาลปกครอง ออกประกาศเตือนม็อบเสื้อแดงห้ามชุมนุมปิดกั้นสถานที่ราชการ ห้ามบุกรุกสถานที่ราชการ และการชุมนุมต้องสงบและปราศจากอาวุธ ลั่นหากเตือนไม่ฟัง ตำรวจสลายแน่
วันนี้ (13 ก.พ.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล เมื่อเวลา 11.00 น. พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น. กล่าวถึงมาตรการดูแลกลุ่มผู้ชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดงที่จะจัดขึ้นในวันที่ 14 ก.พ.นี้ว่า เป็นเพียงการระดมทุนที่วัดไผ่เขียว เท่าที่ทราบยังไม่มีการกำหนดทิศทางการชุมนุม ซึ่งการดูแลความเรียบร้อยมอบหมายให้ พล.ต.ต.สาโรจน์ พรหมเจริญ ผบก.น.2 จัดกำลังดูแลความเรียบร้อย เชื่อว่าคงไม่มีปัญหาแต่อย่างใด ส่วนกำลังนั้นคงต้องอยู่ที่รายงานด้านการข่าวว่าผู้ที่เข้าร่วมจะมีมากน้อยเพียงใด
พล.ต.ต.อำนวย กล่าวต่อว่า ส่วนมาตรการดูแลกลุ่มผู้ชุมนุมนั้น พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.น.ได้มอบหมายให้ตนจัดทำประกาศของกองบัญชาการตำรวจนครบาล โดยใช้มาตรฐานเดียวกันไม่ว่าจะเป็นม็อบไหนก็ตาม ซึ่งสิ่งที่ห้ามอย่างเด็ดขาด คือ ห้ามปิดกั้นสถานที่ราชการ ห้ามบุกรุกสถานที่ราชการ และการชุมนุมจะต้องอยู่ในกรอบของกฎหมายคือ ชุมนุมกันอย่างสงบและปราศจากอาวุธ
“ในคำประกาศของ บช.น.นั้น ได้นำคำสั่งของศาลปกครองมาเขียนไว้อย่างชัดเจน เนื่องจากศาลปกครองมีคำสั่งเรื่องการชุมนุมไว้อย่างชัดเจนว่าการชุมนุมที่มีการปิดกั้นสถานที่ราชการก็ดี การชุมนุมที่ละเมิดสิทธิของผู้อื่นก็ดี ที่เป็นการสร้างความหวาดกลัวที่เกิดอันตรายแก่ร่างกาย แก่ทรัพย์สิน เสรีภาพ การชุมนุมแบบนั้นถือเป็นการชุมนุมที่ไม่สงบ ไม่อยู่ในกรอบของรัฐธรรมนูญ ตำรวจมีอำนาจหน้าที่ที่จะเข้าสลายการชุมนุมได้” พล.ต.ต.อำนวย กล่าว
รอง ผบช.น.กล่าวต่อว่า มาตรการดูแลกลุ่มผู้ชุมนุมครั้งนี้จึงมีการกำหนดมาตรการในการดูแลกลุ่มผู้ชุมนุมไว้อย่างชัดเจน หากเป็นการชุมนุมในสถานที่ทั่วไป ไม่มีการปิดกั้น จะใช้กำลังตำรวจและโล่เป็นอุปกรณ์เสริม แต่หากเป็นการปิดกั้น บุกรุกสถานที่ราชการ ใช้กำลัง พร้อมโล่และกระบองเป็นอุปกรณ์เสริม แต่ถ้าหากว่าเกิดความวุ่นวายแล้วสั่งให้เลิกแล้วไม่เลิก เจ้าหน้าที่ต้องสลายการชุมนุมเพื่อควบคุมสถานการณ์ และจะดำเนินการด้วยความละมุนละม่อมจากเบาไปหาหนักตามมาตรฐานสากล
พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น.ยังกล่าวถึงมาตรการดูแลเด็กและเยาวชน ในเทศกาลวันวาเลนไทน์ ว่าวันที่ 14 ก.พ.ซึ่งเป็นวันวาเลนไทน์ มีการฉลองเทศกาลแห่งความรัก บช.น.มีความห่วงใยในความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนตลอดจนการล่อลวง ล่วงเกินทางเพศต่อเด็กหรือเยาวชน จึงได้ออกคำสั่งปฏิบัติการที่ 14 ลงวันที่12 ก.พ. แผนระดมป้องกันปราบปรามอาชญากรรมในเทศกาลวันวาเลนไทน์ ประจำปี 2552 ในช่วงระหว่างวันที่ 13-15 ก.พ. และ บช.น.ขอความร่วมมือจากสถานประกอบการ ทั้งผู้ประกอบการโรงแรม หอพัก ห้องเช่า อพาร์ทเม้นต์ตลอดจนสถานบริการ สอดส่องและอย่าให้เด็กหรือเยาวชนเข้าไปใช้บริการเป็นอันขาด บิดามารดาผู้ปกครอง ควบคุมดูแลเด็กเยาวชนในปกครองอย่างใกล้ชิดเพื่อป้องกันไม่ให้ถูกชักจูงไปในทางที่ผิด และหากผู้ใดพบเห็นการกระทำผิดกฎหมายหรือไม่สมควรต่อเด็กหรือเยาวชน สามารถแจ้ง 191 ทราบทันที
รอง ผบช.น.กล่าวต่อว่า เพื่อเป็นการมอบความสุขให้กับประชาชนใน กทม.เนื่องในโอกาสวันแห่งความรัก บช.น.จึงจัดให้มีการระดมป้องกันปราบปรามเหตุประทุษร้ายต่อทรัพย์ ระหว่างเดือน ก.พ.-เม.ย. โดยมุ่งเน้นการป้องกันเหตุประทุษร้ายต่อทรัพย์และสืบสวนจับกุมผู้กระทำผิด ตลอดจนทรัพย์ที่ถูกประทุษร้าย ทั้งคดีเก่าและคดีที่เกิดขึ้นใหม่
ด้าน พล.ต.ต.ภานุ เกิดลาภผล รองผู้บัญชาการ รับผิดชอบงานจราจร เปิดเผยว่า กองบัญชาการตำรวจนครบาลคาดว่า ในเทศกาลวันเวเลนไทน์ปีนี้ จะมีประชาชนเข้าร่วมฉลอง เทศกาลแห่งความรัก ตามสถานบันเทิงต่างๆเป็นจำนวนมาก เนื่องจากเป็นวันหยุดเสาร์อาทิตย์ บช.น. จึงได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจรจาจรแต่ละ สน.ใน เขต บก.น.1-9 และเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร บก.จร ตั้งด่านวัดปริมาณแอลกอฮอลล์ จำนวน 90 จุด ทั่ว กทม. กวดขันจับกุมผู้ขับขี่ ยานพาหนะขณะเมาสุรา เพื่อเป็นการป้องกันอุบัติเหตุจราจรที่อาจเกิดขึ้น จึงฝากประชาสัมพันธ์ถึงประชาชนที่ใช้รถใช้ถนนทุกท่าน ร่วมฉลองเทศกาลวันวาเลนไทร์อย่างปลอดภัยบนท้องถนน หลีกเลี่ยงการขับขี่ยานพาหนะหากดื่มสุรา หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์
พล.ต.ต.อำนวย ยังกล่าวถึงการป้องกันปัญหานักเรียนยกพวกตีกัน ว่า เพื่อเป็นการป้องกันเหตุการทะเลาะวิวาททำร้ายร่างการกัน กองบัญชาการตำรวจนครบาล โดยกองบังคับการตำรวจนครบาล 3 ได้จัดโครงการ “อาชีวะศึกษา ทำดีเพื่อแผ่นดิน ร่วมพลังต้านภัยยาเสพติด “ขึ้นเพื่อให้นักเรียนอาชีวะศึกษาต่างพื้นที่ ใน เขต บก.น.1-4 จำนวน 4 โรงเรียน ประกอบด้วย โรงเรียนเทคโนโลยีดุษิต โรงเรียนเทคโนโลยีช่างอุตสาหกรรมกรุงเทพ โรงเรียนมีนบุรีโปลีเทคนิค และ โรงเรียนเทคโนโลยีบางกะปิด โรงเรียนละ 30 คน มาเข้าค่ายจัดกิจกรรมปลูกจิตรสำนึก สร้างความรักสามัคคี ละลายพฤติกรรม เป็นเวลา 3 วันสามคืน ระหว่างวันที่ 13-15 กพ.52 ที่โรงแรมทิพย์พิมาน อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา และหากรประเมิณแล้วมีประสิทธิภาพ ก็จะดำเนินการต่อ