xs
xsm
sm
md
lg

ผู้ปกครอง นร.เตรียมทหารร้องลูกถูกรุ่นพี่รุมตื้บ!

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

ผู้ปกครองนักเรียนเตรียมทหาร สุดทนร้องสื่อลูกชายนักเรียนเตรียมทหาร รุ่น 52 ถูกรุ่นพี่รุมกระทืบทำร้ายร่างกาย ของแหลมกรีดหลัง ปอดอักเสบ แม่ทนพฤติกรรมไม่ไหวให้ลูกชายลาออก ทั้งๆ ที่ลูกรักสถาบันแห่งนี้มาก เผย ที่ผ่านมา 90 วัน ทำหนังสือขอความเป็นธรรมร้องเรียน ผบ.โรงเรียน กลับนิ่งเฉย แฉ มีลูกนายทหารยศ พล.ท.ร่วมแก๊งรุมกระทืบด้วย

วันนี้ (1 ก.พ.) เมื่อเวลา 15.00 น.ที่สมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรมแห่งประเทศไทย นางนฤชล สาริมานธนเดช อายุ 44 ปี อดีตพยาบาลวิชาชีพ 7 ประจำสำนักงานสาธารณสุข จ.นครราชสีมา อยู่บ้านเลขที่ 20/4 ถ.มิตรภาพ ซ.19 อ.เมือง จ.นครราชสีมา ได้เข้าร้องเรียนกับสื่อมวลชน ว่า นายพลภัทร สาริมาน อายุ 16 ปี ลูกชายซึ่งเป็นนักเรียนเตรียมทหาร ชั้นปีที่ 1 ถูกนักเรียนเตรียมทหาร รุ่นพี่ ชั้นปีที่ 2 และ 3 ทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส และทนเห็นลูกชายถูกทำร้ายไม่ได้ จึงต้องให้ลาออกจากโรงเรียนเตรียมทหาร

นางนฤชล กล่าวว่า ลูกชายซึ่งเป็นบุตรชายของ พ.อ.(พิเศษ) ชลากร สาริมาน อายุ 59 ปี ผอ.กองการศึกษา โรงเรียนการบิน ศูนย์การบินทหารบก หลังเรียนจบชั้น ม.3 แล้วได้สอบเข้าโรงเรียนเตรียมทหาร รุ่น 52 ได้โดยเลือกเหล่าตำรวจ กระทั่งเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2551 ได้ถุกรุ่นพี่ทำร้ายร่างกาย หลังจากนั้น เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2551 เวลาประมาณ 17.30 น.ลูกชายได้ถูกรุ่นพี่ชั้นปีที่ 3 ทำร้ายร่างกายภายในโรงเรียนเตรียมทหารอีก โดยผู้ที่ทำร้ายร่างกายลูกชายนั้น มีอยู่หลายคน ประกอบด้วย นายทหารปกครอง กองพันนักเรียนที่ 1 กรมนักเรียนโรงเรียนเตรียมทหาร และนักเรียนเตรียมทหารรุ่นพี่อีก 5 คน ซึ่งในจำนวนนี้มีลูกนายทหารยศพล.ท.รวมอยู่ด้วย

นางนฤชล กล่าวต่อว่า ก่อนที่จะถูกทำร้าย ลูกชายมีอาการไข้สูงและไอ เพราะถูกสั่งให้ยืนตากแดดทั้งวัน หลังจากนั้น ก็ถูกรุ่นพี่ทั้ง 5 คน รุมกระทืบที่ใบหน้าและถูกนำตัวยัดเข้าไปในท่อระบายน้ำ แล้วนำน้ำอัดลมผสมผงโอวัลตินกรอกปาก จนป่วยและมีบาดแผลที่แผ่นหลัง ทั้งรอยกระแทกกับท่อระบายน้ำ และรอยถูกของแหลมกรีดที่แผ่นหลัง ซึ่งไม่ทราบว่านักเรียนรุ่นพี่ใช้อะไรกรีด โดยการกระทำครั้งนั้นถือเป็นครั้งที่ 2 ที่ลูกชายถูกรุมกระทืบ หลังจากที่ครั้งแรกถูกทำร้ายจนกระดูกซี่โครงแทบหักมาแล้ว

