โศกนาฏกรรมต้อนรับปีฉลู มิได้เป็นปีวัวธรรมดา หรือวัวพันธุ์เนื้อพันธุ์นมแต่อย่างใด กลับกลายเป็น “วัวกระทิงเปลี่ยว” ที่พรานไพรมักหลีกเลี่ยงไม่อยากเผชิญหน้าด้วยโดยตรง
เหตุการณ์เพลิงไหม้“ซานติก้าผับ”บนถนนเอกมัย จนทำให้มีผู้เสียชีวิต ณ ขณะนี้รวม 59 ศพนั้น แม้จะยังไม่ชัดเจนว่า มีสาเหตุเกิดมาจากอะไร ทั้งไฟเย็นของบรรดาเหยี่ยวราตรี ที่จุดเพื่อเฉลิมฉลองเคานต์ดาวน์ต้อนรับปีใหม่ หรือเอฟเฟคที่ทางผับจัดเตรียมไว้เพื่อความอลังการอันยิ่งใหญ่เป็นการสมนาคุณลูกค้า ซึ่งก็ได้กลายเป็นโศกนาฏกรรมที่ไม่มีใครยากจะให้เกิดขึ้น โดยเฉพาะในเมืองไทย
มีผู้ตั้งข้อสังเกตว่า ซานติก้าผับนั้นถูกตกแต่งและออกแบบให้ต่างไปจากผับอื่นๆ ในย่านเดียวกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวอาคารที่ตั้งของผับนั้น โครงสร้างถูกออกแบบให้ละม้ายโบสถ์เก่าแก่ของคริสต์ศาสนา ซ้ำภายในยังมี“กางเขน” อันเป็นสัญลักษณ์ของพระเยซู ตั้งประดับตระหง่านติดฝาผนัง และตกแต่งด้วยแสงไฟให้สวยงามและน่าเกรงขามยิ่งนัก
ที่สำคัญ ด้านล่างเยื้องที่ตั้งไม้กางเขนนั้น ซานติก้าผับ นำ“หีบศพ” หรือ “โลงศพ” มาตั้งไว้ จะด้วยเหตุผลกลใดไม่ทราบเจตนารมณ์ของผับ แต่อดีตนักดนตรีที่เคยเล่นในผับแห่งนี้บอกกับเราว่า เดิมที ทั้ง “ไม้กางเขน” และ “โลงศพ” นั้นไม่ได้เคยนำมาติดตั้งประดับในผับ แต่อาจจะเป็นไปได้ว่า เมื่อช่วง 31 ตุลาคมที่ผ่านมา อันเป็นเทศกาลฮัลโลวีน ทางผู้บริหารจึงคิดนำทั้ง 2 สิ่งมาตกแต่งภายในผับเพื่อให้เข้ากับบรรยากาศ แต่ข้อมูลดังกล่าวก็ยังไม่เป็นที่ยืนยันว่าทั้ง 2 สิ่งถูกนำมาติดตั้งไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่
จะอย่างไรก็ตาม หลายคนอาจมองว่า “ไม้กางเขน” อันศักดิ์สิทธิ์ ไม่ควรที่จะถูกนำไปติดตั้งในสถานที่อโคจรแห่งนี้เพียงเพื่อประดับตกแต่งให้สวยงาม แต่หากด้วยเจตนาอื่นที่เป็นไปในทางที่ดีนั้น คงไม่เป็นไร
นอกจากนี้ ยังมีการนำ “โลงศพ” ไปติดตั้งประดับ ซึ่งก็เป็นที่ทราบกันอยู่ทั่วไปแล้วว่า “โลงศพ” นั้น ควรจะตั้งอยู่ในที่อันควรตั้ง เพราะศาสนิกชนทุกศาสนาย่อมรู้อยู่แล้วว่า การติดตั้งโลงศพในที่อันไม่สมควรติดตั้งนั้นเป็นมงคลหรือไม่
เรื่องเหล่านี้มิได้นำมาเสนอเพื่อให้ทุกคนเชื่องมงาย แต่โศกนาฏกรรม และความหายนะจะไม่เกิดขึ้น มิใช่เพียงแค่ไม่ควรนำสิ่งนั้นสิ่งนี้ไปติดตั้ง เพียงแต่อยู่ที่ “ความไม่ประมาท” และ “การป้องกัน” ต่างหาก
