ปดส.จับเจ้าของธุรกิจนักสืบเอกชน ดีกรีปริญญา 9 ใบ ฐานะดี ลูกนายพล หลอกลวงวางยาเหยื่อสาวข่มขืนเซ็กซ์วิตถารต่อหน้าภรรยา แถมถ่ายคลิปไว้แบล็กเมล์เหยื่อ ย้อนรอยเรียกมากระทำซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนเหยื่อทนไม่ไหวเข้าแจ้งความ โดยก่อนจะร่วมหลับนอนผู้เสียหายระบุจะถูกขู่บังคับให้ดูหนังลามกอนาจารซาดิสต์วิตถารก่อนถูกข่มขืน ตำรวจยึดของกลาง มีทั้งแส้ แผ่นซีดีลามกเพีย
วันนี้ (29 ม.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น.พ.ต.อ.ณพวัฒน์ อารยางกูร ผกก.1 บก.ปดส. พ.ต.ท.คณธัช มุสิกานนท์ รอง ผกก.2 บก.ปดส.พร้อมกำลังนำหมายจับศาลอาญาเข้าทำการจับกุม นายสุรชัย วิวัฒนชาต หรือ เอ็ม อายุ 33 ปี เจ้าของบริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล ดีเทคทีฟ ไทยแลนด์ จำกัด ซึ่งทำธุรกิจนักสืบเอกชนและโรงเรียนนักสืบ ตามหมายจับศาลอาญาที่ 233/2552 ลงวันที่ 27 ม.ค.2552 ในข้อหาร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยใช้กำลังประทุษร้าย, ข่มขืนใจให้ผู้อื่นกระทำการ หรือไม่กระทำการใดโดยใช้กำลังประทุษร้าย, หน่วงเหนี่ยวกักขัง, ใส่ความผู้อื่นให้เสื่อมเสียชื่อเสียงต่อบุคคลที่สาม และหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา พร้อมของกลาง อาวุธปืนยี่ห้อสมิธแอนด์เวสสัน ขนาด 9 มม. กระสุนหัวระเบิด 12 นัดในซองกระสุน วิทยุสื่อสารยี่ห้อโมโตโรล่า มีดพับ บัตรประจำตัวที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ หนังสือพิมพ์โปลิศนิวส์ บัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการปัญหาเส้นเขตแดนและการข่าวความมั่นคงสากล กอ.รมน. และบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ข่าวลับ มณฑลทหารบกที่ 11 โดยจับกุมได้ที่บริเวณลานจอดรถร้านอาหารโออิชิ สาขาพหลโยธิน แขวงจอมพล เขตจตุจักร
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อต้นเดือน ส.ค.2551 ได้มี น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 22 ปี นักศึกษาปริญญาโท มหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่ง พร้อมผู้ปกครอง เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน บก.ปดส.ว่าถูกนายสุรชัยข่มขืนกระทำชำเราแล้วบันทึกภาพ รวมทั้งถ่ายคลิปไว้ข่มขู่ให้มาร่วมหลับนอนด้วยกันอีกหลายครั้ง เหตุเกิดตั้งแต่เดือน เม.ย.2551 เรื่อยมา
