xs
xsm
sm
md
lg

“ตานวย” พิลึก! ม็อบเสื้อแดงปิดสภายังไม่เข้าข่ายความผิด

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

ม็อบเสื้อแดงป่วนหน้าสภา ขวางแถลงนโยบายรัฐบาล
“พัชรวาท” ประชุมประเมินสถานการณ์ม็อบปิดสภา ขณะที่ “อำนวย” วอนทุกสีคืนความสงบเรียบร้อยให้ กทม. ไม่วายตนเองกลับพูดเข้าข้างเสื้อแดง ระบุม็อบยังไม่มีเหตุรุนแรงใดๆ และไม่ได้มีการปิดกั้นไม่ให้เข้าหรือออก จึงยังไม่เข้าข่ายความผิด

วันนี้ (29 ธ.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล เมื่อเวลา 09.00 น. พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. พล.ต.อ.วิโรจน์ พหลเวชช์ รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.น. เรียกประชุมนายตำรวจระดับ รอง ผบช.น. ผบก.น.1-9 ตัวแทนจากกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1, 2 และ 7 กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน กองบัญชาการตำรวจสันติบาล กองบังคับการปราบปราม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อประเมินสถานการณ์การชุมนุมกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช.ที่ประท้วงไม่ให้มีการแถลงนโยบายรัฐบาล และกดดันให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น.ในฐานนะรองโฆษก บช.น.กล่าวภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม ว่า ในช่วงปีใหม่นี้อยากขอของขวัญปีใหม่เพื่อชาว กทม.จากทุกกลุ่ม ทุกคณะ หรือหากมีการแบ่งสี ก็ขอจากทุกสีเสื้อคืนความสงบเรียบร้อยแก่ชาว กทม. เพราะปี 2551 ที่ผ่านมาเริ่มตั้งแต่ต้นปีมีการชุมนุมประท้วงกันเรื่อยมา จึงอยากวอนให้แก้ปัญหาการเมืองด้วยวิถีทางการเมือง การใช้ความรุนแรงแก้ปัญหานั้นไม่เคยปรากฏและไม่เคยมีชาติใดที่พัฒนาประชาธิปไตยได้

รองโฆษก บช.น.กล่าวต่อว่า ขณะนี้ยอดผู้ชุมนุมที่อยู่ด้านหน้ารัฐสภา ประมาณ 8-9 พันคน แต่ก็ยังไม่มีเหตุรุนแรงใดๆ เกิดขึ้น และไม่ได้มีการปิดกั้นไม่ให้เข้าหรือออก จึงยังไม่เข้าข่ายความผิด เพียงแต่จากการสรุปสถานการณ์นั้น ทางคณะรัฐมนตีเห็นว่าไม่มีความปลอดภัย จึงยังไม่มีการประชุม และคาดว่าจะเลือนไปเป็นเวลา 14.00 น.

พล.ต.ต.อำนวย ยังกล่าวถึงมาตรการดูแลความปลอดภัยช่วงเทศกาลปีใหม่ว่า ตำรวจมีการประสานความร่วมมือระหว่างทหาร โดยกองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ เจ้าหน้าที่เทศกิจจาก กทม.ระดมกำลังเพื่อเป็นการป้องกันเหตุช่วงปีใหม่อย่างเต็มที่ เนื่องจากที่ผ่านมาเคยเกิดเหตุระเบิดรุนแรงในพื้นที่ กทม.จำนวน 9 จุดทำให้ประชาชนเสียขวัญเป็นอย่างมาก โดยจุดนี้จะมีการจัดเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด เข้าตรวจพื้นที่ที่เป็นจุดเสี่ยงเพื่อสร้างความมั่นใจแก่ประชาชน

“ที่ผ่านมาคนร้ายมักนำวัตถุต้องสงสัยมาวางไว้ทั้งในถังขยะ ตู้โทรศัพท์หรือกระถางต้นไม้ หากประชาชนที่อยู่ในพื้นที่หากพบเห็นวัตถุต้องสงสัยสามารถแจ้งได้ ที่หมายเลขโทรศัพท์ 191 ได้ตลอดเวลา ซึ่งตำรวจมีการจัดกำลังเตรียมพร้อมและสามารออกปฏิบัติการได้อย่างทันท่วงที” พล.ต.ต.อำนวย กล่าว

รองโฆษก บช.น.ยังฝากถึงประชาชนที่จะเดินทางไปเที่ยวยังต่างจังหวัดว่า สามารถฝากบ้านกับตำรวจตามโครงการ “ฝากบ้านกับตำรวจ” ได้เช่นเดิม และไม่เพียงฝากกับตำรวจเท่านั้น จำเป็นต้องฝากกับเพื่อนบ้านไว้ด้วยเพื่อความปลอดภัยยิ่งขึ้น ส่วนประชาชนที่จะเดินทางออกต่างจังหวัดนั้นหากใช้รถยนต์ส่วนตัวสิ่งที่จะฝากเตือน คือ ต้องตรวจสอบสภาพรถให้พร้อม และไม่เพียงสภาพรถเท่านั้นสภาพคนก็จำเป็นด้วยการไม่ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ หรือไม่กระทำการใด ๆ ที่เป็นต้นเหตุของความประมาทอันจะก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ อยากให้เดินทางไปกลับอย่างปลอดภัย

