คนร้ายทำทีเข้าไปขอดูสร้อยคอทองคำภายในร้านขายทอง แล้วฉวยโอกาสขณะที่พนักงานขายเผลอรวบสร้อยคอทองคำ 3 เส้น หนักเส้นละ 3 บาท มูลค่ารวม 1.2 แสนบาท วิ่งขึ้นรถจักรยานยนต์หลบหนีไปได้ ตำรวจกำลังเร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในร้านที่มีทั้งหมด 6 ตัวด้วยกัน เผยนอกจากกล้องวงจรปิดแล้ว ยังมีเหล็กดัดป้องกันการโจรกรรมอีกต่างหาก
วันนี้ (20 ม.ค.) เมื่อเวลา 12.30 น. พ.ต.ท.สรรเพชร กิตติธรรมโกศล พนักงานสอบสวน (สบ 3) สน.หนองแขม รับแจ้งเหตุวิ่งราวทรัพย์ในห้างทองไท้เส็งเฮง ตั้งอยู่เลขที่ 71/1-2 ถนนเพชรเกษม (ซอย 81/1) แขวงหนองค้างพลู เขตหนองแขม กทม.จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน กำลังเจ้าหน้าที่สายตรวจและฝ่ายสืบสวน
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น 2 คูหา ชั้นล่างเปิดเป็นร้านรับซื้อขายทองรูปพรรณ ตั้งอยู่ห่างจากป้อมควบคุมสัญญาณไฟจราจร สน.หนองแขม เพียง 30 เมตร จากการตรวจสอบภายในร้านพบ น.ส.ดาวเรือง บุญสงวน อายุ 25 ปี พนักงานขาย ซึ่งยืนรอเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยอาการตระหนก พร้อมให้การว่าก่อนเกิดเหตุมีคนร้ายเป็นชายอายุประมาณ 35-40 ปี สูงประมาณ 170 เซนติเมตร ผิวดำแดง สวมเสื้อแจ็กเกตสีดำ นุ่งกางเกงยีนส์ ขับรถจักรยานยนต์ไม่ทราบยี่ห้อ รุ่นและหมายเลขทะเบียน มาจอดบริเวณข้างร้าน ซึ่งขณะนั้นมีลูกค้ายืนเลือกทองอยู่ในร้านประมาณ 6 คน
น.ส.ดาวเรือง ให้การต่อว่า จากนั้นคนร้ายก็เดินเข้าประตูมาทำทีเป็นลูกค้า และขอดูสร้อยทองรูปพรรณ น้ำหนัก 3 บาท จำนวน 3 เส้น มูลค่าประมาณ 120,000 บาท เมื่อตนหยิบออกมาวางให้ดูบนเคาน์เตอร์ คนร้ายก็ทำทีพิจารณาลายทองซึ่งจังหวะนั้นตนก็ต้องบริการลูกค้าคนอื่นๆ ด้วยจึงไม่ได้ระวัง ทำให้คนร้ายสบโอกาสรวบทองคำทั้ง 3 เส้นยัดใส่กระเป๋าเสื้อแจ็กเกตวิ่งออกจากร้านไปสตาร์ทเครื่องรถจักรยานยนต์ขับหลบหนีเข้าไปในชุมชนการค้าหนองแขมหมู่ 2 อย่างรวดเร็ว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เปิดเผยว่า การเก็บลายนิ้วมือแฝงของคนร้ายรายนี้ทำได้ยาก เนื่องจากหลังเกิดเหตุทางพนักงานสอบสวนยังปล่อยให้ลูกค้าคนอื่นๆ วนเวียนอยู่ภายในร้าน ทำให้ขณะนี้ตรวจพบลายนิ้วมือต้องสงสัยกว่า 30 รอย อย่างไรก็ตาม จะนำลายนิ้วมือทั้งหมดไปเทียบกับทะเบียนประวัติอาชญากรอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อหาเบาะแสในการติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
มีรายงานว่า ภายในร้านทองดังกล่าวมีกล้องวงจรปิดติดตั้งทั้งสิ้น 6 จุด และมีการติดตั้งเหล็กดัดป้องกันการโจรกรรมเอาไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว จากการเปิดให้บริการมาทั้งสิ้นกว่า 10 ปี ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ถูกคนร้ายเข้ามาก่อเหตุวิ่งราวทอง ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนจะได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดเพื่อหาหลักฐานมัดตัวคนร้ายรายนี้ต่อไป