จากการสอบสวนทราบว่า น.ส.เอ ได้เข้าไปทำงานที่บริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล ดีเทคทีฟ ไทยแลนด์ จำกัด ที่ นายสุรชัย เป็นเจ้าของ ต่อมา นายสุรชัย ได้หลอกลวง น.ส.เอ ให้ออกไปช่วยทำงานสืบสวนให้ลูกค้ารายหนึ่ง แต่ปรากฏว่า นายสุรชัย ได้พา น.ส.เอ ไปทานอาหารค่ำที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งย่านเกษตรนวมินทร์ หลังจากที่ผู้เสียหายดื่มน้ำไปหนึ่งแก้วก็รู้สึกมึนหัว และหมดสติไปมารู้สึกตัวอีกครั้ง ก็พบว่าตัวเองอยู่ในสภาพเปลือยกายภายในห้องนอน ที่บ้านพักของ นายสุรชัย ย่านดอนเมือง โดยผู้ต้องหาได้นำภาพถ่าย และคลิปวิดีโอที่บันทึกไว้ขณะข่มขืนมาให้ผู้เสียหายดู พร้อมข่มขู่ไม่ให้นำเรื่องไปบอกใคร
หลังจากนั้นมา ผู้เสียหายก็ถูกนายสุรชัยใช้ภาพเหล่านั้น ขู่บังคับให้มาร่วมหลับนอนด้วยกันหลายต่อหลายครั้ง ซึ่งแต่ละครั้งก็จะถูกกระทำในลักษณะที่กระทบกระเทือนร่างกายและจิตใจอย่างรุนแรง เช่น เปิดภาพยนตร์ลามกอนาจารที่ใช้ความรุนแรงหรือวิตถาร หรือที่เรียกว่า หนังซาดิสม์ใต้ดิน ซึ่งไม่มีขายตามท้องตลาด ให้ดูก่อนจะข่มขืน บางครั้งก็บังคับให้ร่วมหลับนอนพร้อมกับภรรยาตัวเองหรือข่มขืนต่อหน้าภรรยา นอกจากนี้ ยังมีการเรียกเพื่อนๆ มาร่วมทำมิดีมิร้ายด้วย จนผู้เสียหายทนพฤติกรรมของผู้ต้องหาไม่ไหว จึงพยายามตีตัวออกห่าง แต่ก็ถูกนายสุรชัยนำภาพไปประจานด้วยการส่งคลิปให้กับเพื่อนสาวของผู้เสียหาย รวมทั้งโทรศัพท์ข่มขู่คุกคามผู้เสียหายและคนรอบข้างต่างๆ นาๆ จนสุดท้ายผู้เสียหายนำเรื่องไปเล่าให้ผู้ปกครองฟังก่อนจะพากันมาแจ้งความกับตำรวจ บก.ปดส.
จากการสอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาและไม่ขอให้การใดๆ อย่างไรก็ตาม ตำรวจ บก.ปดส.ได้นำหลักฐานไปขออนุมัติหมายค้นศาลอาญาเพื่อเข้าตรวจค้นบริษัท และบ้านพักของผู้ต้องหาเพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม นอกจากนี้ ยังได้ส่งชุดสืบสวนออกติดตามจับกุมหญิงสาวรายหนึ่งซึ่งเป็นแฟนสาวของ นายสุรชัย ตามหมายจับศาลอาญาหลังสอบสวนพบว่ามีส่วนร่วมกระทำผิดในครั้งนี้ด้วย
สำหรับ นายสุรชัย หรือ เอ็ม นั้น เดิมชื่อ นายธนะชาต หรือ คณิศร ก่อนหน้านี้ เคยตกเป็นจำเลยคดีใช้กำลังทำร้ายร่างกาย นางอารีวรรณ จตุทอง หรือ อ้วน อดีตรองนางสาวไทย ปี 2537 และอดีตภรรยา เพื่อบังคับให้เดินเปลือยกายในที่สาธารณะและเคยถูกตำรวจ สน.พญาไท ตรวจค้นรถยนต์พบอาวุธปืน จึงจับกุมดำเนินคดีแต่หลังถูกปล่อยตัว นายสุรชัย ได้ย้อนกลับมาใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 ยิงถล่มโรงพัก ซึ่งศาลตัดสินจำคุกอยู่นานหลายปีก่อนจะพ้นโทษออกมา