“ครั้งนี้ลูกดิฉันถูกทำร้ายจนปอดอักเสบ เจ็บระบมทั่วทั้งตัว ปวดศีรษะแทบระเบิด ต้องบอบช้ำทั้งตัวทั้งจิตใจ จนต้องส่งเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า นานกว่า 10 วัน และผลเอกซเรย์เมื่อวันที่ 10 กันยายน ปรากฏว่า ปอดอักเสบ เพราะสำลักน้ำเข้าปอด และไข้ขึ้นสูงติดต่อกันถึง 8 วัน นอกจากนั้น ยังมีน้ำที่เยื้อหุ้มปอดด้านขวาอีกด้วย” นางนฤชล กล่าว

นางนฤชล กล่าวด้วยว่า หลังจากลูกชายถูกทำร้ายร่างกายแล้ว ได้โทรศัพท์ติดต่อไปยังนายทหารปกครอง พร้อมส่งหลักฐานการเข้ารับการรักษาพยาบาลของลูกชายให้นายทหารปกครอง เพื่อให้ทราบถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ปรากฏว่า ทางโรงเรียนเตรียมทหารไม่ดำเนินการอะไรกับรุ่นพี่ที่ถือว่าเป็นการกระทำเกินกว่าเหตุ ผิดระเบียบวินัยของโรงเรียน และยังถือว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบของทางโรงเรียน

นางนฤชล กล่าวว่า ทำหนังสือขอความเป็นธรรม ถึง พล.ต.พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผบ.โรงเรียน ขอให้สอบสวนข้อเท็จจริง ถ้ารุ่นพี่ทำผิดก็ต้องถูกลงโทษตามระเบียบวินัย เรื่องนี้ไม่อยากให้ทางโรงเรียนรู้สึกว่าผู้ปกครองเข้ามาก้าวก่าย หรือแทรกแซงระบบของโรงเรียน เพราะฉันเคารพกฎระเบียบของโรงเรียนเสมอ และเชื่อในความมีวินัยและเอาใจใส่ของโรงเรียน แต่กรณีลูกชายถูกทำร้ายถึง 2 ครั้ง และตอนนี้เรื่องที่ร้องเรียนไปก็ผ่านมา 90 วันแล้ว แต่ทางโรงเรียนไม่ได้จัดการอะไรเลย ได้รับคำตอบแค่อยากให้เรื่องนี้เงียบไป จึงรู้สึกเสียใจที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม เมื่อวันที่ 20 ม.ค.2552

“เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต้องทำให้ลูกชายต้องนอนสะดุ้งตอนกลางคืนทุกคืน เพราะเกรงว่ารุ่นพี่จะมาทำร้าย และตนกลัวว่า ลูกชายจะถูกทำร้ายจนถึงขั้นเสียชีวิตเหมือนเด็กที่ถูกรุ่นพี่ทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิตเหมือนที่ผ่านมา จึงได้ตัดสินใจให้ลาออกจากโรงเรียน เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม ที่ผ่านมา ทั้งที่ลูกชายมีใจรักในสถาบัน” นางนฤชล กล่าว

นางนฤชล กล่าวด้วยว่า เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.2551 ตนได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.บ้านนา จ.นครนายก แล้ว เพื่อดำเนินการเอาผิดกับทางโรงเรียนที่เพิกเฉยละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ และรุ่นพี่ที่ร่วมกันทำร้ายลูกชาย รวมทั้งเตรียมฟ้องศาล เพื่อเรียกค่าเสียหาย เพื่อเป็นบรรทัดฐานและเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้แก่ลูกชายตนเอง
นางนฤชล สาริมานธนเดช อายุ 44 ปี อดีตพยาบาลวิชาชีพ 7 ประจำสำนักงานสาธารณสุข จ.นครราชสีมา เข้าร้องเรียนกับสื่อมวลชน ลูกชายซึ่งเป็นนักเรียนเตรียมทหาร ชั้นปีที่ 1 ถูกนักเรียนเตรียมทหาร รุ่นพี่ ชั้นปีที่2 และ 3 ทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส
ภาพหลักฐานที่ลูกชายได้รับบาดเจ็บจากการกระทำในครั้งนี้ที่นางนฤชลนำมาแสดงให้สื่อมวลชนได้ดู
กำลังโหลดความคิดเห็น