วันนี้ (20 ม.ค.) เมื่อเวลา 12.30 น. พ.ต.ท.สรรเพชร กิตติธรรมโกศล พนักงานสอบสวน (สบ 3) สน.หนองแขม รับแจ้งเหตุวิ่งราวทรัพย์ในห้างทองไท้เส็งเฮง ตั้งอยู่เลขที่ 71/1-2 ถนนเพชรเกษม (ซอย 81/1) แขวงหนองค้างพลู เขตหนองแขม กทม.จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน กำลังเจ้าหน้าที่สายตรวจและฝ่ายสืบสวน
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น 2 คูหา ชั้นล่างเปิดเป็นร้านรับซื้อขายทองรูปพรรณ ตั้งอยู่ห่างจากป้อมควบคุมสัญญาณไฟจราจร สน.หนองแขม เพียง 30 เมตร จากการตรวจสอบภายในร้านพบ น.ส.ดาวเรือง บุญสงวน อายุ 25 ปี พนักงานขาย ซึ่งยืนรอเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยอาการตระหนก พร้อมให้การว่าก่อนเกิดเหตุมีคนร้ายเป็นชายอายุประมาณ 35-40 ปี สูงประมาณ 170 เซนติเมตร ผิวดำแดง สวมเสื้อแจ็กเกตสีดำ นุ่งกางเกงยีนส์ ขับรถจักรยานยนต์ไม่ทราบยี่ห้อ รุ่นและหมายเลขทะเบียน มาจอดบริเวณข้างร้าน ซึ่งขณะนั้นมีลูกค้ายืนเลือกทองอยู่ในร้านประมาณ 6 คน
น.ส.ดาวเรือง ให้การต่อว่า จากนั้นคนร้ายก็เดินเข้าประตูมาทำทีเป็นลูกค้า และขอดูสร้อยทองรูปพรรณ น้ำหนัก 3 บาท จำนวน 3 เส้น มูลค่าประมาณ 120,000 บาท เมื่อตนหยิบออกมาวางให้ดูบนเคาน์เตอร์ คนร้ายก็ทำทีพิจารณาลายทองซึ่งจังหวะนั้นตนก็ต้องบริการลูกค้าคนอื่นๆ ด้วยจึงไม่ได้ระวัง ทำให้คนร้ายสบโอกาสรวบทองคำทั้ง 3 เส้นยัดใส่กระเป๋าเสื้อแจ็กเกตวิ่งออกจากร้านไปสตาร์ทเครื่องรถจักรยานยนต์ขับหลบหนีเข้าไปในชุมชนการค้าหนองแขมหมู่ 2 อย่างรวดเร็ว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เปิดเผยว่า การเก็บลายนิ้วมือแฝงของคนร้ายรายนี้ทำได้ยาก เนื่องจากหลังเกิดเหตุทางพนักงานสอบสวนยังปล่อยให้ลูกค้าคนอื่นๆ วนเวียนอยู่ภายในร้าน ทำให้ขณะนี้ตรวจพบลายนิ้วมือต้องสงสัยกว่า 30 รอย อย่างไรก็ตาม จะนำลายนิ้วมือทั้งหมดไปเทียบกับทะเบียนประวัติอาชญากรอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อหาเบาะแสในการติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
มีรายงานว่า ภายในร้านทองดังกล่าวมีกล้องวงจรปิดติดตั้งทั้งสิ้น 6 จุด และมีการติดตั้งเหล็กดัดป้องกันการโจรกรรมเอาไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว จากการเปิดให้บริการมาทั้งสิ้นกว่า 10 ปี ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ถูกคนร้ายเข้ามาก่อเหตุวิ่งราวทอง ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนจะได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดเพื่อหาหลักฐานมัดตัวคนร้ายรายนี้ต่อไป