ทั้งนี้ นายสุรชัย มาจากครอบครัวที่มีฐานะดี มีบิดาเป็นถึงนายพลทหารนอกราชการ ยศ พล.ท.ส่วนตัว นายสุรชัย นั้น ตรวจสอบประวัติการศึกษาพบว่าจบการศึกษาระดับปริญญาหลายสาขาทั้งในและต่างประเทศ และมีดีกรีถึงดอกเตอร์ โดยจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยและสถาบันต่างๆ ได้แก่ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย คณะนิเทศศาสตรบัณฑิต (วิทยุกระจายเสียง/โทรทัศน์) มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช คณะนิติศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยเฟรดเดอริคเทเลอร์ คณะบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต (หลักสูตรผู้บริหาร มหาวิทยาลัยอภิปรัชญาศาสตร์ สาขาอภิปรัชญาศาสตรดุษฎีบัณฑิต, PhD มหาวิทยาลัยแคนเทอเบอรี่ ศาสตราจารย์ ด้าน อาชญวิทยาศาสตร์, Prof สถาบันการบำบัดรักษาด้วยวิธีสะกดจิต ประกาศนียบัตรนักสะกดจิต วิทยาลัยการสืบสวนโกลบอล ประกาศนียบัตรการสืบสวน, DipPI สถาบันการสืบสวนไลอ้อน (LIA), PA, USA ปริญญาบัตรการสืบสวนและรักษาความปลอดภัย, AST (Hon)ประกาศนียบัตรผู้เชี่ยวชาญในการคุ้มกันระยะใกล้, CertBodyguard ประกาศนียบัตรผู้เชี่ยวชาญการใช้ปืนพกชั้นสูง, CertAdvFirearm ประกาศนียบัตรที่ปรึกษาทางด้านการรักษาความปลอดภัย, CSC (Hon.) ประกาศนียบัตรทฤษฎีและการใช้เครื่องจับเท็จ, CertPolygraph สถาบันการบริหารงานรักษาความปลอดภัยนานาชาติ, (ESI), CO, USA ประกาศนียบัตรการคุ้มครองและปฏิบัติการรักษาความปลอดภัย สถาบันวิทยาศาสตร์ประยุกต์แห่งสหรัฐอเมริกา, (AIAS), NC, USA ประกาศนียบัตรนิติวิทยาศาสตร์ DipFS (Hon) ประกาศนียบัตรนิติวิทยาศาสตร์ชั้นสูง DipAdv FS(Hon) สถาบันอบรมนักสืบ, (DTI), CA, USA ประกาศนียบัตรบัณฑิตศึกษาการสืบสวนชั้นสูง, MasterCertPI
หลังจากเปิดบริษัทนักสืบเอกชน และโรงเรียนสอนนักสืบแล้ว นายสุรชัย ก็มีชื่อปรากฏต่อสาธารณะอยู่เป็นระยะ ครั้งสุดท้าย คือ เมื่อวันที่ 12 พ.ค.2550 นายสุรชัย ได้รับเชิญไปออกรายการ “ตู้ซ่อนเงิน” ร่วมกับผู้ร่วมรายการที่มีอาชีพเป็นนักสืบเอกชนโดย นายสุรชัย วิวัฒนชาต ได้รับการแนะนำจากพิธีกรรายการ ว่า เป็นศาสตราจารย์นักสืบเอกชน ปริญญา 9 ใบ โดยระหว่างเล่นเกม นายสุรชัย ได้เข้าไปดูในตู้แล้วทำท่าตะลึง ตาลุกวาว พร้อมล้มลงไปกองกับพื้น ควักยาดมขึ้นมาดม ก่อนที่จะลุกมาด้วยสีหน้าตกใจ และบอกว่าเห็นเงินมากมายในตู้
ต่อมาเวลา 15.30 น.กำลังตำรวจ บก.ปดส.ประมาณ 20 นาย นำโดย ร.ต.อ.โรจน์ศักดิ์ นัยผ่องศรี รอง สว.กก.1 บก.ปดส.เข้าตรวจค้นที่บ้านเลขที่ 169/56 ซอยช่างอากาศอุทิศ 10 แยก 1 ซึ่งเป็นที่ตั้งของบริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล ดีเทคทีฟ ไทยแลนด์ จำกัด และเปิดเป็นศูนย์พัฒนานักสืบสากล เมื่อไปถึงพบว่าบ้านดังกล่าวอยู่ในโครงการหมู่บ้านจัดสรร สูง 2 ชั้น มีรั้วรอบขอบชิด และไม่สามารถมองเห็นจากภายนอกได้ ซึ่งการเข้าตรวจเจ้าหน้าที่พบนายน้อย (นามสมมติ) พนักงานขับรถส่งเอกสาร ซึ่งกำลังนำเอากระเป๋าสีดำ เดินทางออกจากบริษัทดังกล่าว
