รายวัน!..โจรจี้ร้านทองอาละวาดบุกร้านทองรุ่งเจริญ ย่านถนนเอกชัย คว้าท่อนเหล็กยาว 6 นิ้ว ขู่หลานเจ้าของร้านกวาดทองไปได้รวม 3 บาท 1 สลึง ใช้เวลาเพียง 30 วินาที ก่อนขับรถซูบารุหนีลอยนวล ตร.ส่งทีมสกัดแต่ไม่พบร่องรอย ยังดีกล้องวงจรปิดจับภาพได้ เตรียมเรียกเจ้าของรถซูบารุสอบปากคำและออกหมายจับคนร้าย
วันนี้ (5 ส.ค.) เวลา 13.30 น. พ.ต.ท.สุรวุฒิ บุญเกิด พนักงานสอบสวน (สบ.3) สน.บางขุนเทียน รับแจ้งเหตุคนร้ายวิ่งราวทรัพย์ห้างทองรุ่งเจริญ ตั้งอยู่ที่ 11/110 ซอยเอกชัย 25 ถนนเอกชัย แขวงบางขุนเทียน เขตบางบอน กทม.จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พล.ต.ต.ปราโมช ปทุมวงศ์ ผบก.น.9 พ.ต.อ.สุนทร อำพรายน์ ผกก.สน.บางขุนเทียน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.บางขุนเทียน
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ 4 ชั้น 1 คูหา ชั้นล่างสุดเปิดเป็นร้านทอง เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงก็พบ นางสาวเยาวลักษณ์ พรศิริอนันต์ อายุ 38 ปี หลานสาวเจ้าของร้านทอง ยืนรอให้การด้วยอาการตื่นตระหนก
นางสาวเยาวลักษณ์ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตนปฏิบัติงานอยู่หน้าเคาน์เตอร์ และขณะนั้นมีลูกค้าอยู่ในร้าน 1 คน ซึ่งโดยปกติแล้วก่อนที่ลูกค้าจะเข้ามาซื้อทองตนจะต้องกดสวิซต์จากด้านในลูกค้าถึงจะเปิดประตูเข้ามาได้ ก่อนเกิดเหตุคนร้ายได้มายืนที่หน้าร้านและเคาะประตูตนคิดว่าเป็นลูกค้าจึงกดสวิซต์เปิดประตูให้ หลังจากที่กดเปิดประตูคนร้ายได้ผลักประตูเข้ามา และตรงเข้ามาที่เคาน์เตอร์ จากนั้นคนร้ายได้ควักท่อนเหล็กค้ลายแป๊บยาวประมาณ 6 นิ้ว ขึ้นมาข่มขู่ และอ้อมไปด้านหลังเคาน์เตอร์เพื่อกวาดทอง โดยหยิบเอาสร้อยคอทองคำหนัก 1 สลึง 13 เส้นไป แต่คนร้ายได้ทำทองตกไว้ในร้าน 2 เส้น คนร้ายจึงได้ทองไปทั้งหมด 11 เส้น รวม 3 บาท 1 สลึง มูลค่าประมาณ 44,000 บาท ก่อนจะวิ่งออกจากร้านและไปขึ้นรถซูบารุ 4 ล้อ แล้วขับหลบหนีไป
ด้าน พล.ต.ต.ปราโมช กล่าวว่า เบื้องต้นจากการตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดภายในร้านสามารถจับภาพคนร้ายที่เข้ามาก่อเหตุเอาไว้ได้ เป็นชายรูปร่างท้วม อายุประมาณ 30-35 ปี สูงประมาณ 170 ซม.สวมเสื้อเชิ้ต แขนสั้นลายสกอตสีแดง กางเกงยีนส์ รองเท้าแตะสีดำโดยใช้เวลาในการก่อเหตุประมาณ 30 วินาที ก่อนจะขับรถหลบหนีมุ่งหน้าไปทางบางบอน คาดว่าคนร้ายน่าจะมาคนเดียว
พล.ต.ต.ปราโมช กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบรถคันดังกล่าว ทราบว่าเป็นรถซูบารุ หมายเลขทะเบียน ปข 6101 กทม.ซึ่งผู้ครอบครองรถคันดังกล่าว คือ นายประทีป แย้มศักดิ์ อยู่บ้านเลขที่ 66/1 หมู่ 7 ต.ดอนตาเพชร อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี โดยหลังเกิดเหตุได้สั่งเจ้าหน้าที่แบ่งกำลังออกเป็น 5 หน่วย สกัดจับตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะหลบหนี แต่ก็ยังไม่พบร่องรอยแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามจะเชิญตัวเจ้าของรถคันดังกล่าวมาสอบปากคำว่าได้ให้ใครเช่ารถไปและมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ และจะนำภาพจากกล้องวงจรปิดมาขยายเพื่อหาเบาะแสคนร้าย อย่างไรก็ตามจะนำภาพที่ได้จากกล้องวงจรปิดไปขออำนาจศาลออกหมายจับคนร้ายในข้อหาวิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะต่อไป