เพลิงไหม้รถแท็กซี่ LPG บนทางด่วนพระราม 4 หลังเพิ่งรับผู้โดยสารและออกจากอู่ย่านรามอันทรา โชเฟอร์เผยเห็นควันและไฟลุกจากห้องเครื่อง ก่อนระเบิดจนหลังคากระเด็นไปถูกรถกระบะที่วิ่งสวนทางมา แต่ตนเองและผู้โดยสารวิ่งหนีออกมาได้ทัน ด้านพนักงานสอบสวนยังไม่สรุปสาเหตุ รอสอบปากคำอีกครั้ง
เมื่อเวลา 15.00 น.วันนี้ (7 ก.พ.) พ.ต.ท.วาทิต อิฎฐกุล สารวัตรเวร สน.ทางด่วน 2 รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้รถแท็กซี่ บนทางด่วนด้านบนถนนพระราม 4 แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กทม.จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยศูนย์ควบคุมระบบทางด่วน 2 และรถน้ำจากสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม.จำนวน 1 คัน
ที่เกิดเหตุอยู่บนทางด่วนฝั่งขาเข้าช่วงก่อนถึงทางลงถนนสีลม ประมาณ 200 เมตร เจ้าหน้าที่พบรถแท็กซี่ยี่ห้อโตโยต้า อัลติส สีชมพู หมายเลขทะเบียน ทม-1593 กทม. จอดอยู่ที่ช่องทางเดินรถด้านซ้ายสุด ในสภาพมีเพลิงลุกไหม้ทั้งคัน จากนั้นก็มีเสียงระเบิดดังขึ้น 1 ครั้ง จนหลังคารถคันดังกล่าวกระเด็นข้ามฟากไปถูกรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน บต-2530 ปทุมธานี ซึ่งกำลังวิ่งสวนทางมาบนทางด่วนฝั่งขาออก จนได้รับความเสียหายเล็กน้อยที่บริเวณกันชนหน้าด้านขวา หน่วยกู้ภัยต้องช่วยกันใช้โฟม น้ำยาเคมี ฉีดสกัดเพลิงโดยใช้เวลาประมาณ 10 นาที เพลิงจึงสงบ
จากการสอบสวน นายวัชรพล วิระภา อายุ 30 ปี โชเฟอร์แท็กซี่คันดังกล่าวให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนขับรถออกจากอู่บุญเยี่ยม ย่านรามอินทรา 39 ไปรับผู้โดยสาร 2 คน ที่หมู่บ้านณิชาดา ย่านประชานิเวศน์ 3 เพื่อจะพาไปส่งย่านสีลม จึงขับรถขึ้นทางด่วนจากงามวงศ์วานวิ่งมาเรื่อยๆ จนถึงช่วงทางลงถนนสีลมก็ได้กลิ่นเหม็นไหม้เลยตัดสินใจจอดรถแล้ววิ่งหนีออกมาจากรถพร้อมผู้โดยสาร จากนั้นก็ทันมีควันและไฟลุกขึ้นอย่างรุนแรงบริเวณห้องเครื่อง ก่อนจะลุกลามเข้าห้องโดยสารอย่างรวดเร็วจนเกิดเสียงระเบิดดังสนั่น จากนั้นเจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงเข้ามาช่วยกันควบคุมเพลิงเอาไว้ได้
ด้าน พ.ต.ท.วาทิต กล่าวว่า เบื้องต้นยังไม่สามารถสรุปสาเหตุที่ทำให้รถเกิดเพลิงไหม้ได้ และยังไม่ได้แจ้งข้อหากับใคร จะต้องเรียกตัวโชเฟอร์แท็กซี่ มาสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้งว่าเกิดจากเหตุสุดวิสัย หรือเกิดจากความประมาท อย่างไรก็ตาม ทราบว่าเจ้าของอู่รถแท็กซี่ กับรถกระบะคู่กรณีนั้น ได้ทำประกันภัยเอาไว้ทั้ง 2 ฝ่ายขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจาชดใช้ค่าเสียหายกันอยู่