จากการตรวจสอบภายในกระเป๋าพบแส้ 1 อัน แผ่นซีดีลามกอนาจารประมาณ 100 แผ่น ซึ่งบางส่วนมีการเขียนเลขรหัสกำกับไว้ นอกจากนี้ พบอุปกรณ์ลามกอีกจำนวนหนึ่ง สอบสวนนายน้อย ให้การว่า ได้เตรียมนำกระเป๋าดังกล่าวไปซุกซ่อนไว้ที่นริศาอพาร์ทเม้นท์ ซึ่งอยู่ตรงข้ามกัน โดยไม่ทราบว่าภายในมีอะไรบ้าง ตำรวจจึงเตรียมกันตัวไว้เป็นพยาน
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัว น.ส.เอ (นามสมมติ) พนักงานของบริษัทดังกล่าว พร้อมทั้งนำตัวไปเอาซีพียู ของบริษัทที่ น.ส.เอ นำไปซุกซ่อนที่บ้านย่านดอนเมืองมาตรวจสอบ และจากการตรวจค้นบริษัทพบอาวุธปืนสั้นขนาดต่างๆ จำนวน 4 กระบอก และกระสุนขนาด .38 มม.อีก 100 นัด ซุกซ่อนอยู่ในตู้เซฟ โดย น.ส.เอ ให้การว่า เพิ่งมาทำงานกับ นายสุรชัย ได้ปีกว่า ได้รับเงินเดือน 10,000 บาท ที่ผ่านมา ไม่ทราบว่า เจ้านายจะเป็นคนวิตถารทางเพศ กระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบแผ่นซีดีที่ยึดได้จากนายน้อย เจ้าหน้าที่พบภาพผู้ต้องหากำลังมีเซ็กซ์แบบวิตถารกับผู้หญิงอีกด้วย
ต่อมาเมื่อเวลา 18.00 น.นางธนวรรณ คล้ายแพร อายุ 43 ปี ทำงานเป้นเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเรือนจำคลองเปรม ภรรยา นายสุรชัย ซึ่งผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 234/2552 ลงวันที่ 27 ม.ค.2552 ข้อหาเดียวกับ นายสุรชัย ได้เดินทางเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน บก.ปดส.เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธและไม่ขอให้การใดๆ
วันนี้ (29 ม.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น.พ.ต.อ.ณพวัฒน์ อารยางกูร ผกก.1 บก.ปดส. พ.ต.ท.คณธัช มุสิกานนท์ รอง ผกก.2 บก.ปดส.พร้อมกำลังนำหมายจับศาลอาญาเข้าทำการจับกุม นายสุรชัย วิวัฒนชาต หรือ เอ็ม อายุ 33 ปี เจ้าของบริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล ดีเทคทีฟ ไทยแลนด์ จำกัด ซึ่งทำธุรกิจนักสืบเอกชนและโรงเรียนนักสืบ ตามหมายจับศาลอาญาที่ 233/2552 ลงวันที่ 27 ม.ค.2552 ในข้อหาร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยใช้กำลังประทุษร้าย, ข่มขืนใจให้ผู้อื่นกระทำการ หรือไม่กระทำการใดโดยใช้กำลังประทุษร้าย, หน่วงเหนี่ยวกักขัง, ใส่ความผู้อื่นให้เสื่อมเสียชื่อเสียงต่อบุคคลที่สาม และหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา พร้อมของกลาง อาวุธปืนยี่ห้อสมิธแอนด์เวสสัน ขนาด 9 มม. กระสุนหัวระเบิด 12 นัดในซองกระสุน วิทยุสื่อสารยี่ห้อโมโตโรล่า มีดพับ บัตรประจำตัวที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ หนังสือพิมพ์โปลิศนิวส์ บัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการปัญหาเส้นเขตแดนและการข่าวความมั่นคงสากล กอ.