รมช.พาณิชย์ “อลงกรณ์ พลบุตร” นำทีมตำรวจ ปศท.เข้าทลายโกดังเก็บของเถื่อนย่านบางขุนเทียน หลังสืบหาข้อมูลอยู่นาน 2 สัปดาห์ ผลการตรวจค้นเจอทั้งเซ็กซ์ทอย-ยาปลุกเซ็กซ์-ปืนปลอม รวมมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท ระบุเป็นสินค้าที่ลักลอบนำเข้ามาจากจีน เชื่อมีเจ้าหน้าที่รู้เห็นเป็นใจปล่อยผ่านด่าน ส่วนรายชื่อ 41 ตร.พัวพันของเถื่อน ถูกส่งถึง สตช.เรียบร้อย อยู่ระหว่างดำเนินการลงโทษทางวินัย
วันนี้ (12 ก.พ.) เวลา 15.00 น. นายอลงกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ พล.ต.ต.โกวิทย์ วงศ์รุ่งโรจน์ ผบก.ปศท. เจ้าหน้าที่กรมทรัพย์สินทางปัญญา พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปศท.กว่า 30 นาย นำหมายค้นเข้าตรวจ บริษัท เจเอ็มที ลาบอเรตอรีส จำกัด เลขที่ 20/2 หมู่ 6 ถนนบางขุนเทียน แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน หลังสืบทราบว่าโกดังดังกล่าวเป็นที่เก็บสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ ยาปลุกเซ็กซ์ เช่นไวอาก้า รวมทั้งอุปกรณ์เซ็กซ์ทอย (อวัยวะเพศชายเทียม)
บริษัทดังกล่าวมีโกดังขนาดใหญ่ปลูกติดกันหลายหลัง จึงกระจายกำลังกันเข้าตรวจค้นโกดัง เลขที่ 1/3 ก็พบสินค้าลอกเลียนแบบละเมิดลิขสิทธิ์จำนวนมาก อาทิ ยาไวอะกร้า อวัยวะเพศชายเทียม สินค้าประเภทข้าวของเครื่องใช้ ของเล่นเด็ก แว่นตา นาฬิกาข้อมือ รวมถึงแผ่นซีดีลามากอนาจารจำนวนมากหลายหมื่นแผ่น รวมมูลค่ากว่า 5 ล้านบาท โดยมีนายอาตี้ สัญชาติจีน อายุ 46 ปี รับว่าเป็นคนเช่าโกดังดังกล่าว จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้เข้าตรวจค้นภายในโกดังเลขที่ 1/7 ก็พบสิ่งเทียมอาวุธปืน ทั้งชนิดสั้นและยาว บรรจุอยู่ภายในกล่องกระดาษจำนวนมาก รวมมูลค่ากว่า 5 ล้านบาท จึงยึดทั้งหมดไว้เป็นของกลาง
พล.ต.ต.โกวิทย์ กล่าวว่า การเข้าตรวจค้นจับกุมสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ครั้งนี้ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่สืบทราบได้ว่ามีโกดังเก็บสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ รวมทั้งยาปลุกเซ็กซ์ และอุปกรณ์ต่างๆ จึงได้ขออนุมัติหมายค้นก่อนเข้าจับกุมดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่ใช้เวลาสืบหาข้อมูลกว่า 2 สัปดาห์ จนทราบว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นของ นายเจริญ อภิโชคสถาพร เบื้องต้นถือว่าเข้าข่ายมีความผิดข้อหาปลอมแปลงเครื่องหมายการค้า หลบเลี่ยงภาษี ผิดกฎหมาย พ.ร.บ.ยา และมีวัตถุลามกอนาจารไว้ในครอบครอง
ด้าน นายอลงกรณ์ กล่าวว่า จากการจับกุมครั้งนี้ถือว่าเป็นการจับกุมรายใหญ่ และน่าเชื่อว่าน่าจะมีขบวนการเกี่ยวข้องอีกมาก ซึ่งจะได้สืบสวนขยายผล และกวาดล้างขบวนการดังกล่าวให้หมดสิ้น เพราะเป็นบ่อนทำลายระบบการค้า ทำลายระบบเศรษฐกิจอย่างมหาศาลแทบล้มละลาย และสินค้าส่วนใหญ่ถูกลักลอบนำเข้ามาจากต่างประเทศ และสินค้าส่วนใหญ่ลอกเลียนตราสินค้าแบรนด์เนม มีชื่อเสียงจากอเมริกา ยุโรป และญี่ปุ่น
สำหรับสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ดังกล่าวถูกนำเข้ามาจากประเทศจีน เป็นการหลบเลี่ยงภาษีอากร และการลักลอบนำสินค้าเหล่านี้เข้ามาน่าจะมีเจ้าหน้าที่ศุลกากรด่านต่างๆ รู้เห็นเป็นใจ ปล่อยให้สินค้าลอกเลียนแบบหนีภาษีเหล่านี้เข้ามาในประเทศได้ หรือมีการสำแดงสินค้าเป็นประเภทอื่นเข้ามาแทน ซึ่งจะได้ตรวจสอบว่าสินค้าพวกนี้ถูกนำเข้ามาทางด่านไหนบ้าง เพื่อหาผู้ที่ร่วมกระทำผิดมาดำเนินการ
“หลังจากเริ่มระดมกวาดล้าง เจ้าหน้าที่ตำรวจโดยเฉพาะสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็จะรายงานการจับกุมให้ทางสำนักนายกฯ เป็นระยะ ส่วนกรณีที่มีรายชื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ 41 นายที่พัวพันกับซีดีเถื่อนหลุดออกมาถึงสื่อมวลชนนั้น ขณะนี้รายชื่อตำรวจทั้ง 41 คนได้ส่งถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กำลังอยู่ในขั้นตอนการดำเนินการลงโทษทางวินัย โดยในสัปดาห์หน้าจะมีการทำไวท์ลิสต์สำหรับตำรวจที่ดี เพื่อตอบแทนสำหรับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรู้ความสามารถตั้งใจจริง” นายอลงกรณ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พนักงานขับรถของบริษัทแห่งหนึ่ง ที่ตั้งอยู่ใกล้เคียงกับโกดังเก็บสินค้าเถื่อน ให้ข้อมูลว่าโกดังแห่งนี้มีคนมาเช่าไว้แล้วกว่า 4 เดือน และจะมีรถคอนเทนเนอร์เข้ามาส่งของ เข้าออกตลอด และมีคนเฝ้าโกดัง โดยปกติก็ไม่มีใครเอะใจว่าโกดังแห่งนี้จะเป็นที่เก็บสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์
