“พัชรวาท” เชื่อความสามารถของ “ธานี สมบูรณ์ทรัพย์-อัศวิน ขวัญเมือง” จะสะสาง 4 คดีพิเศษ ตามที่นายกรัฐมนตรีมอบหมายได้ พร้อมมั่นใจเสื้อแดงนัดชุมนุมใหญ่ ตำรวจควบคุมได้
วันนี้ (22 ม.ค.) พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เรียก พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) และ พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) เพื่อมอบหมายให้เร่งสืบสวนจับกุม 4 คดีใหญ่ ประกอบด้วย 1.คดีฆ่านักการทูต และนักธุรกิจชาวซาอุดีอาระเบีย 2.คดีฆ่าชิปปิ้งหมู หรือนายกรเทพ วิริยะ พยานปากเอกในคดีเลี่ยงภาษีการนำเข้าอุปกรณ์สื่อสารของบริษัท ชินแซทเทลไลท์ 3.คดีอุ้มฆ่าทนายสมชาย นีละไพจิตร และ 4.คดีลอบยิงสามีรองอธิการบดีมหาวิทยาลัยสแตมฟอร์ด ที่หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ว่าไม่หนักใจเพราะเป็นคดีที่ยังค้าง ยังไม่ทราบตัวคนร้าย การดำเนินการของนายกรัฐมนตรีถือเป็นเรื่องที่ถูกต้อง เนื่องจากคดีฆ่านักการทูตซาอุฯ ปีหน้าจะหมดอายุความ
“โดยคดีเพชรซาอุฯ แยกเป็น 2 ส่วน เรื่องฆ่าเจ้าหน้าที่ทางการทูตซึ่งดีเอสไอกำลังดำเนินการ ซึ่งนายกรัฐมนตรีมอบให้ พล.ต.อ.ธานี และพล.ต.ท.อัศวิน ดำเนินการ ซึ่งผู้ที่ได้รับมอบหมายต้องไปดูต้นเรื่องก่อน และจะต้องวางแนวทางดำเนินการต่อไป ทำเฉพาะเรื่องคิดว่าน่าจะได้ผลดี เป็นคดีเก่าคนที่ทำต้องมีความสามารถและต้องพยายาม ตนมั่นใจว่าจะได้ผลคืบหน้า”
พล.ต.อ.พัชรวาท ยังกล่าวถึงกรณีการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงที่ท้องสนามหลวง ในวันที่ 31 มกราคมนี้ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองกำกับการตำรวจนครบาล พร้อมที่จะดูแลความสงบเรียบร้อยของการชุมนุมใหญ่ของกลุ่มคนเสื้อแดง เนื่องจากมีการชุมนุมมาแล้วหลายครั้ง
ส่วนการเสียชีวิตของ ด.ต.ชิต ทองชิต ผู้ที่ออกมาแฉส่วยทางหลวง ที่กลุ่มสหพันธ์การขนส่งแห่งประเทศไทย เรียกร้องให้หาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษภายใน 30 วันนั้น ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเห็นว่าการสืบสวนจะกำหนดเวลาไม่ได้ แต่ตนได้กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ให้ดำเนินการโดยเร็ว เพราะเป็นคดีสะเทือนขวัญ ซึ่งขอให้รอการสืบสวนก่อนว่าคดีดังกล่าวจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่
วันนี้ (22 ม.ค.) พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เรียก พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) และ พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) เพื่อมอบหมายให้เร่งสืบสวนจับกุม 4 คดีใหญ่ ประกอบด้วย 1.คดีฆ่านักการทูต และนักธุรกิจชาวซาอุดีอาระเบีย 2.คดีฆ่าชิปปิ้งหมู หรือนายกรเทพ วิริยะ พยานปากเอกในคดีเลี่ยงภาษีการนำเข้าอุปกรณ์สื่อสารของบริษัท ชินแซทเทลไลท์ 3.คดีอุ้มฆ่าทนายสมชาย นีละไพจิตร และ 4.คดีลอบยิงสามีรองอธิการบดีมหาวิทยาลัยสแตมฟอร์ด ที่หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ว่าไม่หนักใจเพราะเป็นคดีที่ยังค้าง ยังไม่ทราบตัวคนร้าย การดำเนินการของนายกรัฐมนตรีถือเป็นเรื่องที่ถูกต้อง เนื่องจากคดีฆ่านักการทูตซาอุฯ ปีหน้าจะหมดอายุความ
“โดยคดีเพชรซาอุฯ แยกเป็น 2 ส่วน เรื่องฆ่าเจ้าหน้าที่ทางการทูตซึ่งดีเอสไอกำลังดำเนินการ ซึ่งนายกรัฐมนตรีมอบให้ พล.ต.อ.ธานี และพล.ต.ท.อัศวิน ดำเนินการ ซึ่งผู้ที่ได้รับมอบหมายต้องไปดูต้นเรื่องก่อน และจะต้องวางแนวทางดำเนินการต่อไป ทำเฉพาะเรื่องคิดว่าน่าจะได้ผลดี เป็นคดีเก่าคนที่ทำต้องมีความสามารถและต้องพยายาม ตนมั่นใจว่าจะได้ผลคืบหน้า”
พล.ต.อ.พัชรวาท ยังกล่าวถึงกรณีการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงที่ท้องสนามหลวง ในวันที่ 31 มกราคมนี้ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองกำกับการตำรวจนครบาล พร้อมที่จะดูแลความสงบเรียบร้อยของการชุมนุมใหญ่ของกลุ่มคนเสื้อแดง เนื่องจากมีการชุมนุมมาแล้วหลายครั้ง
ส่วนการเสียชีวิตของ ด.ต.ชิต ทองชิต ผู้ที่ออกมาแฉส่วยทางหลวง ที่กลุ่มสหพันธ์การขนส่งแห่งประเทศไทย เรียกร้องให้หาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษภายใน 30 วันนั้น ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเห็นว่าการสืบสวนจะกำหนดเวลาไม่ได้ แต่ตนได้กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ให้ดำเนินการโดยเร็ว เพราะเป็นคดีสะเทือนขวัญ ซึ่งขอให้รอการสืบสวนก่อนว่าคดีดังกล่าวจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่