“ทักษิณ” ส่งทนายฟ้องหมิ่น “เทพเทือก” กล่าวหาว่าหวังเป็นประธานาธิบดี ทนายเผยแจ้งความเอาผิดแล้ว แต่ต้องฟ้องซ้ำอีกเพราะกลัวใช้ตำแหน่งรองนายกฯ ชี้นำคดี ศาลนัดไต่สวน 18 พ.ค.นี้
วันนี้ (13 ก.พ.) เมื่อเวลา 11.00 น.ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีต นายกรัฐมนตรี มอบอำนาจให้ นายอุดม โปร่งฟ้า ทนายความ เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา 326, 328 ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้อง 18 พ.ค. เวลา 09.00 น.
นายอุดม กล่าวว่า มูลเหตุแห่งคดีนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 3 ก.พ.52 นายสุเทพให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนว่าการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ โฟนอินมาหากลุ่มคนเสื้อแดงนั้นต้องการกลับมาเป็นประธานาธิบดี ถ้าประชาชนต้องการก็พร้อมจะกลับมา นอกจากนี้ ในวันที่ 5 ก.พ.52 ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร นายสุเทพยังได้ตอบกระทู้ถามสดของ ร.ต.ท.เชาวริน ลัทธศักดิ์ศิริ ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย เกี่ยวกับกรณีดังกล่าว ยืนยันว่าเชื่อโดยสุจริตใจในการให้สัมภาษณ์ดังกล่าว แสดงให้เห็นว่านายสุเทพไม่สำนึกในการกระทำของตนเอง ที่ผ่านมาทีมทนายความได้ยื่นคำร้องขอความเป็นธรรมไปยังพรรคประชาธิปัตย์ แต่ไม่มีการตอบรับ จึงเตรียมยื่นฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหายจากนายสุเทพ จำนวนไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท รวมทั้งเตรียมยื่นฟ้องนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ และนายสรรชัย อินทรสูตร ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ ในความผิดฐานหมิ่นประมาททำนองเดียวกันช่วงสัปดาห์หน้า
นายอุดม กล่าวอีกว่า แม้ว่าเมื่อสัปดาห์ก่อนทีมทนายจะได้แจ้งความดำเนินคดีต่อนายสุเทพ ในกรณีนี้ไปแล้ว แต่เห็นว่านายสุเทพมีตำแหน่งเป็นรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง เกรงว่าจะเข้าไปมีส่วนได้เสีย หรือชี้นำคดี จึงนำคดีมายื่นฟ้องต่อศาลอีกทางหนึ่ง โดยได้ยื่นหลักฐานให้ศาล เป็นวีซีดี บันทึกคำให้สัมภาษณ์ของนายสุเทพ และเตรียมพยานขึ้นไต่สวนอีก 4 ปาก โดยศาลนัดไต่สวนมูลฟ้อง ในวันที่ 18 พ.ค.52 เวลา 09.00 น.
วันนี้ (13 ก.พ.) เมื่อเวลา 11.00 น.ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีต นายกรัฐมนตรี มอบอำนาจให้ นายอุดม โปร่งฟ้า ทนายความ เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา 326, 328 ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้อง 18 พ.ค. เวลา 09.00 น.
นายอุดม กล่าวว่า มูลเหตุแห่งคดีนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 3 ก.พ.52 นายสุเทพให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนว่าการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ โฟนอินมาหากลุ่มคนเสื้อแดงนั้นต้องการกลับมาเป็นประธานาธิบดี ถ้าประชาชนต้องการก็พร้อมจะกลับมา นอกจากนี้ ในวันที่ 5 ก.พ.52 ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร นายสุเทพยังได้ตอบกระทู้ถามสดของ ร.ต.ท.เชาวริน ลัทธศักดิ์ศิริ ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย เกี่ยวกับกรณีดังกล่าว ยืนยันว่าเชื่อโดยสุจริตใจในการให้สัมภาษณ์ดังกล่าว แสดงให้เห็นว่านายสุเทพไม่สำนึกในการกระทำของตนเอง ที่ผ่านมาทีมทนายความได้ยื่นคำร้องขอความเป็นธรรมไปยังพรรคประชาธิปัตย์ แต่ไม่มีการตอบรับ จึงเตรียมยื่นฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหายจากนายสุเทพ จำนวนไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท รวมทั้งเตรียมยื่นฟ้องนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ และนายสรรชัย อินทรสูตร ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ ในความผิดฐานหมิ่นประมาททำนองเดียวกันช่วงสัปดาห์หน้า
นายอุดม กล่าวอีกว่า แม้ว่าเมื่อสัปดาห์ก่อนทีมทนายจะได้แจ้งความดำเนินคดีต่อนายสุเทพ ในกรณีนี้ไปแล้ว แต่เห็นว่านายสุเทพมีตำแหน่งเป็นรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง เกรงว่าจะเข้าไปมีส่วนได้เสีย หรือชี้นำคดี จึงนำคดีมายื่นฟ้องต่อศาลอีกทางหนึ่ง โดยได้ยื่นหลักฐานให้ศาล เป็นวีซีดี บันทึกคำให้สัมภาษณ์ของนายสุเทพ และเตรียมพยานขึ้นไต่สวนอีก 4 ปาก โดยศาลนัดไต่สวนมูลฟ้อง ในวันที่ 18 พ.ค.52 เวลา 09.00 น.