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ พล.ต.ต.พงษ์สันต์ เจียมอ่อน รอง ผบช.น.ในฐานะผู้ช่วย ผอ.ศปก.น. ฝ่ายปฏิบัติการมีหนังสือสั่งการให้แต่ละหน่วยจัดกำลังปราบจลาจล ปฏิบัติภารกิจตามที่ได้รับมอบหมายห้ามพกพาอาวุธปืน หรือสิ่งที่อาจใช้เป็นอาวุธร้ายแรงได้ เข้าไปในที่ปฏิบัติการเป็นอันขาด ให้มีการเจรจาต่อรอง และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบก่อนมีการปฏิบัติในแต่ละขั้นตอนทุกครั้งและกำลังพลทุกนายต้องมีความอดทนอดกลั้น ห้ามตอบโต้หรือใช้ความรุนแรงเป็นอันขาด

ในระหว่างปฏิบัติหน้าที่ให้ติดตามเฝ้าฟังสถานการณ์เพื่อให้สามารถปรับกำลังรองรับการปฏิบัติได้ทันท่วงที การสับเปลี่ยนกำลังให้เป็นไปตามยุทธวิธี รายงานสถานการณ์ที่เกิดขึ้นให้ กองอำนวยการร่วม บช.น.ทราบทุกระยะ ให้กองร้อยปราบจลาจลที่ปฏิบัติภารกิจบริเวณรัฐสภา ทำเนียบ และ บช.น.จัดกำลังควบคุม ดูแลป้องกันกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งไว้ในบริเวณดังกล่าว เพื่อดำรงการถ่ายทอดข้อมูลและติดตามสถานการณ์โดยตลอด

ให้รอง ผบก., ผบ.ร้อย ผู้ควบคุมกำลัง ไปรายงานตัวรับมอบภารกิจ ณ กองอำนวยการร่วม บช.น. ก่อนเวลา อย่างน้อย 30 นาที ส่วนกำลังปราบจลาจลให้เข้าประจำจุดตามที่รับมอบหมาย และให้ รอง ผบก.ผู้ควบคุมกำลังรายงานสถานการณ์ ทราบทุกๆ 30 นาที กรณีมีเหตุเร่งด่วนรายงานให้ทราบทันที ให้ดำรงการติดต่อสื่อสารไว้โดยตลอด และเข้าร่วมประชุมสรุปสถานการณ์ประจำวันทุกวันเวลา 10.00 น.และ 16.00 น.ให้จัดเตรียมอุปกรณ์ ไฟฉาย หมวก กุญแจมือ เครื่องกระจายเสียง ให้พร้อมตลอดเวลา ส่วนกระบองให้รวมไว้ที่รถขนส่งกำลัง ทุกหน่วยให้นำรถควบคุมผู้ต้องหา 4 คัน รถตู้มีเครื่องขยายเสียง 2 คัน เครื่องเปล่งเสียงมาด้วย และกำหนดทีมชุดเจรจาต่อรอง ปฏิบัติการทางจิตวิทยาเพื่อเจรจาต่อรองประชาสัมพันธ์ ให้ทุกหน่วยพิจารณาตั้งจุดตรวจค้น ประจำชั่วโมง โดยให้เพิ่มจำนวนจุดตรวจค้น และเพิ่มความถี่ในการดำเนินการ ครอบคลุมพื้นที่และห้วงเวลาเน้นสถานที่ราชการ และบ้านพักบุคคลสำคัญ

สำหรับกำลังตำรวจปราบจลาจล ที่ บช.น.จัดเตรียมไว้สำหรับปฏิบัติภารกิจรักษาความสงบเรียบร้อยในการแถลงนโยบายของรัฐบาล ระหว่างวันที่ 28-30 ธ.ค. บริเวณรัฐสภาและพื้นที่ชั้นใน 9 กองร้อย 1,350 นาย เตรียมพร้อมใน บช.น.จำนวน 2 กองร้อย 300 นาย ทำเนียบรัฐบาล จำนวน 2 กองร้อย 300 นาย บริเวณพื้นที่วงรอบชั้นนอก คือ แยกการเรือน แยกขัติยานี อู่ทองในโค้ง ปตท.สนามเสือป่า และตั้งจุดตรวจตามแยกที่กำหนด 4 จุด) รวม 6 กองร้อย 900 นาย เตรียมพร้อม ณ ที่ตั้งสนับสนุนการปฏิบัติได้ภายใน 2 ชม. จำนวน 8 กองร้อย 1,200 นาย เตรียมพร้อม ณ ที่ตั้ง สนับสนุนการปฏิบัติได้ภายใน 4 ชม. จำนวน 6 กองร้อย 900 นาย

โดยมี พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.น.เป็น ผบ.เหตุการณ์ พล.ต.ต.พงษ์สันต์ เจียมอ่อน รอง ผบช.น.เป็น รอง ผบ.เหตุการณ์ฝ่ายปฏิบัติการ พล.ต.ต.ดำริห์ โชติเศรษฐ์ รอง ผบช.น.เป็น รอง ผบ.เหตุการณ์ฝ่ายประสานข้อมูล พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล รอง ผบช.น.เป็น รอง ผบ.เหตุการณ์ฝ่ายสนับสนุน ผบก.น.1 เป็นผู้ควบคุมการปฏิบัติบริเวณรัฐสภาและพื้นที่โดยรอบและเป็นหัวหน้าชุดเจรจาต่อรอง ผบก.อก.บช.น.เป็นผู้ควบคุมการปฏิบัติการรักษาความปลอดภัยภายใน บช.น.
กำลังโหลดความคิดเห็น