รมน. และบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ข่าวลับ มณฑลทหารบกที่ 11 โดยจับกุมได้ที่บริเวณลานจอดรถร้านอาหารโออิชิ สาขาพหลโยธิน แขวงจอมพล เขตจตุจักร
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อต้นเดือน ส.ค.2551 ได้มี น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 22 ปี นักศึกษาปริญญาโท มหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่ง พร้อมผู้ปกครอง เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน บก.ปดส.ว่าถูกนายสุรชัยข่มขืนกระทำชำเราแล้วบันทึกภาพ รวมทั้งถ่ายคลิปไว้ข่มขู่ให้มาร่วมหลับนอนด้วยกันอีกหลายครั้ง เหตุเกิดตั้งแต่เดือน เม.ย.2551 เรื่อยมา
จากการสอบสวนทราบว่า น.ส.เอ ได้เข้าไปทำงานที่บริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล ดีเทคทีฟ ไทยแลนด์ จำกัด ที่ นายสุรชัย เป็นเจ้าของ ต่อมา นายสุรชัย ได้หลอกลวง น.ส.เอ ให้ออกไปช่วยทำงานสืบสวนให้ลูกค้ารายหนึ่ง แต่ปรากฏว่า นายสุรชัย ได้พา น.ส.เอ ไปทานอาหารค่ำที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งย่านเกษตรนวมินทร์ หลังจากที่ผู้เสียหายดื่มน้ำไปหนึ่งแก้วก็รู้สึกมึนหัว และหมดสติไปมารู้สึกตัวอีกครั้ง ก็พบว่าตัวเองอยู่ในสภาพเปลือยกายภายในห้องนอน ที่บ้านพักของ นายสุรชัย ย่านดอนเมือง โดยผู้ต้องหาได้นำภาพถ่าย และคลิปวิดีโอที่บันทึกไว้ขณะข่มขืนมาให้ผู้เสียหายดู พร้อมข่มขู่ไม่ให้นำเรื่องไปบอกใคร
หลังจากนั้นมา ผู้เสียหายก็ถูกนายสุรชัยใช้ภาพเหล่านั้น ขู่บังคับให้มาร่วมหลับนอนด้วยกันหลายต่อหลายครั้ง ซึ่งแต่ละครั้งก็จะถูกกระทำในลักษณะที่กระทบกระเทือนร่างกายและจิตใจอย่างรุนแรง เช่น เปิดภาพยนตร์ลามกอนาจารที่ใช้ความรุนแรงหรือวิตถาร หรือที่เรียกว่า หนังซาดิสม์ใต้ดิน ซึ่งไม่มีขายตามท้องตลาด ให้ดูก่อนจะข่มขืน บางครั้งก็บังคับให้ร่วมหลับนอนพร้อมกับภรรยาตัวเองหรือข่มขืนต่อหน้าภรรยา นอกจากนี้ ยังมีการเรียกเพื่อนๆ มาร่วมทำมิดีมิร้ายด้วย จนผู้เสียหายทนพฤติกรรมของผู้ต้องหาไม่ไหว จึงพยายามตีตัวออกห่าง แต่ก็ถูกนายสุรชัยนำภาพไปประจานด้วยการส่งคลิปให้กับเพื่อนสาวของผู้เสียหาย รวมทั้งโทรศัพท์ข่มขู่คุกคามผู้เสียหายและคนรอบข้างต่างๆ นาๆ จนสุดท้ายผู้เสียหายนำเรื่องไปเล่าให้ผู้ปกครองฟังก่อนจะพากันมาแจ้งความกับตำรวจ บก.ปดส.
จากการสอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาและไม่ขอให้การใดๆ อย่างไรก็ตาม ตำรวจ บก.ปดส.ได้นำหลักฐานไปขออนุมัติหมายค้นศาลอาญาเพื่อเข้าตรวจค้นบริษัท และบ้านพักของผู้ต้องหาเพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม นอกจากนี้ ยังได้ส่งชุดสืบสวนออกติดตามจับกุมหญิงสาวรายหนึ่งซึ่งเป็นแฟนสาวของ นายสุรชัย ตามหมายจับศาลอาญาหลังสอบสวนพบว่ามีส่วนร่วมกระทำผิดในครั้งนี้ด้วย
สำหรับ นายสุรชัย หรือ เอ็ม นั้น เดิมชื่อ นายธนะชาต หรือ คณิศร ก่อนหน้านี้ เคยตกเป็นจำเลยคดีใช้กำลังทำร้ายร่างกาย นางอารีวรรณ จตุทอง หรือ อ้วน อดีตรองนางสาวไทย ปี 2537 และอดีตภรรยา เพื่อบังคับให้เดินเปลือยกายในที่สาธารณะและเคยถูกตำรวจ สน.พญาไท ตรวจค้นรถยนต์พบอาวุธปืน จึงจับกุมดำเนินคดีแต่หลังถูกปล่อยตัว นายสุรชัย ได้ย้อนกลับมาใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 ยิงถล่มโรงพัก ซึ่งศาลตัดสินจำคุกอยู่นานหลายปีก่อนจะพ้นโทษออกมา
ทั้งนี้ นายสุรชัย มาจากครอบครัวที่มีฐานะดี มีบิดาเป็นถึงนายพลทหารนอกราชการ ยศ พล.ท.ส่วนตัว นายสุรชัย นั้น ตรวจสอบประวัติการศึกษาพบว่าจบการศึกษาระดับปริญญาหลายสาขาทั้งในและต่างประเทศ และมีดีกรีถึงดอกเตอร์ โดยจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยและสถาบันต่างๆ ได้แก่ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย คณะนิเทศศาสตรบัณฑิต (วิทยุกระจายเสียง/โทรทัศน์) มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช คณะนิติศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยเฟรดเดอริคเทเลอร์ คณะบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต (หลักสูตรผู้บริหาร มหาวิทยาลัยอภิปรัชญาศาสตร์ สาขาอภิปรัชญาศาสตรดุษฎีบัณฑิต, PhD มหาวิทยาลัยแคนเทอเบอรี่ ศาสตราจารย์ ด้าน อาชญวิทยาศาสตร์, Prof สถาบันการบำบัดรักษาด้วยวิธีสะกดจิต ประกาศนียบัตรนักสะกดจิต วิทยาลัยการสืบสวนโกลบอล ประกาศนียบัตรการสืบสวน, DipPI สถาบันการสืบสวนไลอ้อน (LIA), PA, USA ปริญญาบัตรการสืบสวนและรักษาความปลอดภัย, AST (Hon)ประกาศนียบัตรผู้เชี่ยวชาญในการคุ้มกันระยะใกล้, CertBodyguard ประกาศนียบัตรผู้เชี่ยวชาญการใช้ปืนพกชั้นสูง, CertAdvFirearm ประกาศนียบัตรที่ปรึกษาทางด้านการรักษาความปลอดภัย, CSC (Hon.) ประกาศนียบัตรทฤษฎีและการใช้เครื่องจับเท็จ, CertPolygraph สถาบันการบริหารงานรักษาความปลอดภัยนานาชาติ, (ESI), CO, USA ประกาศนียบัตรการคุ้มครองและปฏิบัติการรักษาความปลอดภัย สถาบันวิทยาศาสตร์ประยุกต์แห่งสหรัฐอเมริกา, (AIAS), NC, USA ประกาศนียบัตรนิติวิทยาศาสตร์ DipFS (Hon) ประกาศนียบัตรนิติวิทยาศาสตร์ชั้นสูง DipAdv FS(Hon) สถาบันอบรมนักสืบ, (DTI), CA, USA ประกาศนียบัตรบัณฑิตศึกษาการสืบสวนชั้นสูง, MasterCertPI
