ศาลพิพากษายกฟ้อง “ลูกชายเสี่ยเซียงกง” ยิงหนุ่มใหญ่ดับคาเก๋งย่านอาร์ซีเอ ศาลชี้ไม่มีประจักษ์พยาน หลักฐานไม่เพียงพอ
วันนี้ (19 ม.ค.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาในคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 9 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายวรเพชร หรือเพชร สมประเสริฐ อายุ 25 ปี บุตรชายเสี่ยเจ้าของร้านจำหน่ายอะไหล่รถยนต์ย่านเซียงกง เป็นจำเลยในความผิดฐานฆ่าผู้อื่น และ พ.ร.บ.อาวุธปืน
คดีนี้โจทก์ฟ้องเมื่อวันที่ 15 พ.ค. 50 ระบุความผิดจำเลยสรุปว่า เมื่อวันที่ 19 ต.ค. 49 เวลากลางคืน จำเลยได้ใช้อาวุธปืนยาวลูกกรดแบบกึ่งอัตโนมัติ ขนาด .22 Long Rifle พร้อมที่เก็บเสียงยิง นายรณชัย อุดมพิบูลย์ 1 นัด ขณะกำลังขับรถยนต์ กระสุนเจาะเข้ากะโหลกศีรษะ จนถึงแก่ความตาย บริเวณหน้าห้างท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต ย่านอาร์ซีเอ ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กทม ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.มักกะสัน ติดตามจับกุมพร้อมยึดอาวุธปืนของกลางได้ที่บ้านพักของจำเลยย่านปทุมวัน กทม.
จำเลยให้การปฏิเสธ อ้างว่าอาวุธปืนดังกล่าวเป็นของคนรู้จักที่นำมาฝากไว้ซึ่งจำเลยไม่เคยใช้อาวุธปืน หรือไปก่อเหตุทำร้ายใคร
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานนำสืบทั้งสองฝ่ายแล้วเห็นว่า ขณะเกิดเหตุเป็นเวลากลางคืนฝ่ายโจทก์ ไม่มีประจักษ์พยานมายืนยันว่าจำเลยใช้อาวุธปืนยิงผู้ตาย มีเพียงเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดที่ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ นำสืบถึงลักษณะของการเสียชีวิต ซึ่งหัวกระสุนไปตรงกับกระสุนปืนของจำเลยเท่านั้น ทั้งจำเลยให้การปฏิเสธมาโดยตลอด พยานหลักฐานของโจทก์ที่นำสืบ ไม่อาจรับฟังเพียงพอที่จะลงโทษจำเลยได้ พิพากษายกฟ้อง
ผู้สื่อข่าวรายงาน สำหรับวันนี้นั้นเป็นการอ่านคำพิพากษาลับหลังจำเลย เนื่องจากเมื่อวันที่ 9 ธ.ค. 51 ศาลได้นัดฟังคำพิพากษามาแล้ว แต่จำเลยกลับไม่มาศาล มีเพียงมารดามาแถลงขอเลื่อนเป็นครั้งที่ 3 อ้างว่าจำเลยมีอาการป่วยโดยไม่มีใบรับรองแพทย์ ศาลเห็นว่าจำเลยมีพฤติการณ์จะหลบหนี จึงให้ออกหมายจับ ปรับนายประกัน และนัดฟังคำพิพากษาในวันนี้อีกครั้ง