เหตุการณ์เพลิงไหม้“ซานติก้าผับ”บนถนนเอกมัย จนทำให้มีผู้เสียชีวิต ณ ขณะนี้รวม 59 ศพนั้น แม้จะยังไม่ชัดเจนว่า มีสาเหตุเกิดมาจากอะไร ทั้งไฟเย็นของบรรดาเหยี่ยวราตรี ที่จุดเพื่อเฉลิมฉลองเคานต์ดาวน์ต้อนรับปีใหม่ หรือเอฟเฟคที่ทางผับจัดเตรียมไว้เพื่อความอลังการอันยิ่งใหญ่เป็นการสมนาคุณลูกค้า ซึ่งก็ได้กลายเป็นโศกนาฏกรรมที่ไม่มีใครยากจะให้เกิดขึ้น โดยเฉพาะในเมืองไทย
มีผู้ตั้งข้อสังเกตว่า ซานติก้าผับนั้นถูกตกแต่งและออกแบบให้ต่างไปจากผับอื่นๆ ในย่านเดียวกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวอาคารที่ตั้งของผับนั้น โครงสร้างถูกออกแบบให้ละม้ายโบสถ์เก่าแก่ของคริสต์ศาสนา ซ้ำภายในยังมี“กางเขน” อันเป็นสัญลักษณ์ของพระเยซู ตั้งประดับตระหง่านติดฝาผนัง และตกแต่งด้วยแสงไฟให้สวยงามและน่าเกรงขามยิ่งนัก
ที่สำคัญ ด้านล่างเยื้องที่ตั้งไม้กางเขนนั้น ซานติก้าผับ นำ“หีบศพ” หรือ “โลงศพ” มาตั้งไว้ จะด้วยเหตุผลกลใดไม่ทราบเจตนารมณ์ของผับ แต่อดีตนักดนตรีที่เคยเล่นในผับแห่งนี้บอกกับเราว่า เดิมที ทั้ง “ไม้กางเขน” และ “โลงศพ” นั้นไม่ได้เคยนำมาติดตั้งประดับในผับ แต่อาจจะเป็นไปได้ว่า เมื่อช่วง 31 ตุลาคมที่ผ่านมา อันเป็นเทศกาลฮัลโลวีน ทางผู้บริหารจึงคิดนำทั้ง 2 สิ่งมาตกแต่งภายในผับเพื่อให้เข้ากับบรรยากาศ แต่ข้อมูลดังกล่าวก็ยังไม่เป็นที่ยืนยันว่าทั้ง 2 สิ่งถูกนำมาติดตั้งไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่
จะอย่างไรก็ตาม หลายคนอาจมองว่า “ไม้กางเขน” อันศักดิ์สิทธิ์ ไม่ควรที่จะถูกนำไปติดตั้งในสถานที่อโคจรแห่งนี้เพียงเพื่อประดับตกแต่งให้สวยงาม แต่หากด้วยเจตนาอื่นที่เป็นไปในทางที่ดีนั้น คงไม่เป็นไร
นอกจากนี้ ยังมีการนำ “โลงศพ” ไปติดตั้งประดับ ซึ่งก็เป็นที่ทราบกันอยู่ทั่วไปแล้วว่า “โลงศพ” นั้น ควรจะตั้งอยู่ในที่อันควรตั้ง เพราะศาสนิกชนทุกศาสนาย่อมรู้อยู่แล้วว่า การติดตั้งโลงศพในที่อันไม่สมควรติดตั้งนั้นเป็นมงคลหรือไม่
เรื่องเหล่านี้มิได้นำมาเสนอเพื่อให้ทุกคนเชื่องมงาย แต่โศกนาฏกรรม และความหายนะจะไม่เกิดขึ้น มิใช่เพียงแค่ไม่ควรนำสิ่งนั้นสิ่งนี้ไปติดตั้ง เพียงแต่อยู่ที่ “ความไม่ประมาท” และ “การป้องกัน” ต่างหาก