หลังจากเปิดบริษัทนักสืบเอกชน และโรงเรียนสอนนักสืบแล้ว นายสุรชัย ก็มีชื่อปรากฏต่อสาธารณะอยู่เป็นระยะ ครั้งสุดท้าย คือ เมื่อวันที่ 12 พ.ค.2550 นายสุรชัย ได้รับเชิญไปออกรายการ “ตู้ซ่อนเงิน” ร่วมกับผู้ร่วมรายการที่มีอาชีพเป็นนักสืบเอกชนโดย นายสุรชัย วิวัฒนชาต ได้รับการแนะนำจากพิธีกรรายการ ว่า เป็นศาสตราจารย์นักสืบเอกชน ปริญญา 9 ใบ โดยระหว่างเล่นเกม นายสุรชัย ได้เข้าไปดูในตู้แล้วทำท่าตะลึง ตาลุกวาว พร้อมล้มลงไปกองกับพื้น ควักยาดมขึ้นมาดม ก่อนที่จะลุกมาด้วยสีหน้าตกใจ และบอกว่าเห็นเงินมากมายในตู้
ต่อมาเวลา 15.30 น.กำลังตำรวจ บก.ปดส.ประมาณ 20 นาย นำโดย ร.ต.อ.โรจน์ศักดิ์ นัยผ่องศรี รอง สว.กก.1 บก.ปดส.เข้าตรวจค้นที่บ้านเลขที่ 169/56 ซอยช่างอากาศอุทิศ 10 แยก 1 ซึ่งเป็นที่ตั้งของบริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล ดีเทคทีฟ ไทยแลนด์ จำกัด และเปิดเป็นศูนย์พัฒนานักสืบสากล เมื่อไปถึงพบว่าบ้านดังกล่าวอยู่ในโครงการหมู่บ้านจัดสรร สูง 2 ชั้น มีรั้วรอบขอบชิด และไม่สามารถมองเห็นจากภายนอกได้ ซึ่งการเข้าตรวจเจ้าหน้าที่พบนายน้อย (นามสมมติ) พนักงานขับรถส่งเอกสาร ซึ่งกำลังนำเอากระเป๋าสีดำ เดินทางออกจากบริษัทดังกล่าว
จากการตรวจสอบภายในกระเป๋าพบแส้ 1 อัน แผ่นซีดีลามกอนาจารประมาณ 100 แผ่น ซึ่งบางส่วนมีการเขียนเลขรหัสกำกับไว้ นอกจากนี้ พบอุปกรณ์ลามกอีกจำนวนหนึ่ง สอบสวนนายน้อย ให้การว่า ได้เตรียมนำกระเป๋าดังกล่าวไปซุกซ่อนไว้ที่นริศาอพาร์ทเม้นท์ ซึ่งอยู่ตรงข้ามกัน โดยไม่ทราบว่าภายในมีอะไรบ้าง ตำรวจจึงเตรียมกันตัวไว้เป็นพยาน
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัว น.ส.เอ (นามสมมติ) พนักงานของบริษัทดังกล่าว พร้อมทั้งนำตัวไปเอาซีพียู ของบริษัทที่ น.ส.เอ นำไปซุกซ่อนที่บ้านย่านดอนเมืองมาตรวจสอบ และจากการตรวจค้นบริษัทพบอาวุธปืนสั้นขนาดต่างๆ จำนวน 4 กระบอก และกระสุนขนาด .38 มม.อีก 100 นัด ซุกซ่อนอยู่ในตู้เซฟ โดย น.ส.เอ ให้การว่า เพิ่งมาทำงานกับ นายสุรชัย ได้ปีกว่า ได้รับเงินเดือน 10,000 บาท ที่ผ่านมา ไม่ทราบว่า เจ้านายจะเป็นคนวิตถารทางเพศ กระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบแผ่นซีดีที่ยึดได้จากนายน้อย เจ้าหน้าที่พบภาพผู้ต้องหากำลังมีเซ็กซ์แบบวิตถารกับผู้หญิงอีกด้วย
ต่อมาเมื่อเวลา 18.00 น.นางธนวรรณ คล้ายแพร อายุ 43 ปี ทำงานเป้นเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเรือนจำคลองเปรม ภรรยา นายสุรชัย ซึ่งผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 234/2552 ลงวันที่ 27 ม.ค.2552 ข้อหาเดียวกับ นายสุรชัย ได้เดินทางเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน บก.ปดส.เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธและไม่ขอให้การใดๆ