รมช.สาธารณสุขเผยเตรียมประสานหมอจีนร่วมรักษาเหยื่อซานติก้าผับ

รมช.สาธารณสุขเยี่ยมเหยื่อซานติก้าผับที่ รพ.จุฬาฯระบุเตรียมนำเรื่องระบบความปลอดภัยเข้าหารือกับ ครม.เพราะมีชาวต่างชาติเข้าไปเที่ยวด้วย ชี้จะประสานแพทย์จากจีนที่ชำนาญการรักษาแผลไฟไหม้ร่วมดูแลเหยื่อ

วันนี้ (1 ม.ค.) เมื่อเวลา 16.30 น. นายมานิต นพอมรบดี รมช.สาธารณสุข พร้อมด้วยนพ.ชาตรี เจริญชีวะกุล เลขาฯ สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (นเรนทร) เดินทางไปเยี่ยมให้กำลังใจผู้บาดเจ็บ ที่เข้ารักษาอยู่ที่ตึกมงกุฎ-เพชรรัตน์ ชั้น 3 โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โดยมีรศ.นพ.สมรัตน์ จารุลักษณานันท์ รอง ผอ.รพ.จุฬาฯ และรศ.นพ.รัฐพลี ภาคอรรถ ผช.รพ.จุฬาฯ ให้การต้อนรับ จากนั้น รมว.สาธารณสุขได้มอบกระเช้าและเยี่ยมให้กำลังใจกับญาติและผู้บาดเจ็บที่นอนรักษาตัวอยู่ที่เตียงคนไข้ โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที

รมช.สาธารณสุข กล่าวภายหลังว่า แพทย์โรงพยาบาลจุฬาฯ ได้รักษาผู้บาดเจ็บอย่างเต็มกำลัง ซึ่งตนมาดูว่าจะประสานหรือช่วยเหลืออะไรเพิ่มเติมได้บ้าง นอกจากนี้ยังได้รับการประสานจากรัฐบาลจีนว่าจะส่งทีมแพทย์และเวชภัณฑ์มาช่วยเหลือด้วย เนื่องจากผู้บาดเจ็บส่วนใหญ่มีอาการจากแผลไฟไหม้ ซึ่งประเทศจีนมีความรู้ความเชี่ยวชาญทางด้านนี้ จึงประสานจะให้ความช่วยเหลือ อย่างไรก็ตาม คงต้องปรึกษาในรายละเอียดกับทีมแพทย์ของเราก่อนว่าจะรับการช่วยเหลือด้านใดบ้าง สำหรับผู้บาดเจ็บที่เข้ารักษาที่ รพ.จุฬาฯ เป็นชาวต่างชาติ 1 ราย คือ Mr.Keiichi Wada ชาวญี่ปุ่นซึ่งอาการหนักอยู่ในห้องไอซียู อย่างไรก็ตาม แพทย์ได้ให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่ โดยมีแพทย์ชาวญี่ปุ่นมาให้ความคิดเห็นด้านการรักษาด้วยและยังเชื่อมั่นในความสามารถของแพทย์ไทยที่ให้การรักษา ซึ่งต้องรอดูอาการอีก 2-3 วัน ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตส่วนใหญ่น่าจะเกิดจากโดนไฟลวก เพราะตรวจพบมีคราบเขม่าในระบบทางเดินหายใจ ไม่น่าจะเกิดจากการเหยียบกันตาย ทั้งนี้ คงต้องรอผลตรวจพิสูจน์ของแพทย์นิติเวชก่อน

รมช.สาธารณสุข กล่าวถึงความพร้อมในการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บออกจากที่เกิดเหตุว่า มีการช่วยเหลืออย่างเต็มที่แล้ว อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาตรวจสอบอาคารดังกล่าวว่า มีการก่อสร้างถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ขณะเกิดเหตุมีการปิดหน้าต่าง ประตูหนีไฟเพื่อความสะดวกของทางร้าน แต่ไม่ได้คำนึงถึงความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวหรือไม่ ซึ่งต้องมีการตรวจสอบอย่างจริงจังและจะได้นำเรื่องนี้เข้าหารือในที่ประชุม ครม.ด้วย เพระสถานที่ดังกล่าวเป็นสถานบันเทิง ที่มีทั้งนักเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติเข้าไปเที่ยวด้วย ซึ่งตนทราบข่าวก็ตกใจ เพราะความเสียหายไม่น่าจะมากถึงขนาดนี้ คงเป็นบทเรียนให้กับทางสำนักบรรเทาสาธารณภัยและกทม.ดำเนินการตรวจสอบอาคารต่างๆ ให้มีความปลอดภัยมากขึ้น

ด้าน รศ.นพ.รัฐพลี กล่าวว่า ผู้บาดเจ็บที่เข้ามารักษาตัวที่ รพ.จุฬาฯ มีจำนวน 13 คน มีอาการหนักอยู่ในห้องไอซียู 5 คน รวมทั้งชาวต่างชาติ คือ Mr.Keiichi Wada ชาวญี่ปุ่น ซึ่งรายนี้แพทย์ได้ผ่าตัดเปิดช่องท้องเพื่อระบายน้ำออกจากร่างกาย และผ่าตัดแผลไฟไหม้บริเวณขา โดยโอกาสรอดชีวิตมีมากกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ แต่ต้องรอดูอาการอีก 2-3 วันหากคนไข้ผ่านช่วงนี้ไปได้ก็น่าจะปลอดภัยแล้ว สำหรับผู้บาดเจ็บที่เหลือนั้นทีมแพทย์ของโรงพยาบาลได้ให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่ บางส่วนก็สามารถกลับบ้านได้แล้ว